ตัวแทนความมั่นคงหลายหน่วยงาน ประชุมเครียดหารือสถานการณ์เรือประมงไทยถูกเรือรบ ทร.เมียนมา ปฏิบัติการโดยใช้อาวุธ เร่งประสานเมียนมา ขอรับลูกเรือชาวไทยทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุมพร้อมเรือประมงที่โดนยึดกลับไทย อยู่ระหว่างรอการตอบกลับ หลังทำหนังสือประท้วงพร้อมข้อเรียกร้องจำนวน 3 ข้อไปยังทางการเมียนมา ส่วนบรรยากาศ “ระนอง-เกาะสองเมียนมา” ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ

หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ เรือรบเมียนมา จำนวน 3 ลำ ไล่ยิงถล่มเรือประมงไทย จำนวน 3 ลำ ขณะทำการประมง เรือไทยสามารถหลบหนี จำนวน 2 ลำ ส่วนอีกลำ ทหารเมียนมาได้ลากเข้าประเทศเมียนมาพร้อมลูกเรือไทยและเมียนมา โดยมีลูกเรือไทยเสียชีวิต จำนวน 1 คนขณะกระโดดน้ำหลบหนี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดช่วงสายวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ที่ห้องประชุมยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 จังหวัดระนอง โดย พันเอก อภิชัย เรืองฤทธิ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 25 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ได้เชิญตัวแทนความมั่นคงจำนวนหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ประสานงานประมงชายแดนไทย-เมียนมา เจ้าหน้าที่ประมง ตัวแทนภาคเอกชน ศรชล.ระนอง ตำรวจน้ำ ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ และอีกหลายหน่วยงาน เข้าร่วมพูดคุยหารือกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางที่จะประสานไปยังทางการเมียนมา เพื่อขอส่งคืน 4 ลูกเรือประมงไทย พร้อมเรือประมงที่ถูกจับไปกลับคืนสู่ประเทศไทยให้เร็วที่สุด (เรือ ส.เจริญชัย 8 เป็นเรืออวนล้อม) และหาแนวทางทำความเข้าใจกับทางการเมียนมาถึงการดำเนินการในเรื่องชายแดนของทั้ง 2 จังหวัดคือระนอง-เกาะสองเมียนมา ว่ามีการดำเนินการอย่างไรที่ผ่านมา เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ประเทศ

โดยทางการไทยได้ทำหนังสือประท้วงพร้อมข้อเรียกร้องจำนวน 3 ข้อไปยังทางการเมียนมา โดยเฉพาะเรื่องขอให้ทำการปล่อยตัวลูกเรือทั้ง 4 พร้อมเรือที่จับกุมไปในวันเกิดเหตุ ซึ่งขณะกำลังรอการตอบกลับจากทางการเมียนมา ซึ่งเราพร้อมพูดคุยกันทั้งฝ่าย และทราบว่าขณะนี้ลูกเรือทั้ง 4 คนได้รับการดูแลจากทางการเมียนมาเป็นอย่างดี

ส่วนบรรยากาศหรือสถานการณ์ในจังหวัดระนอง ทั้งเรื่องการเดินทางเข้า-ออก ระนองไทย-เกาะสองเมียนมา การขนส่งสินค้าระหว่างกันทั้งในระดับใหญ่และระดับชาวบ้าน หรือการเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นทะเลเมียนมา หรือเมียนมาที่มาท่องเที่ยวในไทย ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ ทั้งนี้รวมไปถึงทางด้านการทำประมงต้นเรื่อง สถานการณ์ทุกอย่างยังปกติ ชาวประมงยังคงนำเรือออกไปจับสัตว์น้ำอย่างปกติ โดยได้รับการดูแลจากทางการไทย ในส่วนที่ท่องเที่ยวในเมียนมาทราบว่าก็ได้รับการดูแลจากทางการเมียนมาเป็นอย่างดี

ด้าน นายกิติคุณ คำสงค์ อดีตไต๋เรือ และยังคงประกอบอาชีพดูแลเรือประมง บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ประสานงานกันเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากทราบว่าทางการเมียนมา มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าผู้ปฏิบัติงานควบคุมพื้นที่คนใหม่ ซึ่งปกติที่ผ่านมาไทยและเมียนมาจะมีการพูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่ายในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยเฉพาะจะต้องไม่มีเรื่องยิงใส่กัน หากสงสัยอะไรกันจะทำการประชุมหรือประสานงานร่วมกันแก้ไขจนไม่เกิดปัญหา เพราะ ระนอง-เกาะสอง เหมือนบ้านพี่เมืองน้อง เราต่างพึ่งพาอาศัยกันในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของคนทั้ง 2 ประเทศ

อยากให้ทางการไทยหลายหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงเรื่องชายแดนได้ร่วมมือกัน เข้าไปพูดคุยประสานทำความเข้าใจกับประเทศเมียนมา เพราะคิดว่าแม้จะผ่านไปอีกนาน 100 ปี ปัญหาเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน ก็ยังตกลงกันไม่ได้ ยังคงเป็นปัญหา แต่ประชาชนคนไทยกับประชาชนชาวเมียนมาทั้งจังหวัดระนองและจังหวัดเกาะสอง ต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน อยากให้ภาครัฐแก้ปัญหาโดยเร็ว ส่วนเหตุการณ์ยิงที่เกิดขึ้นชาวประมงไม่ได้วิตกอะไร เพราะเข้าใจสถานการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้น จึงยังคงออกทำการประมงตามปกติ