หลังฉาก “โผนายพล” รอง ผบ.ตร.ยัน ผบช. ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 นำมาใช้ในการแต่งตั้งครั้งแรก และเป็นครั้งแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประธาน ก.ตร.จัดโผตำรวจ

รอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร. กฎหมายกำหนดยึดหลักอาวุโส 100 เปอร์เซ็นต์ ทำไม่ยาก แต่ตำแหน่ง ผบช.มี 2 กลุ่ม กลุ่มแรกอาวุโส 50 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่ม 2 ความรู้ความสามารถ ผลงานอีก 50 เปอร์เซ็นต์

เป็นปัญหาตามมา

แรงกดดันของผู้มีอำนาจ “คนนอก” และ “การเมือง” พร้อมเข้ามาแทรกแซง แต่รอบนี้หนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา คนสายการเมืองปล่อยชื่อเด็กเส้นสายการเมืองเข้ามาเป็น ผบช. หน่วยหลัก เบียดคนทำงานพ้นตำแหน่ง

เป็นความหนักใจ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. คิดทบทวนเพื่อทำให้หน่วยงานตำรวจที่บอบช้ำเดินต่อไปได้ “บทเรียน” ในอดีตที่รับ “ตั๋ว” ทำให้คนทำงานเพื่อองค์กรเสียกำลังใจ คนที่ฝากมาทำงานไม่ได้

สุดท้ายเกิดปัญหา

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ใช้ “บอร์ดกลั่นกรอง” ที่มี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.ตัดชื่อ โยกตำแหน่งให้ได้คนทำงาน

กว่า 4 ชั่วโมงห้องประชุม ก.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ยืนอยู่ข้างตำรวจ ใช้กฎหมาย เหตุผลเลือกผู้ที่ เหมาะสม ไม่ยอม “นักการเมือง” หรือ “คนออก” ต่อสู้และต่อรองหนักกับ ก.ตร.อีกฝ่าย

อ้างเหตุผลขอเลื่อนการประชุม ก.ตร. เพื่อปรับเปลี่ยน “โผนายพล” เสนอกลับเข้าประชุม ก.ตร.ใหม่

ด้วยเหตุผลที่ ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.เอก ร่วมกันแสดงเหตุผลเพื่อให้การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามกฎหมายใหม่ ทำให้นายกฯ ปล่อยอำนาจให้ ผบ.ตร. และ ก.ตร.พิจารณาจัดวางผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่ง

รับว่าเป็น “โผนายพล” ที่มาจากตำรวจร่วมกันคัดเลือกเข้ามาส่วนใหญ่

ประวัติศาสตร์ “โผตำรวจ” ที่ร่วมกันต่อสู้ไม่รับ “ตั๋วฝาก”.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th 

คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม