ที่แรกที่เดียว ส่งท้ายปลายปี 2567 รับปี 2568 กับแขกรับเชิญเบอร์ใหญ่ อ.ลักษณ์ โหราธิบดี โหรชื่อดัง ที่คนเชื่อถือศาสตร์สุดในวงการโหราศาสตร์

เป็นธรรมเนียมที่ต้องพูดคุยกับโหรดังในช่วงปลายปีแบบนี้ และไทยรัฐทอล์กไม่พลาด ที่จะไปขอเปิดบ้านโหราธิบดีของ อ.ลักษณ์ ผ่าดวงเมือง 2568 เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ภัยพิบัติ โรคภัย สงคราม วงการบันเทิง

ซึ่งเป็นการทำนายโดยลีลาดวงดาว ตำราโหรที่มากว่า 50 ปี และยังตอกย้ำคำเตือนที่พระเกจิดัง “หลวงปู่ศิลา” ที่เคยทำนายดวงไว้ก่อนหน้านี้ ถึงบ้านเมืองประเทศไทย

ดวงเมือง 2568

เป็นปีที่ดาวแปรปรวน ตั้งแต่ปลายปี 67 ไปจนกลางปี 68
กันยายน 67 ดาวหลายดวงเริ่มแปรปรวนและจะแปรปรวนทั่วโลก ทั้งภัยธรรมชาติ อากาศ อุณหภูมิ หรือการแปรปรวนของจิตใจคน
ความแปรปรวนมีผลต่อคนปลาย 67 แปรปรวน ปั่นป่วน ไม่แน่ใจ เหี่ยวเฉาอยู่ครึ่งปี

เศรษฐกิจ ติดขัด
การเงินเปลี่ยนแปลงทั่วโลก

มีตัวหนึ่งที่ขับเคลื่อนคือดาวพฤหัสบดี ดวงโลกดวงเมืองอยู่ราศีเมษ มฤตยูอยู่ในการเงินการคลังของโลกตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 66 ยาวไป 7 ปี แปลว่าจากปี 2566-2572 จะมีการเปลี่ยนแปลงการเงินการคลังทั่วโลก จะยกเครื่องใหม่ อาจจะมีระบบเอไอเข้ามา มีผลการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เป็นแบบเดิมจากนี้ไปถึงปี 72 ทั้งในแต่ละประเทศ และร่วม หรือพวกอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ
คริปโต ยังไม่ถูกต้อง รัฐบาลกลางจะยอมรับต่อเมื่อคอนโทรลมันได้ ระบบมันกลางๆ ลอยๆ อยู่ แล้วเชื่อมโยงกัน

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 68 ดาวพฤหัสบดีโคจรการเงินในราศีพฤษภการเงินการคลังของโลกและดวงเมือง และตั้งแต่เดือนกันยายน 67 ที่ผ่านมา คนทั้งหลายจะรู้สึกว่ามันไม่คล่อง ติดขัดอึมครึม ปีใหม่ไปจนตรุษจีน ปลายเดือนมกราคม ก็ยังอึมครึม เศรษฐกิจไม่คึกคัก

แต่หลัง 14 กุมภาพันธ์ ยกตัวอย่างเช่น ลิซ่า แบล็คพิงก์ จะมาขึ้นเวทีเคาท์ดาวน์ที่เมืองไทยยังเป็นหน่วยงานเอกชนจัดการเลย แทนที่หน่วยงานรัฐจะมียุทธศาสตร์เข้ามาโปรโมตตรงนี้ แต่กลับปล่อยให้เอกชนเอาไป ก็ในปีนี้ ก็จะเริ่มขับเคลื่อน ทายว่าการขับเคลื่อนครั้งนี้ การต่างประเทศ ทัวร์ท่องเที่ยวจะเข้ามาอย่างคึกคัก พักกินเที่ยว ธุรกรรมนำ รัฐบาลต้องมีการตอบรับ ททท.ต้องมียุทธศาสตร์ให้เก็บเกี่ยวนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากที่สุด หลังปีใหม่ประเทศไทยจะรุ่งโรจน์ ท่องเที่ยวจะเป็นตัวนำ เศรษฐกิจไทยจะคึกคัก

พฤหัสเล็งเสาร์ มีปฏิวัติ

การเมืองแปรปรวนตามดวงเมืองในระยะเวลาที่ผ่านมาบทบาทการเมืองแผ่วไปมาก ปรากฏการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือ หรือหลายจังหวัดกลายเป็นคนเห็นภาพบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เห็นบุ๋ม ปนัดดา ไม่ได้เห็นบริบทของการช่วยเหลือจากภาครัฐ หลังจากนั้นรัฐบาลก็เงียบ ครุ่นครุ่นภายในหรือพรรคร่วมก็ไม่รู้ จากนั้นดูเหมือนเกิดอาการเดี้ยงไม่มีกำลัง แต่ปรากฏการณ์ของดิไอคอน หรือคนตื่น.. มากลบกระแสรัฐบาลหมดเลย คนไม่ค่อยสนใจเลย คนไปสนใจโหนกระแสหมดเลย มันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ มันไม่มีตัวตน

ปี 68 ต้นปี จะมีความแปรปรวนหลายเรื่อง ต้องดูว่ารัฐบาลจะมีบทบาทที่ชัดหรือเปล่า ถ้าไม่ชัดคุณจะหายไปเลย ความน่ากลัวบนความเบื่อหน่าย ความเกลียดความรักเป็นความคึกคักของการเมือง เล่นกับกระแสนี้สนุก แต่ถ้าเขาเบื่อแล้วคุณไม่มีค่าเลยนะ คุณไม่มีตัวตน มันจะหมดหนทางแล้วมันจะเฉาไปหมด ต้นปีรัฐบาลต้องมีบทบาท

กลางปี 68 มีจุดเปลี่ยนจับตายุบสภา

รอยต่อ สถานการณ์แบบนี้น่ากลัว คุณมีสิทธิ์ไปได้อย่างฉับพลัน
ช่วงวันที่ 13 พฤษภาคม – 2 ตุลาคม มันเป็นช่วงที่ดาวหลายดวงแปรปรวน แต่ดาวพฤหัสบดีจะโคจรเล็งดาวเสาร์ โคจรร่วมหรือเล็งมันคือปฏิวัติ เมื่อดาวพฤหัสเล็งดาวเสาร์ถ้าคุณคิดไม่ดีนะ ล้อมเมืองหรือครอบงำ ด้วยกลไกบางประการ ทำเหมือนยุคเก่า ปูพรหมด้วยจังหวะ แต่ไม่คิดยุทธศาสตร์ทำอะไรเพื่อบ้านเมือง ตำรวจ ทหารมีอำนาจตรงและอำนาจรู้โดยปริยาย การที่คุณแตะและก้าวล่วงเพื่ออำนาจเบ็ดเสร็จ มันเป็นผลที่ไปสู่การปฏิวัติและเปลี่ยนแปลง 13 พฤษภาคม – 2 ตุลาคม จุดวาบหวิวรัฐบาล ผมไม่บอกยุบสภานะ แต่พูดว่ามีสิทธิ์เปลี่ยนแปลง ปรับใหญ่ พลิก มันเป็นจุดที่น่ากลัว

นายกฯ คนต่อไป เป็นคนในเครื่องแบบ ถึงสงบ

เราเคยพูดแล้ว ว่านายกฯ หรือใครสักคนเป็นผู้หญิงแต่ประเด็นสำคัญคือ ตามดวงเมืองที่ว่ากันว่ารากดวงเมืองประเทศไทย มันคือดวงของคนที่จะเป็นนายกฯ คือต้องเป็นคนในเครื่องแบบ บ้านเมืองถึงขับเคลื่อนไปได้พอไม่เป็นอายุของมันจะไม่ยาวนาน หรือถ้ายาวนานมันอาจจะซังกะตาย

สังเกตุนายกฯ พลเรือนเราก็มีมา เช่นนายกฯ ชวน หลีกภัย ที่อยู่ยาวๆ เกิน 3 ปี เรารู้ผล เรารู้รสชาติว่ามันเป็นยังไง แล้วก็ปฏิวัติเรารู้รสชาติเป็นไง เป็นแบบของดวงเมืองมีข้อหนึ่ง คนๆ นั้นถ้าไม่ใช่คนในเครื่องแบบจะต้องมีความจงรักภักดี ประดุจหัวใจเดียวกับทหารหรือตำรวจ ของคนในเครื่องแบบ คือความหมายนี้

รากจิตต้องเป็นอย่างนั้น แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่มาแบบนี้ ดังนั้นจะไม่สะดวกโยธิน

ราหูทับราหู

ราหูทับราหู ดาราตกงาน วันที่ 5 พฤษภาคม ราหูที่ทับราหูเดิมของดวงเมืองจะโคจรย้ายราศีไปเป็นวินาศไปเป็นลาภะ ตั้งแต่ 16 ตุลาคม 66-4 พฤษภาคม 68 ราหูจรเข้าเรือนวินาศของดวงเมือง เลยทำให้วงการบันเทิง ซึมเศร้า หยุดเลิก ดาราตกงานเป็นแถว ปี 67 หลังวันที่ 5 พฤษภาคม 68 ราหูตัวแทนของเงาหรือมายา จะโคจร โดดเด่นในรอบ 18 ปี และอยู่ยาวๆ ไป 3-7 ปี จะมีดาราเกิดใหม่ ค่ายเกิดใหม่ รูปแบบเกิดขึ้นใหม่ อะไรที่เงียบ หรือคนที่ออกไปตั้งกลุ่มใหม่ได้

2568 วงการบันเทิงจะเฟื่องฟู
อังคารวิปริต สงครามคนบ้า

ดาวบางดวงโคจรเคลื่อนย้าย 3 ราศี ทั้งที่ปกติเคลื่อนย้ายปีละหนึ่งราศีเช่นดาวพฤหัสบดี ตั้งแต่ 30 เมษายน – 12 พฤษภาคม 67 อยู่ในราศีพฤษภ พอปี 68 ยังอยู่พฤษภ 12 พฤษภาคม จากพฤษภเข้าเมถุน พอ 1 ตุลาคม เข้ากรกฎ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายปี

แล้วมีดาวดวงหนึ่งที่น่าเป็นห่วง ดาวอังคาร ปกติจะพักมณฑ์เสริฐไม่เกิดเดือนหรือสองเดือน แต่ครั้งนี้ตั้งแต่เดือนกันยายน-ตุลาคม 67 ดาวอังคารโคจรวิปริตเดินหน้าถอยหลังถึงพฤษภาคม 68 พออังคารเริ่มพักปลายปี 67 เหมือนจะมีศึกแต่เราไม่ได้ก่อศึกนะ ต่างแดนมาปล้นคนไทย แล้วก็การสู้รบสงครามทั้งดวงเมืองและดวงประเทศ ถ้าจะเกิดสงคราม จะเกิดตั้งแต่ กันยายน-ตุลาคม 67- มิถุนายน 68 มีชนวนเพราะดาวมันวิปริต ถ้าเกิดเกิดเลย เครื่องบินตกใหญ่ อุบัติเหตุ หรือไฟไหม้ใหญ่ ภัยทางธรรมชาติ มันจะน่ากลัวไปจนถึง พฤษภาคม 68 ประมาทไม่ได้

สงครามโลก สงครามเชื้อชาติ

อเมริกา รัสเซีย มีแต่คนบ้าๆ ประธานาธิบดีอเมริกา เป็นคนบ้าชาตินิยม ยุครากเหง้ายุคเก่า เขาจะเกิดสงครามในความบ้า กลุ่มประโยชน์ กลุ่มการเมืองเอื้อต่อกัน
ปี 68 ถ้าก่อนพฤษภาคม มันไม่เกิดอะไรก็สบายใจได้ แต่ระวัง จะมีใครไปกดอะไรตู้มต้าม ก็อันตราย จะมีสิ่งที่น่ากลัวสองอย่างจากรอยต่อ ปลายปี 67 ต้นปี 68 สงครามและโรคระบาด ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โรคจากเชื้อไวรัส คนไทยเตรียมออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพให้ดี

68 โรคระบาดใหญ่

จากความแปรปรวนของดาว มันมีจุดที่น่าห่วง ตั้งแต่ปลายปี 67- มิถุนายน 68 ดาวหลายดวงราหูวินาศกับดวงเมือง พฤหัสบดีก็ยังไม่มีกำลังเท่าไหร่ ก็ยังน่าห่วง จะต้องมีมาตรการมาเกี่ยวข้อง ดูแลบริหารจัดการ มีโควิดเกิดขึ้นแล้วน่าจะมีความระวังมากขึ้น

ภัยพิบัติใหญ่ 2572-2575

ต้องมองยาว ปี 75 จะมีเรื่องน่ากลัวหลายเรื่องแผ่นดินไหว แผ่นดินสไลด์ น้ำท่วม ผมและพระอริยสงฆ์หลวงพ่อศิลท่านพูดแล้ว เห็นตรงกัน 2572-2575 จะมีเรื่องเกิดขึ้นที่น่าตกใจโดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วม สูงแค่ไหน ก็สูงเท่าหน้าตักของพระใหญ่วัดปากน้ำ ราวๆ ตึก 4 ชั้น นานแค่ไหน ก็ราวๆ 6 เดือนถึงปีหนึ่ง กรุงเทพฯ เป็นแอ่งกระทะ

อย่างไรก็ตาม โหรชื่อดังกล่าวตบท้าย สิ่งที่อาจารย์พูดเป็นการเคลื่อนที่ของจังหวะดวงดาว ในทางโหราศาสตร์ หากไม่เชื่อ ให้ไปหาข้อมูลวิทยาศาสตร์มาซัพพอร์ตกัน ถือว่าเป็นการวางแผนให้เราหาข้อมูลเตรียมตัวรับมือนั่นเอง.

หมายเหตุ : สัมภาษณ์เมื่อวันที่  18 ธันวาคม 2567