ถนนพระราม 2 กลับมาเป็นเรื่องถูกพูดถึง “อาถรรพณ์ถนนมรณะ” หลังเกิดโศกนาฏกรรมทรัสยกแผ่นปูนก่อสร้างทางหลวงพิเศษพังถล่มลงมาทับคนงานเสียชีวิต 6 ศพ บาดเจ็บ 9 ราย เมื่อไม่นานมานี้
กลายเป็นอุบัติเหตุซ้ำซากจาก “ตัวเลขผู้สังเวยชีวิต” ตามสภาผู้บริโภครายงานในปี 2561-2567 เกิดขึ้นแล้ว 2,242 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 132 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,305 ราย จนหลอกหลอนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนจำเป็นต้องผ่านเส้นทางอาถรรพณ์มรณะนี้ที่ก่อสร้างไม่จบไม่สิ้นมาตั้งแต่ปี 2513 ในรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร และเปิดใช้ในปี 2516
แต่ก็ยังก่อสร้าง ซ่อม ขุด ถมไม่เคยว่างเว้นจนทุกวันนี้ “ทีมสกู๊ป” มีโอกาสเข้าพูดคุยกับ อ.รัชดากร ศิวะไพบูลย์อนันต์ เจ้าของฉายาโหรตาทิพย์ กรรมการด้านวิชาการสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้จับยามสามตาควบคู่กับเปิดไพ่พรหมญาณสำรวจโชคชะตาพื้นที่ล้อมถนนพระราม 2 พบว่า
พื้นที่ตรงนี้ “เจ้าที่เจ้าทางเดิม” เคยปลูกที่อยู่อาศัย หรือทำประโยชน์บนที่ดินครั้งในอดีต และได้ล่วงลับไปแล้วแต่ยังคงสถิตอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ “ท่านค่อนข้างหวงแหนที่ตรงนี้มาก” ทำให้ดวงวิญญาณสะสมบุญบารมีกลายมาเป็นเสมือน “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” คอยปกปักรักษาอาญาบริเวณให้มีความปลอดภัยจากภยันตราย
เช่นนี้ต้องย้อนดูในช่วงแรก “การก่อสร้างถนนพระราม 2” มีการประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านประจำเมือง เทพเทวดา และเจ้าที่เจ้าทางหรือไม่ เพราะเท่าที่จับยามดูเหมือนการประกอบพิธีบวงสรวง และเซ่นไหว้ “ทำไม่ถึง ขอไม่สุด” อาจจะด้วยไม่ให้ความสำคัญ หรือประหยัดเงินค่าใช้จ่ายก็ได้
ในขณะที่การก่อสร้างทางหลวงพิเศษถนนพระราม 2 ค่อนข้างยาว “การขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง จำเป็นต้องเปิดภพเปิดภูมิทั้ง 4 ทิศ” เพื่อให้เทวดามาคอยดูแลรักษาคุ้มครองสอดส่องเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น “แต่เมื่อติดกระดุมเม็ดแรกผิด กระดุมเม็ดต่อๆไปก็ผิดหมดด้วย” ทำให้ก่อสร้างถนนมักเกิดอุบัติเหตุไม่จบไม่สิ้น
นับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “เมื่อจับยามสามตาต่อก็พบสัมภเวสีสะสมอยู่เต็มไปหมด” ส่วนใหญ่เป็นวิญญาณเสียชีวิตตรงจุดนี้คงเป็นผีเร่ร่อนหาที่เกิดใหม่ไม่ได้ “รอบุญกุศล” ส่งผลให้เกิดตัวตายตัวแทนตลอดเวลา
เรื่องนี้ต้องมาทำความเข้าใจว่า “ถนนพระราม 2 เป็นพื้นที่เปิด” ทำให้มีวิญญาณโอปปาติกะจากผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร หรือตายก่อนอายุขัย “ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้” ยังคงวนเวียนอยู่อาณาบริเวณถนนพระราม 2 ค่อนข้างมาก กลายเป็นดวงวิญญาณต้องรออาศัยคนหมดบุญชะตาขาดมาเป็นตัวแทนให้ตัวเองไปสู่ภพภูมิอื่น
อีกส่วนจะเป็น “วิญญาณบุพกรรม” จากคนทำกรรมมานานแล้วถึงเวลามาเสียชีวิตตรงจุดนี้เพื่อมาเป็นวิญญาณเฝ้าอาณาบริเวณ “แทนดวงวิญญาณเก่าที่จะไปอยู่ภพภูมิอื่น” เหตุนี้สิ่งที่จะช่วยส่งดวงวิญญาณเหล่านี้ได้ก็คือ “การทำบุญส่งดวงวิญญาณ” อันเป็นเรื่องเร่งด่วนจำเป็นต้องทำเพราะมีอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นทุกปี
ปัญหาว่า “ผู้เสียชีวิตไม่เคยได้รับบุญกุศลให้ไปสู่ภพภูมิอื่น” กลายเป็นดวงวิญญาณสะสมเพิ่มมากขึ้น เช่นนี้อุบัติเหตุก็จะไม่มีวันจบโดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ 2568 ค่อนข้างน่าเป็นห่วงอาจเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นอีก
ยิ่งถ้าคำนวณแล้ว “อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นทุก 3 เดือน หรือ 100 วัน” หากดูตามไพ่พรหมญาณก็ตรงกัน คือ “หน้าไพ่เป็นท่านยมทูต และท่านยมบาล” อันเกี่ยวกับดวงวิญญาณที่ไม่ไปผุดไปเกิดวนเวียนอยู่ตรงนั้นล้วนๆ
“ดังนั้น การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่แบบนี้ต้องทำบุญกุศลให้มากจะช่วยเปิดทางเพิ่มความเป็นสิริมงคลเพราะเท่าที่สัมผัสเห็นไม่ใช่เฉพาะเจ้าที่เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างถนนพระราม 2 แต่มีวิญญาณจรขออยู่ และรออยู่เต็มไปหมด เมื่อการทำพิธีขออนุญาตไม่ถึงย่อมมีตัวตายตัวแทนเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่องตลอด” อ.รัชดากรว่า
ถ้าย้อนมาถามว่า “ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองเกี่ยวข้องหรือไม่” ตามที่จับยามสามตาคู่กับเปิดไพ่ยังไม่เห็นพลังงานจาก “เจ้าแม่ตะเคียน” เพราะปกติแล้วเจ้าแม่ตะเคียนมักต้องการการฟื้นฟูพัฒนาสู่ความเจริญ หากสิ่งใดทำไปเพื่อนำสู่ความเจริญ “กระทบเจ้าแม่ตะเคียนท่านโอเค” มักไม่มีผลให้ท่านไม่พอใจในเรื่องนั้น
เว้นแต่ผลกระทบกับ “เจ้าแม่งูจงอาง” ตามการจับยามเห็นใต้ถนนพระราม 2 “ลักษณะเป็นระบบคลองน้ำ” จึงไม่แน่ใจช่วงเริ่มก่อสร้างมีการถมที่ดิน หรือถมสิ่งใดมาก่อนหรือไม่ “แต่ระบบน้ำนี้ได้กระทบต่อเจ้าแม่งูจงอาง” ทำให้ท่านไม่ต้องการให้มีก่อสร้างถนนในอาณาบริเวณแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
อีกประการคือ “ตอกตอม่อ” ในช่วงแรกของการก่อสร้างกลับไม่ปรากฏพบ “การเบิกธรณีสาร” อันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตอกตอม่อต้นแรก ฉะนั้นเมื่อไม่มีการบอกกล่าว “เจ้าที่เจ้าทาง” ย่อมส่งผลเสียต่อการก่อสร้างไม่ราบรื่น “ไม่ประสบความสำเร็จ” มักต้องเจออุปสรรคต่างๆนานา ทำให้โครงการเกิดความล่าช้ามาโดยตลอดก็ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ “จำเป็นต้องทำบุญกุศลใหญ่” เพื่อเปิดภพเปิดภูมิ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 ชั้นภูมิบาดาล รวมถึงเรียกเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าแม่งูจงอาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอขมาสิ่งที่เราก้าวล่วงทำผิดพลาดไป “ขอให้ท่านละเว้นโทษ” แล้วอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ สิ่งนี้จะแก้ไขได้หากวิญญาณสัมภเวสีได้รับบุญกุศลก็มีโอกาสไปอยู่ภพภูมิอื่น
เพียงแต่ว่า “ต้องนิมนต์พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หรือผู้มีสิ่งบริสุทธิ์หมอทำพิธีเก่งๆ” อันเป็นผู้มีภูมิธรรมยามบารมีสูงสามารถเปิดภพเปิดภูมิ และสื่อสารกับวิญญาณมาเป็นเจ้าพิธีก็จะช่วยแก้เรื่องนี้ เพราะตามการทำนายไพ่เห็นว่า “คนงานเสียชีวิตไม่ได้รับผลบุญ อะไร” คงวนเวียนอยู่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างเต็มไปหมด
แนะนำต่อว่า “ไม่ควรนำสิ่งที่มีบารมีสูงมาป้องกัน” เพราะเป็นเพียงการควบคุมกดวิญญาณสิ่งไม่ดีไว้ชั่วคราว “แต่วิญญาณยังอยู่ไม่หายไปไหน” ทำให้เรื่องราวไม่ดีมีโอกาสเกิดขึ้นเช่นเดิม โดยเฉพาะช่วงข้างขึ้นข้างแรม จันทรคติ หรือพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกที่เป็นความทุกข์ยากที่เกิดซ้อนๆเข้ามาในขณะเดียวกัน
ฝากไว้สำหรับ “ธุรกิจก่อสร้างขนาดใหญ่” อย่ามองข้ามสิ่งที่มองไม่เห็น จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีพิธีบวงสรวงบอกกล่าวขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง แม่พระธรณีปกปักษ์รักษาให้ผืนแผ่นดินมีความอุดมสมบูรณ์ และเซ่นไหว้สัมภเวสี เพื่อจะทำให้อุปสรรคต่างๆ ไม่เกิดขึ้น ส่งผล
ให้การงานประสบความสำเร็จราบรื่นไปด้วยดี
เรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าไปลบหลู่ “หากไม่แก้ไขตามกล่าวมาอุบัติเหตุมีโอกาสเกิดขึ้นเรื่อยๆแน่นอน” ดังนั้น ควรจัดทำบุญใหญ่ขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าแม่งูจงอาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สัมภเวสี “เอาบุญกุศลนำหน้า” ก็เชื่อว่างานทุกอย่างจะราบรื่นไปในทางที่ดีขึ้น.
คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ