วอดทั้งหลัง ไฟไหม้ร้านขายของ 20 บาท ใน จ.สมุทรสาคร เสียหายส่งท้ายปี พนักงาน-ลูกค้า พากันวิ่งหนีตาย ชาวบ้านเผย ก่อนเกิดเหตุเห็นกลุ่มวัยรุ่นจุดพลุโอ่งหน้าร้าน

เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 30 ธันวาคม 67 ร.ต.ท.กิตติวัฒน์ สุวรรณประเสริฐ รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้าน “ยี่จั๊บ” ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้า 20 บาท และของใช้เบ็ดเตล็ดจำนวนมาก ตั้งอยู่ติดกับริมถนนเศรษฐกิจภายในพื้นที่ตลาดนัดต้นสนไนท์พลาซ่า หมู่ที่ 4 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 

จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายบรรพต จันทรวงศ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน พ.ต.อ.สร ซื่อตรงพานิช ผกก.สภ.กระทุ่มแบน นายอนุตร ปางพุฒิพงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ท่าไม้ เข้าระงับเหตุ

แต่เนื่องจากร้านขายของ 20 บาทแห่งนี้ แม้จะเป็นร้านแบบชั้นเดียว แต่ก็มีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ ภายในมีสินค้าอยู่จำนวนมาก จึงทำให้ไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง อีกทั้งจุดที่เกิดเหตุนอกจากจะใกล้กับพื้นที่จัดตลาดนัดแล้ว ห่างจากด้านหลังของร้าน “ยี่จั๊บ” ไม่ถึง 20 เมตร ยังมีชุมชนซอยร่วมใจ 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนประชาชนหลายหลังคาเรือน ดังนั้นจึงได้ขอรถน้ำดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในพื้นที่รวมกว่า 10 คันมาช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ

โดยขณะที่กำลังดับไฟอยู่นั้น ก็มีเสียงคล้ายพลุระเบิด หรือ แก๊สกระป๋องระเบิดดังเป็นระยะๆ ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง แต่ก็ได้เผาร้านขายของจนวอดทั้งตัวร้านและสินค้าที่อยู่ภายในทั้งหมด โชคดีที่พนักงานในร้าน 5 คน และลูกค้าหนีออกมาได้ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใดทั้งสิ้น

จากการสอบถามคนในบริเวณที่เกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นมีเด็กวัยรุ่นผู้ชาย อายุน่าจะประมาณ 14 – 15 ปี จุดพลุโอ่งหน้าร้าน 20 บาท  แต่ลักษณะการแตกของพลุไม่ได้พุ่งขึ้นฟ้า แต่แตกกระจายไปรอบทิศทาง ทำให้มีประกายไฟพุ่งไปติดกับพวงสายรุ้งที่ใช้ประดับประดาในช่วงเทศกาลปีใหม่ และต้นคริสต์มาสที่ทางร้านแขวนไว้หน้าร้าน

จากนั้นก็เกิดไฟลุกพรึ่บทันที เปลวไฟได้ลุกลามเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว พนักงานขายของและลูกค้ารีบวิ่งหนีออกมาได้ทัน ส่วนไฟลามเข้าไปตรงจุดที่วางพลุและดอกไม้เพลิง จึงเกิดการระเบิดอีกระลอก ภายในร้าน ทำให้ไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ก่อนที่จะกระจายไปทั่วทั้งร้านจนวอดทั้งหมด มูลค่าความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 – 6 ล้านบาท

ด้านนายฉัตรชัย เนตรแขม อปพร.อบต.ท่าไม้ ซึ่งได้มาปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในตลาดนัดฯ ช่วงเกิดเหตุก็เล่าว่า ตอนนั้นตนเองดูแลความเรียบร้อยอยู่ด้านในตลาดนัด จึงไม่เห็นว่าใครเป็นคนจุด แต่ได้ยินเสียงพลุระเบิดดังขึ้น แล้วไม่นานก็มีเสียงร้องเอะอะโวยวายว่า ไฟไหม้ร้านขายของ 20 บาท ตนและอปพร.คนอื่นๆ จึงได้รีบวิ่งกันมาเพื่อช่วยระงับเหตุ โดยได้คว้าเอาถังดับเพลิงมาด้วยหวังฉีดดับไฟ แต่ปรากฏว่าพอจะวิ่งเข้าไปดับไฟนั้น ก็มีเปลวไฟพุ่งสวนออกมาจากในร้าน ทำให้ทุกคนต้องวิ่งหลบ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต จากนั้นเปลวเพลิงก็โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง จนต้องประสานขอรถน้ำดับเพลิงเข้าช่วย

ต่อมา นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร ได้เดินทางมาติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน พร้อมกล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้ร้านแห่งนี้โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่ชัดเจนต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่เบื้องต้นทราบว่าด้านในร้านมีการลักลอบจำหน่ายดอกไม้เพลิง และพลุไฟ ให้แก่พี่น้องประชาชน

ซึ่งเรื่องการลักลอบจำหน่ายวัตถุอันตรายดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดทุกพื้นที่มีการกวดขัน ในเรื่องของการลักลอบจำหน่ายดอกไม้เพลิง พลุไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายๆ ขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ อีกทั้งยังได้สั่งให้จังหวัด และอำเภอ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ มีการกวดขันในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยทั้งอุบัติเหตุและอุบัติภัยต่างๆ ในทั่วทุกพื้นที่

ซึ่งทางจังหวัดสมุทรสาครก็ได้มีการกวดขัน และประชาสัมพันธ์กันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในเหตุการณ์นี้ที่พบว่าทางร้านมีการลักลอบจำหน่ายพลุไฟ หรือดอกไม้เพลิงนั้น ก็จะต้องถูกสอบสวนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ยังขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ในเรื่องของการจุดพลุ หรือดอกไม้เพลิง หรือการกระทำการอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายกัน ต้องขออนุญาตต่อนายอำเภอท้องที่ถ้าเป็นการลักลอบจุดหรือไม่ได้รับอนุญาต ก็จะกลายเป็นความผิดทางกฎหมายมีโทษทั้งจำและปรับ

อีกเรื่องคือ การเฉลิมฉลองปีใหม่นี้ ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยเด็ดขาด เพราะการยิงปืนขึ้นฟ้า นอกจากจะมีความผิดทางอาญาแล้ว ยังอาจจะไปสร้างความบาดเจ็บ หรือสูญเสียต่อชีวิตของผู้อื่นอีกด้วย ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กวดขันจับกุมผู้ลักลอบกระทำความผิด ทั้งการลักลอบจำหน่ายพลุไฟ ดอกไม้เพลิง และการยิงปืนขึ้นฟ้า ขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในเรื่องของการไม่กระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าวข้างต้น.