หมอชนเผ่า ความลับตำรายา ศาสตร์โบราณพันปี เปิด 3 วิธีการรักษา ด้วยสมุนไพร ทั้งแบบใช้ความร้อน และธรรมชาติบำบัดด้วยดิน เชื่อว่าช่วยล้างพิษของเสียออกจากร่างกาย
การแพทย์ชนเผ่า เป็นเพียงความเชื่อ เป็นศาสตร์หนึ่งในการรักษาโรค และมีตำราสืบทอดกันมายาวนานนับพันปี แม้ในโลกตอนนี้จะเปลี่ยนไปมากเท่าใด แต่ยังมีคนไข้ที่เดินทางมาเพื่อรักษาด้วยศาสตร์นี้อยู่ ซึ่งเบื้องหลังของเรื่องนี้คืออะไร ติดตามในภารกิจ See True ให้คุณเห็นความจริง
ทีมข่าวแสบเฉพาะกิจ เดินทางมาที่ศูนย์การเรียนรู้การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ชนเผ่า สมุนไพรนวลจันทร์ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อมาพบกับ “หมอประเดิม ส่างเสน” หมอยาชาวไทใหญ่ ที่สืบทอดวิชาหมอยาไทใหญ่ ตำราลับที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาในตระกูลนับพันปี
“หมอประเดิม” เล่าว่า ส่วนหลักที่ใช้ในการรักษาจะประกอบด้วยสมุนไพรเป็นหลัก เช่น คนที่เป็นโรคที่มีฤทธิ์ร้อน ก็ต้องให้ยาสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น แต่ถ้ามีอาการหนักกว่านั้น จะมีการให้ยาตำรับไปทาน ตามตำราที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
เริ่มแรก หมอทำการวิเคราะห์อาการของคนไข้ ด้วยวิธีการตรวจจับชีพจร จากนั้นจะเลือกวิธีการรักษาตามอาการของโรค ด้วยองค์ความรู้ที่ได้เรียนมาตามตำรา เมื่อวิเคราะห์อาการแล้ว หมอจะพาคนไข้ไปรักษาด้วยวิธีการตามตำราโบราณ โดยหนึ่งในวิธีการรักษาของตำรานี้ เรียกว่า การเผายา
การเผายา เป็นการรักษาเพื่อปรับสมดุลของธาตุไฟ โดยจะมีการเผาไฟด้วยสมุนไพรบริเวณท้องของคนไข้ ซึ่งวิธีการนี้จะใช้สมุนไพรที่ช่วยในการรักษาเกี่ยวกับเลือดลม เช่น ไพร สาบเสือ ไม้ต้นสน
สำหรับการรักษาแบบเผายาจะช่วยในคนที่มวนท้อง ล้างพิษทั้งหลายที่อยู่บริเวณท้อง ช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ ซึ่งตามตำรับการรักษาแบบโบราณเชื่อว่า สะดือของมนุษย์เป็นศูนย์กลางของร่างกาย
การเผาสมุนไพรก็เพื่อให้ตัวยาระเหยเข้าไปบริเวณผิว และจมูกก็ได้สูดกลิ่นสมุนไพร และหลังจากที่ทีมข่าวทดลอง ก็รู้สึกอุ่นๆ บริเวณท้องที่มีการจุดไฟ โดยผ้าเปียกที่วางไว้บริเวณท้อง ช่วยให้ไฟที่จุดขึ้นไม่ทำอันตรายต่อผิวคนไข้
การรักษาถัดไป คือวิธีรักษาที่เรียกว่า เหยียบฉ่า หมอจะใช้เท้าเปล่าๆ จุ่มน้ำมันยาสมุนไพร ก่อนจะเหยียบลงไปบนเหล็กร้อน แล้วใช้เท้าเหยียบลงไปที่ผู้ป่วย
ก่อนเริ่มพิธีจะมีการสวดตามตำราก่อน การเหยียบฉ่า หมอผู้ทำพิธีจะจุ่มเท้าลงในน้ำสมุนไพร ก่อนเหยียบไปบนแผ่นเหล็กร้อนจนไฟลุก แล้วเหยียบไปบนร่างของคนไข้ ซึ่งคนไข้จะรู้สึกร้อนในระยะแรก ก่อนจะค่อยๆ อุ่นลง ตามความเชื่อของหมอ การเหยียบไปบนเหล็กร้อน แล้วเท้าไม่พอง เนื่องจากมีพระเวทคอยป้องกัน
วิธีรักษาสุดท้ายคือ ฝังยา ต้องฝังตัวคนไข้ลงไปในดิน ที่หมอจะหมักสมุนไพรเอาไว้แล้ว จากนั้น ผู้ป่วยจะถูกฝังดิน ไว้ราว 1 ชั่วโมง ระหว่างทำการรักษา ต้องบริกรรมคาถาควบคู่ไปด้วย เชื่อว่า เป็นการที่รักษาโรคที่รักษาได้ยาก
เริ่มต้นจะพอกตัวยาไว้บนร่างกาย เพื่อให้ดูดซึมสารพิษออกมา จากนั้นจะกลบดิน โดยให้ลำตัวอยู่ในดินเหมือนการอบด้วยดิน ประมาณ 1 ชั่วโมง และระหว่างรักษาหมอจะท่องคาถาไปด้วย
สำหรับการใช้องค์ความรู้ตามศาสตร์โบราณ เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่คู่กับคนไทย แม้ตอนนี้จะมีการรักษาด้วยแผนปัจจุบัน แต่ถ้าหากมีการนำมาประยุกต์ให้อย่างเหมาะสม ย่อมช่วยให้ผู้ป่วยได้มีทั้งพลังกายและพลังใจ ในการดำเนินชีวิตต่อไป ติดตาม #ข่าวแสบเฉพาะกิจ รายการวาไรตี้ข่าวสุดแสบ จะพิสูจน์ ตรวจสอบ พร้อมลงทุกพื้นที่ ขยี้ทุกความจริง ทุกวันเสาร์ 6 โมงเย็น ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ