
“7 บอสหญิง” ดิไอคอนฯ นอนคุกคืนแรก พบบางคนความดันโลหิตสูง มีไข้ คาดสาเหตุจากความเครียด แต่ได้พาไปพบแพทย์แล้ว
วันที่ 18 ตุลาคม 2567 มีรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 17 คน ขึ้นรถไปยังเรือนจำ โดยผู้ชาย 10 คน คุมตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วนผู้หญิง 7 คน ไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
นายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ หลังจากรับตัว 10 บอสชายเข้าสู่เรือนจำ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนตามปกติเหมือนนักโทษทั่วไป คือ ตรวจร่างกาย เปลี่ยนชุดนักโทษ สีน้ำตาล ซักประวัติ ดูประวัติการรักษาโรค และควบคุมเข้าพื้นที่แดนกักโรค เป็นเวลา 5 วัน
เบื้องต้นจากการตรวจร่างกาย พบ 2 รายมีโรคประจำตัว คือ บอสวิน เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และ บอสแล็ป เป็นโรคไต มีใบเอกสารรักษาตัวและใบยาชัดเจน
ภาพรวมผู้ต้องขังคนอื่น ๆ โดยเฉพาะบอสดาราอย่าง บอสแซม และ บอสกันต์ เมื่อคืนนี้เครียดมาก นอนไม่ค่อยหลับ มีการเอ่ยปากพูดร้องขออยากเจอญาติ แต่ถูกปฏิเสธเพราะต้องเป็นไปตามระเบียบ คือ 5 วันแรกไม่สามารถพบญาติได้ นอกจากทนายความ
สำหรับเมนูแรกเมื่อคืนนี้ที่กลุ่มบอสชายได้รับประทาน คือ เมนูแกงเผ็ดปลามะเขือเปราะ และผัดผักคะน้าใส่ไก่ ส่วนเช้าวันนี้เป็นเมนูแกงเขียวหวานไก่ใส่ฟัก และข้าวสวย
ส่วนทางฝั่งทัณฑสถานหญิงกลาง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ให้ข้อมูลว่า บอสที่เป็นผู้หญิงทั้ง 7 คน เมื่อคืนนี้มาถึงเรือนจำประมาณ 2 ทุ่มกว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ ซักประวัติ ตรวจสุขภาพ มี 3-4 คนที่มีโรคประจำตัว บางคนมีไข้ บางคนความดันโลหิตสูง คาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียด ซึ่งเช้าวันนี้ก็ได้พาไปพบแพทย์แล้ว ซึ่งเมื่อคืนนี้ ทางเรือนจำได้เตรียมเมนูซุปไก่กับข้าวสวยไว้ให้ แต่ 7 บอสผู้หญิงไม่มีใครรับประทาน
โดย 7 บอสอยู่ด้วยกันในแดนกักกันโรค 5 วัน ไม่ได้แยกจากกัน เพราะดูพฤติกรรมแล้วไม่มีการทะเลาะกัน โดยคืนแรกทั้งหมดก็พอนอนได้ ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำ ทานข้าว
ส่วน บอสมิน ได้สอบถามถึงการเข้าเยี่ยม ซึ่งทนายความหรือพนักงานสอบสวน สามารถเข้าเยี่ยมได้ตลอด แต่ญาติจะเยี่ยมได้หลังกักโรค 5 วัน คือ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 สำหรับของฝากที่จะสามารถนำเข้าไปได้จะมียาที่มีใบรับรองแพทย์เท่านั้น และของใช้จำเป็น ซึ่งบอสมินก็เข้าใจ.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ