เร่งแกะรอยไล่ล่าแก๊งโจรบุกปล้นไม้พะยูงของกลางในศูนย์ป่าไม้สกลนคร 5 คนร้ายใส่ชุดดำสวมหมวกไอ้โม่งอำพรางโฉมมีอาวุธครบมือทั้งปืนและมีด ปฏิบัติการอุกอาจกลางดึกย่องเงียบเข้าไปถอดปลั๊กไฟกล้องวงจรปิด 3 ตัวในสำนักงาน พังประตูบุกบ้านพักจี้จับมัดรุมซ้อมเจ้าหน้าที่ 3 คนสะบักสะบอม ปล้นปืนลูกซองยาว 2 กระบอก พังกุญแจประตูรั้วถอยรถกระบะเข้ามาขนไม้พะยูงของกลาง 19 ท่อนที่ยึดไว้ตั้งแต่ปี 54 มูลค่ากว่า 8 แสนบาท ขึ้นท้ายรถเผ่นหนีลอยนวล ตำรวจเรียกสอบเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ พอรู้ตัวแก๊งคนร้ายแล้วเร่งรวบรวมหลักฐานขอหมายจับ รมว.ทส.-อธิบดีกรมป่าไม้สั่งดูแลความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ พร้อมวางมาตรการล้อมคอกดูแลของกลางอย่างเข้มงวด
พฤติกรรมอุกอาจแก๊งคนร้ายอาวุธครบมือบุกจี้จับทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก่อนปล้นไม้พะยูงของกลางเผ่นหนีลอยนวลรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 10 พ.ย. ศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งเหตุกลุ่มคนร้ายบุกปล้นไม้พะยูง ปล้นปืน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สน.2 (วาริช-พรรณา) ศูนย์ป่าไม้สกลนคร ริมถนนสาย 2218 บ้านกุดตะกาบ ต.กุดตะกาบ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร แจ้งไปยัง พ.ต.ท.สมศักดิ์ บุญรักษา รอง ผกก.สส.สภ.วาริชภูมิ ส่งกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย 3 คนถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ประกอบด้วยนายศรายุทธ ปัญญามี เจ้าหน้าที่ตรวจป่า นายบรรลือศักดิ์ ทิพชาติ เจ้าหน้าที่ตรวจป่า และนางพัตรพิมล ทิพชาติ ภรรยาของนายบรรลือศักดิ์ เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการประจำหน่วย สอบถามเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 5 คน สวมหมวกคลุมหัวเป็นไอ้โม่งปิดบังใบหน้า แต่ละคนมีอาวุธครบมือทั้งปืนและมีดบุกเข้ามาจี้จับเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน มัดมือมัดเท้าทำร้ายร่างกาย ปล้นเอาปืนลูกซองยาวของราชการ 2 กระบอกพร้อมกระสุนปืน จากนั้นกลุ่มคนร้ายพังกุญแจล็อกประตูหน้าทางเข้าหน่วยฯ ขับรถกระบะเข้ามาขนไม้พะยูงของกลางในคดีที่ตรวจยึดไว้ 19 ท่อน/เหลี่ยม มูลค่าประมาณ 825,000 บาท ขึ้นท้ายรถขับหลบหนีไป ตำรวจวิทยุสกัดจับตามเส้นทางยังไม่พบวี่แวว
สอบถามนายศรายุทธ ปัญญามี หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตรวจป่าที่ได้รับบาดเจ็บเล่าว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ในบ้านพักหลังอาคารสำนักงาน กลุ่มคนร้ายพังประตูบุกเข้ามาใช้ปืนและมีดจี้บังคับจับมัดมือมัดเท้า พยายามดิ้นรนต่อสู้ถูกคนร้ายเตะเข้าที่ลำตัวหลายครั้ง จากนั้นคนร้ายคว้ากางเกงของตนมาสวมคลุมหน้าตนไว้แล้วยึดเอาปืนลูกซองประจำกายที่วางอยู่หัวนอนไป มีคนร้ายอีกคนใช้เท้าเหยียบหลังให้นอนกับพื้น ส่วนที่เหลือลงไปนำรถกระบะเข้ามาขนไม้พะยูงของกลางที่อยู่ใต้ถุนบ้าน
ส่วนนายบรรลือศักดิ์ ทิพชาติ เจ้าหน้าที่อีกนายเล่าว่า ตนกับภรรยาอยู่บ้านพักอีกหลัง คนร้ายพังประตูเข้ามาเตะท้องจนจุกลงไปกองกับพื้นและเหยียบต้นคอพร้อมใช้ปืนจี้จับมัดตนกับภรรยาไว้ คนร้าย 3 คนแยกตัวไปทุบกุญแจประตูรั้วหน้าหน่วยฯแล้วขับรถกระบะโตโยต้าร็อดโค่ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาช่วยกันขนไม้พะยูงของกลางขนาดยาวประมาณ 2.5 เมตร จำนวน 19 ท่อน/เหลี่ยม ขึ้นท้ายรถ หลังขนไม้เสร็จก็มาเรียกพวกพากันขึ้นรถหลบหนีออกไป
ขณะที่นางพัตรพิมล ทิพชาติ เจ้าหน้าที่ธุรการภรรยานายบรรลือศักดิ์เผยว่า กลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปในสำนักงานดึงปลั๊กไฟกล้องวงจรปิดในหน่วยทั้งหมด 3 ตัว แล้วคนร้าย 2 คนพังประตูบ้านพักเข้ามาใช้ปืนจี้บังคับให้ตนและสามีนอนคว่ำหน้า พร้อมทั้งยึดโทรศัพท์ของสามีไป ส่วนโทรศัพท์ของตนนอนทับไว้ทำให้คนร้ายหาไม่เจอ จากนั้นคนร้ายยึดเอาปืนลูกซองประจำกายของสามีไปพร้อมกระสุนจำนวนหนึ่งและควบคุมตัวตนกับสามีไว้ ก่อนจะช่วยกันขนไม้พะยูงของกลางขึ้นรถกระบะหลบหนีไป หลังเกิดเหตุตนกับสามีช่วยกันแก้มัดจนสำเร็จแล้วรีบโทร.แจ้งตำรวจทันที
ต่อมาในช่วงเช้า พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รอง ผบก.ภ.จ.สกลนคร พ.ต.อ.วรวิทย์ นนท์พละ ผกก.สส.ภ.จ.สกลนคร พ.ต.ท.สมศักดิ์ บุญรักษา รอง ผกก.สส.สภ.วาริชภูมิ พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เกิดเหตุตรวจพิสูจน์เก็บรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาเบาะแสกลุ่มคนร้าย จากนั้นเข้าร่วมประชุมวางแนวทางการสืบสวนที่ สภ.วาริชภูมิ
พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รอง ผบก.ภ.จ.สกลนคร แถลงว่า จากการสอบสวนทราบว่ามีชายฉกรรจ์ 5-7 คน สวมชุดดำอำพรางปิดบังใบหน้าพร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้ามาจับเจ้าหน้าที่มัดมือมัดเท้าทำร้ายร่างกายแล้วขนเอาไม้พะยูงจำนวน 19 ท่อน ปริมาตร 1.65 ลบ.ม. มูลค่า 825,000 บาท ขึ้นรถกระบะขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.พังโคน หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนในพื้นที่และชุดสืบสวนภาค 4 เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง พร้อมทั้งนำตัวเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สน.2 มาสอบสวนอย่างละเอียด ตอนนี้พอทราบเบาะแสผู้ก่อเหตุแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อนจะยื่นขอศาลออกหมายจับ จากพฤติกรรมการก่อเหตุคาดว่าคนร้ายน่าจะทราบมาก่อนแล้วว่ามีไม้พะยูงของกลางกองอยู่ตรงนี้ และทราบด้วยว่ากล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ตรงไหนบ้าง พร้อมทั้งรู้เส้นทางการหลบหนีเป็นอย่างดี ขณะนี้มีข้อมูลผู้ต้องสงสัยอยู่พอสมควรแล้ว เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
สำหรับไม้พะยูงดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สน.2 (วาริช-พรรณา) ตรวจยึดมาได้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.ย.67 ที่ผ่านมาถูกขโมยไป 18 ท่อน เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.วาริชภูมิ พนักงานสอบสวนนัดสอบปากคำในวันนี้ (10 พ.ย.) แต่กลับมาเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาปล้นเอาไม้พะยูงกองเดิมเสียก่อน
ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สน.2 (วาริช-พรรณา) อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ว่า ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน อาวุธครบมือทั้งปืนและมีด บุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินของหน่วยฯ ข่มขู่ทำร้ายร่างกายและจับมัดตัวเจ้าหน้าที่ไว้ 3 คน ยึดโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ปล้นปืนลูกซองของทางราชการ 2 กระบอก พร้อมกระสุน และปล้นไม้พะยูงของกลางในคดีอาญาที่ 46/54 ยึดทรัพย์ที่ 40/54 ปจว.ข้อ 1 ลว.21 พ.ค.54 ขนขึ้นรถกระบะไปจำนวนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 20 ท่อน และยังทำลายและถอดสายกล้องวงจรปิดในหน่วยทั้งหมดด้วย
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุได้รายงานต่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส. สั่งการให้กรมป่าไม้กำหนดมาตรการดูแลรักษาไม้ของกลางอย่างเข้มงวด รวมทั้งมาตรการดูแลเจ้าหน้าที่ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ตนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่แต่งตั้งเวรยามดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และให้รายงานผลการลาดตระเวนตรวจสอบไม้ของกลาง ผ่านช่องทางกลุ่มไลน์เวรยาม สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม ทุก 4 ชม.ของแต่ละวัน ติดตั้งไฟส่องสว่างให้มองเห็นในยามวิกาล ติดตั้งกล้องวงจรปิดในจุดที่ล่อแหลมและอับสายตา และจัดเก็บไม้ของกลางไว้ที่โรงเก็บไม้มีค่าของสำนักจัดการป่าไม้ในพื้นที่หรืออาคารที่มีความมั่นคงปลอดภัยอย่างเคร่งครัดต่อไป ครั้งนี้ ถือเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ได้ประสานตำรวจภูธรภาค 4 เร่งรัดติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร่งด่วนแล้ว
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ