“โรคอุบัติใหม่”…ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง ในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มโรคที่เกิดจากไวรัสและ การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ซึ่งกระตุ้นการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ตัวอย่างสำคัญโรคที่ต้องระวัง ได้แก่ โรคฝีดาษวานร (Monkeypox) แม้จะไม่ใช่โรคใหม่สำหรับโลก แต่ในประเทศไทยการระบาดยังมีแนวโน้มสูง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ชายรักชาย การป้องกันเน้นที่การหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งและการเสริมสร้างสุขอนามัยส่วนบุคคล
ถัดมา…โรคมือเท้าปาก สาม…ไข้เลือดออก สุดท้าย… โรคอุบัติซ้ำ (Emerging Diseases) โรคที่เคยสงบแต่กลับมาระบาดใหม่ เช่น หัด หรือโรคไข้ดิน (เมลิออยโดซิส) ที่พบมากในเกษตรกรไทย เน้นย้ำการป้องกันด้วยวัคซีนและการสวมรองเท้าป้องกันขณะทำงาน
ถึงตรงนี้แนวทางป้องกัน ลดความเสี่ยงในภาพใหญ่คือฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้ครบถ้วน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก…ผู้สูงอายุ รักษาสุขอนามัย เช่น ล้างมือเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์หรือสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เพิ่มการเฝ้าระวังและการรายงานอาการในชุมชน เพื่อการรับมือที่รวดเร็วหากเกิดการระบาด
“โรคอุบัติใหม่”…ถือเป็นภัยคุกคามที่ต้องการความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและประชาชน เพื่อป้องกัน ลดผลกระทบต่อสุขภาพของสังคมไทยในระยะยาว
“หมอดื้อ” หรือศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัย รังสิต เปิดมุมมองเรื่อง “ความเสี่ยง ประเทศไทยเป็นอู่ฮั่นสอง?” ไว้น่าสนใจ
มหันตภัยเกิดจากการนำไวรัสจากค้างคาวและสัตว์ป่าออกมาและมีการตัดต่อพันธุกรรมการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมาธิการ สภาคองเกรส สหรัฐฯ ซึ่งแถลงรายงานในวันที่ 4 ธันวาคม 2024 ได้สรุปถึงกำเนิดไวรัสโควิดเกิดจากมนุษย์ประดิษฐ์จากข้อมูลตัวไวรัสเองและที่เป็นไปไม่ได้จากธรรมชาติ
ลักษณะการระบาด…การไม่พบไวรัสโควิดในสัตว์ใดและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ โดยไม่มีหลักฐานใดที่ชี้บ่งว่าเป็นวัฒนาการตามปกติของไวรัสในสัตว์สู่คน จุดรั่วระบาดที่ลามไปทั่วโลกนั้นไม่ได้เกิดที่ตลาดสดอู่ฮั่น แต่ชี้บ่งไปที่สถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น (WIV) จากความบกพร่องของห้องชีวะนิรภัยระดับสี่
และ…มีหลักฐานอื่นที่บ่งบอกว่ามีการรั่วตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 แต่ไม่ลามทั่วโลก
นอกจากนั้นหลักฐานชัดเจนเป็นความร่วมมือขององค์กรสหรัฐฯ ฟาวซีและพวก ทั้งนี้ องค์กรพื้นฐานคือเกตส์ gates foundation ในการพัฒนาการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเก่า ติดง่ายขึ้น แพร่ง่ายขึ้น ป่วยและตายมากขึ้น (gain of function) จนถึงติด “คนสู่คน” และต้องให้แพร่ทางอากาศได้
โดยความรู้ในการสร้างไวรัสโคโรนามาจากบาริค North Carolina ให้ ดร.Shi และมีผู้เชี่ยวชาญอื่น เช่น Linfa Wang สิงคโปร์ Duke NUS เป็นต้น และให้ทุนหลายประเทศทั่วทุกทวีปรวมประเทศไทย
ในการเก็บรวบรวมไวรัสจากค้างคาวและสัตว์ป่า โดยประกาศ บังหน้าว่าเพื่อให้ถอดรหัสพันธุกรรมว่ามีความโน้มเอียงที่จะเกิดการระบาดหรือไม่ (predict) รวมทั้งเพื่อการพัฒนาวัคซีน และการรับมือ ในชื่อรวม one health และหาไวรัสทั้งโลก global virome project
รัฐบาลใหม่สหรัฐฯที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2025 ประกาศรื้อองค์กรเหล่านี้ ในการสร้างไวรัสอันตรายและจัดการผู้ต้องรับผิดชอบ รวมถึงการสมคบร่วมมือให้สินบนระหว่างบริษัทยายักษ์ใหญ่กับองค์กรรัฐ รวม NIH NIAID FDA CDC เป็นต้น สถาบันวิชาการ วารสาร การแพทย์ นักวิจัย เครือข่ายที่จัดการเซ็นเซอร์ข้อมูลที่เป็นจริงป้ายสีให้เป็นเท็จ เช่น ชัวร์ก่อนค่อยแชร์ และตระหนักถึงผลกระทบมหาศาลต่อชีวิตและความพิการเนื่องจากวัคซีนที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพจริง อย่างที่ประกาศและไม่ได้ปลอดภัยจริง
หมอดื้อ ย้ำว่า หน่วยงานในประเทศไทยทั้งหมดที่ยังคงหาไวรัสจากค้างคาวและสัตว์ป่า จนถึงปัจจุบัน 2024 และทุนทอดยาวไปอีกหลายปี ต้องยุติกิจกรรมดังกล่าวโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าเงินทุนจากต่างประเทศจะมากมายเพียงใดก็ตามเป็นร้อย…เป็นพันล้าน หรือจะให้ประเทศไทยเป็นอู่ฮั่นสอง
และ…จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ยังมีการตั้งบุคคลต่างชาติ ที่มีการเปิดเผยว่ามีส่วนในการร่วมมือตัดต่อพันธุกรรมและกำเนิดโควิดที่อยู่ในบัญชี ฝังตัวทำงานอยู่ในหน่วยงานองค์กรที่สำคัญของประเทศไทย?
จากการประกาศจุดยืนชัดเจนและยุติกิจกรรม ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ สรุปไว้ว่า “การค้นหาไวรัสใหม่นั้นไม่เกิดประโยชน์ในการคาดคะเนการเกิดโรคอุบัติใหม่และไม่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้ รวมทั้งเปิดเผยความเสี่ยงสูงสุดในขั้นตอนต่างๆในการปฏิบัติ…
และมาตรการในการรับมือกับการหลุดเล็ดรอดของเชื้อจะเป็นด้วยความยากมากในสถานภาพปัจจุบัน และเป็นเหตุผลสำคัญในการต้องทำลายตัวอย่างไวรัสทั้งหมด”
“การหาเชื้อในคนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด” มากกว่าการหาไวรัสที่ไม่รู้จัก ที่จะมาคาดคะเนว่าจะเข้ามาในตัวมนุษย์และจะเกิดโรคระบาดหรือไม่
ปัญหาสำคัญมีว่า…การนำไวรัสไปทดลองปรับแต่งตัดต่อพันธุกรรม…นอกจากจะทำให้เข้ามนุษย์ได้ดีและเกิดโรคแล้ว ประการสำคัญก็คือทำให้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ และเป็นที่น่าสังเกตไวรัสหลายตัวนั้นสามารถแพร่ทางอากาศได้ รายละเอียดเหล่านี้ปรากฏขึ้นก่อนการระบาดของโควิดในปลายปี 2019
ด้วยการพัฒนาการสร้างไวรัสในปัจจุบัน สามารถทำได้โดยเลือกไวรัสที่มีรหัสพันธุกรรมตรงกับแบบที่ต้องการ โดยมีในดาต้าเบสและทำการตัดต่อได้ให้ห้องทดลอง
ดังนั้น…ไวรัสที่หายไปจากห้องชีวะนิรภัยระดับสี่ของออสเตรเลียนั้น อาจไม่ต้องตกใจมากเท่ากับสิ่งที่ยังทำในประเทศ ไทยที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อกันเองระหว่างปฏิบัติการแพร่ไปให้ครอบครัว…ชุมชน ต่อเนื่องไประดับประเทศและระดับโลก
คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ