บ้านเมืองนี้ “ส่วย” ทำไมมันเยอะนักไม่ว่าคดีไหน เรื่องอะไร มันต้องมีมาเกี่ยวทุกครั้ง?

คดีดิ ไอคอน กรุ๊ป ก็เช่นเดียวกัน หลังจาก “บอสพอล” หัวเรือใหญ่เก็บตัวเงียบมานาน ยอมมาออกรายการโหนกระแสของ “หนุ่ม-กรรชัย” เปิดปากเรื่องคลิปเสียงเรียกเงินค่าคุ้มครอง

ใหญ่โตขนาด “ดีดนิ้ว” ปุ๊บ เรื่องหายปั๊บ?!

เป็นที่มาของการแฉว่า หลังจากเปิดบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป ถูกรีดทรัพย์เป็นกิจวัตร “โดนประจำ มีทั้งทนาย นักร้องเรียนนัวไปหมด ส่วนมีนักการเมืองและตำรวจด้วยหรือไม่ ไม่อยากก้าวล่วง”

“เรื่องละห้าแสนบ้าง เรื่องละล้านบ้าง เขามีวิธีทำให้เรากลัว พอเจอแบบนี้พยายามหาที่พึ่ง ไม่อยากไปขอความช่วยเหลือใครฟรีๆ มากที่สุดที่เคยโดนก็ 3 ล้านบาท ยอมรับว่าเพราะมีแผล”

“ที่ให้ไป เพราะโง่เอง!”

หลังถูกแฉออกมาตรงๆ นักการเมืองถึงกับเต้นผาง ตั้งแต่ประธานสภา ประธาน กมธ. ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ตั้งป้อมจะ ลงมาตรวจสอบกันยกใหญ่

แต่ขอเตือน อย่าไปหวังอะไรมากกับนักการเมือง?

เอาที่สำคัญ งานนี้ฟาดมาถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ด้วย เพราะเป็นผู้กำกับดูแลธุรกิจขายตรง น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งตั้งกรรมการสอบส่วย สคบ. โดยมีคนนอกร่วมด้วยเพื่อความโปร่งใส!

กำชับให้เจ้าหน้าที่ สคบ.ทำงานเชิงรุก และมีแนวคิดปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัย ไม่ทันมิจฉาชีพ เพราะการทำธุรกิจขายตรงกับขบวนการแชร์ลูกโซ่ มันมีแค่เส้นบางๆ กั้น ชาวบ้านหลงเชื่อง่าย?

ปัญหาแบบดิ ไอคอน กรุ๊ป ไม่ควรให้มันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ ปล่อยให้โฆษณาชวนเชื่ออยู่ได้ตั้ง 6-7 ปี ความเสียหายเป็นหมื่นล้าน!

มันจะอยู่มาได้ยังไง ถ้าคนกำกับดูแลตรวจสอบ?

“สหบาท”

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม