ตำรวจบางซื่อนำตัว “เมียนายสันติ” อดีตนักมวยบุกบ้านชาวบ้านในซอยอินทามระ 29 ออกจาก รพ.ตำรวจ เข้าสอบสวนเร่งเค้นไล่ล่าสามี
วันที่ 4 ตุลาคม 2567 มีรายงานว่า จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมจับ “อดีตนักมวย” หนีหมายจับคดีลักทรัพย์ เข้าไปในบ้านหมอ ยิงปืนขู่นับสิบนัด ก่อนหลบหนีลอยนวล ด้านเมียคนร้ายเครียด ผัวถูกไล่จับ ใช้ปืนจ่อหัวตัวเอง ขึ้นรถเก๋งสายตรวจ 191 บังคับให้ไปส่ง ริมถนนธัญบุรี ก่อนวิ่งหนีเข้าป่า สุดท้ายยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สน.บางซื่อ ได้นำตัว น.ส. พจน์จะนี อายุ 42 ปี ภรรยาของ นายสันติ เจ๊ะอะหลี อายุ 39 ปี อดีตนักมวยที่บุกบ้านชาวบ้านในซอยอินทามระ 29 เมื่อคืนนี้ ออกจากห้องฉุกเฉิน เพื่อนำตัวขึ้นรถผู้ต้องขังไปดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะนำตัวไปพูดคุยสืบสวนเบื้องต้นที่ห้องสืบสวน สน.บางซื่อ ภายหลังแพทย์วินิจฉัยอนุญาตให้ น.ส.พจน์จะนี ออกจากโรงพยาบาลได้ เนื่องจากได้ดำเนินการปฐมพยาบาลรักษาบาดแผลที่ฝ่าเท้าซ้ายที่ถูกกระจกบาดตำและโดยรวมยังไม่มีอาการอะไรที่น่ากังวล
โดยในระหว่างการควบคุมตัวนั้น น.ส.พจน์จะนี นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย อยู่ในสภาพอิดโรยและอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด พบมีการพันแผลที่เท้าซ้ายจากการถูกเศษวัสดุตำเท้า เจ้าหน้าที่ต้องค่อย ๆ ควบคุมตัวและประคอง น.ส.พจน์จะนี ขึ้นรถผู้ต้องขัง สน.บางซื่อ อย่างทุลักทุเล โดยทันทีที่นำตัวขึ้นรถ น.ส.พจน์จะนี ได้นั่งก้มหน้าลง มีสีหน้าที่อ่อนเพลีย ไม่แสดงอาการร้องไห้หรือส่งเสียงดังแต่อย่างใด
ต่อมาในเวลา 12.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สน.บางซื่อ ได้นำตัว น.ส.พจน์จะนี มาถึงที่ สน.บางซื่อ เมื่อลงจากรถคุมขัง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มประคองและนำเสื้อคลุมปิดบังใบหน้าพร้อมให้น.ส.พจน์จะนี นั่งรถเข็นก่อนจะเข็นเข้าไปยังห้องประชุมชั้น 2 เพื่อนำตัวไปสอบสวน โดยระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับ น.ส.พจน์จะนี ว่าก่อเหตุเพราะอะไร เป็นการกระทำเพื่อเบี่ยงเบนให้สามีหลบหนีหรือไม่ มีการเสพยาด้วยหรือไม่ แต่ทาง น.ส.พจน์จะนี ไม่ได้ตอบและไม่ได้แสดงท่าทีอะไร
เบื้องต้น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้เดินทางเข้ามาที่ สน.บางซื่อ เพื่อเข้าร่วมสอบสวนและประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวร่วมกับ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ์ ผกก.สน.บางซื่อ และจะทำการแถลงให้ทราบต่อไป.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ