“บิ๊กต่าย” รักษาการ ผบ.ตร. ถกล้อมคอกอุบัติเหตุรถทัวร์นักเรียนทัศนศึกษาไฟลุกไหม้ ระบุ “กรมการขนส่ง-ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ” ต้องเข้มตรวจสภาพรถ-สภาพคนขับ พร้อมยืนยันดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่กับคนขับ-บริษัทเจ้าของรถ

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 2 ตุลาคม 2567 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวถึงเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียนเกิดเหตุเพลิงไหม้ ว่า การสอบสวนขณะนี้มีความคืบหน้าไประยะหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค. ได้ตัวผู้ต้องหามาแล้วและสอบปากคำไว้แล้ว ตอนนี้ยังอยู่ในความควบคุมที่สถานีตำรวจภูธรคูคต

ส่วนการตรวจพิสูจน์รถ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับกรมการขนส่งฯ อยู่ระหว่างร่วมกันตรวจสภาพ ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์และการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอต้องเรียนว่า ทั้งร่างผู้เสียชีวิตและดีเอ็นเอจากญาติเราเก็บได้ทั้งหมด 22 รายแล้ว สามารถพิสูจน์บุคคลได้ถึง 22 ราย และรายที่ 23 จริงๆ เรารู้แล้วว่าเป็นเด็กคนไหน แต่อยู่ระหว่างการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากมารดา ซึ่งมารดาขอเดินทางมาที่สถาบันนิติเวชเอง และคิดว่าทั้งหมดจะเสร็จในช่วงของเย็นวันเดียวกันนี้ ขณะที่การส่งร่างผู้เสียชีวิต นายกฯ ให้ความห่วงใย เราได้มีการจัดรถมูลนิธิและรถนำรถปิดท้าย ซึ่งจะปล่อยขบวนไม่เกินในชั่วโมงนี้ จะมีการรับศพออกจากทางสถาบันนิติเวชเดินทางสู่ จ.อุทัยธานี ซึ่งจะแบ่งขบวนเพื่อไม่ให้ขบวนยาวเกินไป

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำหรับผลการสอบสวนและการตรวจพิสูจน์รถ สิ่งเหล่านี้ที่นายกรัฐมนตรีได้กรุณานั่งประชุมจะนำไปสู่การวางมาตรฐานกฎเกณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะจะเน้นไปที่เรื่องเด็ก เยาวชน นักศึกษา ที่จะต้องไปทำทัศนศึกษาดูงานซึ่งมีความจำเป็นสำหรับเด็ก เราจะมีมาตรการทั้งส่วนกรมการขนส่ง ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ที่จะช่วยกันดูสภาพรถ การตรวจพนักงานขับรถ บริษัทเอกชนที่ให้บริการรถสาธารณะ จะต้องทำอย่างไร ระหว่างทางจะต้องมีการหยุดตรวจสภาพคนขับและรถอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเคร่งครัดและวางกันในอนาคตต่อไป

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องของการสอบสวนคนขับรถ เดี๋ยวจะเข้าไปดูในรายละเอียด แต่เบื้องต้นยืนยันว่าดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ทั้งตัวบุคคลและบริษัทเจ้าของรถ