(ภาพประกอบข่าว)
เด็กหญิงวัย 12 ปี ถูกแม่ทำร้าย ไม่ยอมให้ไปโรงเรียน หลอนกลัวคนเอาลูกไปเรี่ยไร เด็กทนไม่ไหวกลัวเรียนไม่จบโทรหาญาติให้เข้าช่วยเหลือ
วันที่ 3 พ.ย. 67 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจาก นายสมคิด อุตมา อายุ 39 ปี เลขานายก อบต.ร้องกวาง และนายสุธี เจริญธนกิจ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 บ้านผาหมูเหนือ ต.ร้องกวาง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ว่ามีเด็กหญิงถูกแม่ทำร้ายร้องให้ญาติเข้าไปช่วยเหลือ เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 10 ต.ร้องกวาง อ.ร้องกวาง จ.แพร่
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว สีส้ม รอบบ้านไม่มีถนนทางเข้าออก ต้องใช้พื้นที่บ้านที่อยู่ติดกันซึ่งไม่มีรั้วเป็นที่สัญจร ภายในบ้านปิดประตูไว้ ทราบเบื้องต้นว่าเป็นบ้านของเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่อาศัยอยู่กับแม่ อายุ 39 ปี แต่เนื่องจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาทางญาติได้มานำตัวเด็กหญิงออกจากบ้านไปพักอยู่กับยายแล้ว ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ไกลคนละฝั่งถนน ทางญาติพาเด็กเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ร้องกวาง ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาและส่งตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว จากนั้นได้พาเด็กไปอยู่กับยายและตา
นายสมคิด อายุ 39 ปี ลุงของเด็กหญิง เล่าว่า ได้รับโทรศัพท์จากญาติที่เชียงใหม่ให้เข้าไปดูหลาน เนื่องจากน้องถูกแม่ทำร้าย และไม่ให้น้องไปโรงเรียน ตนจึงได้ประสานญาติ ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย เมื่อไปถึงจึงได้เรียกแม่ของเด็กออกมาคุย และเด็กออกมาด้วย เมื่อเด็กออกมาก็วิ่งเข้ามากอดกับญาติที่มาด้วยกัน น้องดูดีใจมากที่มีคนเข้ามาช่วย ตอนนั้นน้องมีแผลตรงใบหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้น้องได้ถ่ายวิดีโอ และรูปภาพที่โดนแม่ทำร้ายร่างกาย ซึ่งเหลือไม่กี่รูปเนื่องจากแม่เค้ามาเห็นและลบรูปออกไป
เบื้องต้นจึงได้แยกแม่และเด็กออกมาก่อน เพราะแม่ของเด็กคุยไม่รู้เรื่อง โวยวายมาตั้งแต่เช้า กลางคืนก็ไม่หลับไม่นอนขี่รถเข้าออกบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้แม่เคยไม่ยอมให้ลูกไปโรงเรียนประมาณ 1 เดือน ทางโรงเรียนได้ติดต่อมายังผู้นำชุมชน แล้วเข้ามาดูกันและเข้ามาคุยกันไปแล้วรอบหนึ่ง แม่เขามีความระแวงกลัวว่าคนอื่นจะพาลูกเค้าไปเรี่ยไร แสวงหาผลประโยชน์ เหมือนหลอนคิดไปเอง
ตอนแรกที่เข้ามาช่วยแม่เด็กไม่ยอม ต้องโทรไปหาญาติที่เชียงใหม่ให้คุยกับแม่เด็กให้แยกออกมาก่อนถึงยอมปล่อยลูกออกมา แม่ของเด็กนั้นอยู่กับลูกสองคน ก่อนหน้านี้อยู่กับพ่อของเด็กที่จังหวัดชลบุรี ต่อมาพ่อของเด็กเสียชีวิต ตั้งแต่น้องได้หนึ่งขวบ จากนั้นแม่ก็พาลูกกลับมาอยู่ที่จังหวัดแพร่ ก่อนหน้านี้ที่มีการคุยกันยายที่เชียงใหม่จะรับไปอยู่ด้วยแต่ก็อยากที่จะให้หลานเรียนจบที่นี่ก่อนเพราะเหลืออีก 1 เทอม หากย้ายไปเลยอาจจะต้องเริ่มทุกอย่างใหม่ น้องมีความสุขกับการไปโรงเรียน บางครั้งครูแจ้งว่าแม่ของน้องไปนำตัวน้องมาจากห้องเรียน บางครั้งไปนั่งโวยวายในโรงเรียน จนครูบอกว่าหากยังเป็นแบบนี้อีกทางโรงเรียนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ก่อนหน้านี้ไม่มีการทำร้ายร่างกาย ไม่คิดว่าแม่เค้าจะทำ
นายสมคิด กล่าวต่อว่า เบื้องต้นคุยกับเจ้าหน้าที่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่เกรงว่าเด็กจะไม่มีที่อยู่ จะพาเด็กไปอยู่กับเจ้าหน้าที่ แต่ทางญาติยินดีที่จะดูแลเด็กต่อไป ให้อยู่กับญาติ แต่ในส่วนของแม่เด็กนั้น ทางญาติต้องการให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปรักษา แต่เจ้าตัวต้องยินยอมที่จะเข้ารับการรักษา แต่แม่ของเด็กไม่ยินยอมเข้ารับการรักษา เจ้าหน้าที่จึงให้ไปยังศาลเยาวชน และครอบครัวจังหวัดแพร่ เพื่อขอให้ศาลคุ้มครอง เพื่อไม่ให้แม่เข้ามายุ่งเกี่ยว ในระหว่างที่ยังเรียนอยู่ที่จังหวัดแพร่ หากจบ ป.6 แล้วทางยายจะรับไปดูแลต่อที่จังหวัดเชียงใหม่
โดยปกติแล้วแม่เด็กไม่มีอาชีพ ไม่ได้ทำงานอะไร มีญาติที่ส่งเสียเลี้ยงดู อยู่จังหวัดเชียงใหม่ เคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ชอบพูดคนเดียว กลางวันไม่ไปไหนอยู่แต่ในบ้าน กลางคืนจะชอบขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปและพาเด็กหญิงไปด้วย กลับมาอีกทีก็ดึกแล้ว และไม่ชอบให้เด็กหญิงไปเรียน วันไหนไปเรียนก็จะไปรับกลับมาก่อนเลิกเรียน
เด็กหญิง เล่าว่า โดนแม่ทำร้ายร่างกาย จนทนไม่ไหว จึงได้แชตบอกพี่สาว แม่เดียวกันแต่คนละพ่อ ซึ่งพี่สาวนั้นอยู่ต่างจังหวัด ทางพี่สาวให้ตนอดทน แต่ทนไม่ไหว จึงบอกยายที่เป็นฝาแฝดกับยายของตนที่เสียชีวิตไปแล้ว ยายบอกกับตนว่าจะให้ลุงเข้ามาช่วย หลังจากนั้นทางญาติ ๆ ได้พาตนออกมาจากบ้าน สาเหตุที่ทำให้ทนแม่ไม่ไหว เพราะแม่ไม่ให้ไปโรงเรียน แม่ชอบคิดว่าคนอื่น ๆ จะเอาตนไปเรี่ยไรหาเงิน หรือไปทำอย่างอื่น จึงไม่ให้ไปไหนให้อยู่กับแม่ตลอดเวลา วันไหนไปโรงเรียนแม่จะไปรับกลับมาบ้านก่อนเวลา ทำให้เรียนไม่ทันเพื่อน จึงตัดสินใจบอกญาติ เพราะวันที่เกิดเหตุตนไม่ได้ทำอะไรนอนอยู่ดี ๆ แม่ก็มากระทืบทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณปากและแขน บางครั้งแม่ก็พาตนซ้อนมอเตอร์ไซค์ขี่รถไปเรื่อย ๆ ในเวลากลางคืน ตนไม่ไปแม่ก็ไม่ยอม ตนง่วงนอนแม่ก็ไม่พากลับบ้าน ขี่ไปไกล บางครั้งก็พาแวะบ้านเพื่อน แต่ตนนั้นมักจะนั่งรอหน้าบ้านไม่เข้าไปกับแม่ แวะแต่ละครั้งก็ประมาณ 20-30 นาที ตนอยากเรียนหนังสือและอยากให้แม่ได้รับการรักษา ตอนนี้ตนไม่กล้าอยู่กับแม่ขออยู่กับยาย (น้องสาวของยายที่เสียชีวิต)
ยายของเด็ก เล่าว่า ไม่ทราบว่าแม่ของเด็กจะทำร้ายร่างกาย รู้เพียงว่าไม่ให้ไปโรงเรียน ล่าสุดคือลูกสาวมาจากต่างจังหวัดจะเอาเสื้อผ้าให้เด็กหญิง แต่เด็กหญิงกลับบอกว่า แม่ตีหนู กระทืบหนู ทำให้ทราบเรื่อง เด็กหญิงบอกอยู่ไม่ได้แล้ว แม่ทำร้ายหนูขว้างของ ขว้างแก้ว แล้วให้เด็กหญิงเก็บ พอแก้วบาดแม่ก็ด่าอีก ลูกสาวตนจึงแนะนำให้โทรหายายที่เชียงใหม่ ยายที่เชียงใหม่จึงโทรให้เข้าไปช่วย แม่เด็กชอบพูดคนเดียว ชอบไปนั่งตามศาลาข้างทางนั่งเป็นวัน ๆ บางครั้งก็เดินไปเรื่อย ๆ เป็นสิบ ๆ กิโล เค้าเคยติดยาเสพติดตอนเค้าไปทำงานที่ชลบุรี พอแม่เค้าเสียเค้าก็กลับมาอยู่ที่บ้านเพิ่งมาทราบว่าเค้าทำร้ายร่างกายลูก เค้าไม่เคยให้ลูกห่างจากตัว ลูกเค้าก็ไม่เคยเล่าให้เราฟัง อยากให้พาแม่เค้าไปรักษา ส่วนเด็กหญิงนั้นตนสามารถเลี้ยงได้ ดูแลให้จนจบ ป.6 และให้เค้าไปอยู่กับยายอีกคน (พี่สาว) แม่เค้าไม่ชอบทำงาน ชวนมาทำงานก็ไม่มาทำ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงแล้ว โดยต้องขออำนาจศาลคุ้มครองเด็กไม่ให้แม่มาทำร้าย และต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ