เขียนถึงผลงานกับแนวคิดใหม่ๆของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไปเมื่อวันวาน ก็พอดีนึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เองได้รับเอกสารข่าวเกี่ยวกับงาน “เคาต์ดาวน์” หรืองานนับถอยหลังสู่วันขึ้นปีใหม่ 2568 ฉบับหนึ่งมาจาก ททท.เช่นกัน
บรรยายความว่าในปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีส่วนในการสนับสนุนงานเคาต์ดาวน์ของภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดหลายแห่งหลายที่
แต่หนึ่งสถานที่ที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะเขียนให้เพราะเมื่อปีที่แล้วก็เคยเป็นสถานที่จัดมาแล้ว และเป็นข่าวใหญ่ด้วย ปรากฏว่ามีผู้ไม่ทราบสถานที่เยอะพอสมควร ถามไถ่ในสื่อสังคมออนไลน์หลายๆสื่อว่า อยู่ที่ไหน? และจะไปได้อย่างไร?
เมื่อปีนี้ทาง ททท.จะไปจัดใหญ่ที่นี่อีก ผมจึงขอทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แนะนำล่วงหน้าจะได้ไปร่วมกันเยอะๆ โดยไม่หลงไปผิดสถานที่ว่างั้นเถอะ
หมุดหมายสำคัญที่ว่านี้ก็คือ “สวนนาคราภิรมย์” ที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยา บริเวณท้าย “วังหลวง” หรือพระบรมมหาราชวัง ก่อนถึงท่าเตียนนั่นแหละครับ
เป็นสวนขนาดเล็ก มีพื้นที่รวม 3 ไร่ 3 งาน หรือประมาณ 66 ตารางวาเท่านั้นเอง ได้ชื่อว่าเป็นสวนเล็กๆ แต่วิวมูลค่าร้อยล้าน เพราะมองจากสวนข้ามฟากเจ้าพระยาไปจะเห็น พระปรางค์วัดอรุณฯ ที่โดดเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างหน้าถนัดชัดเจนมาก
ตามประวัติบันถึงไว้ว่ามีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ธันวาคม 2553 หรือ 14-15 ปีมาแล้ว ได้รับพระราชทานนามจากในหลวง ร.9 ว่า “สวนนาคราภิรมย์” หมายถึง “สวนอันเป็นที่รื่นรมย์ยิ่งของชาวพระนคร”
ในเอกสารประชาสัมพันธ์ระบุไว้ว่า ททท.จะเนรมิตพื้นที่ (ที่ไม่ใหญ่โตนัก) ของสวนแห่งนี้ให้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 อย่างยิ่งใหญ่ รวม 3 วัน ตั้งแต่ 29-30 และ 31 ธันวาคม
ท่านใช้ภาษาอังกฤษกำกับมาด้วยว่า จะมีกิจกรรมที่สร้างรอยยิ้ม และชวนค้นหาความหมายแห่งความสุขและความเป็นไทยมากมายหลายกิจกรรมในสวนสาธารณะแห่งนี้
รวมทั้งการออกบูธจำหน่ายอาหารจากร้านเด็ดดังและสินค้าจากชุนชนใกล้เคียงมาวางจำหน่ายเป็นที่ระลึก
ในแง่ของความบันเทิง จะมีการบรรเลงออร์เคสตรา และการขับขานของศิลปินชื่อดังของยุค ณ เวทีลอยน้ำบนแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกว่าขับกล่อมทั้งผู้คนในสวนไปถึงผู้ที่นั่งเรือมาตามลำน้ำพร้อมๆกันว่างั้นเถอะ
สำคัญที่สุดซึ่งจะเป็นไฮไลต์ของปีนี้และหวังว่าคงจะมี TV ช่องใดช่องหนึ่งไปถ่ายทอดสดเพื่อให้ประชาชนที่ไม่มีโอกาสออกไป เคาต์ดาวน์ นอกบ้าน ได้นั่งดูชมกันอยู่ทางบ้านทั่วประเทศไทยพร้อมๆกัน
นั่นก็คือ จะมีการแสดงพลุสุดยิ่งใหญ่ควบคู่ไปกับนวัตกรรม แสง เสียง และสื่อประสมที่ทันสมัยยาวนานต่อเนื่องกันไปถึง 7 นาทีเศษๆ
แบ่งออกเป็น 9 องก์ ประกอบด้วย 1.พลุแห่งการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน 2.พลุแห่งจินตนาการและความสร้างสรรค์ 3.พลุสวรรค์ของนักท่องเที่ยว 4.พลุการให้เกียรติซึ่งกันและกันในความแตกต่าง 5.พลุสยามเมืองยิ้ม 6.พลุแห่งความทรงจำอันงดงาม 7.พลุแห่งความสงบสุขและสันติภาพ 8.พลุพร่างพราวรัก และ 9.พลุแห่งความสุขอันไม่มีที่สิ้นสุด
ท่านที่แข็งแรงพอจะไปดูสดๆที่สวนได้ก็เชิญนะครับ แต่สำหรับท่านที่ไม่สะดวกจะไปเบียดเสียดผู้คนคงต้องดูการถ่ายทอดสดทางทีวีอย่างที่ว่า
ผมถึงได้เอ่ยปากขอร้องไว้ว่า อยากได้ทีวีสักช่องหรือหลายช่องก็ได้นะครับ ไปช่วยถ่ายทอดสดช่วงจุดพลุเคาต์ดาวน์ที่สวนนาคราภิรมย์ ซึ่งจะมีพระปรางค์วัดอรุณฯโดดเด่นเป็นฉากอยู่ด้วย ส่งมาเป็น ส.ค.ส.ให้พี่น้องชาวไทยได้ดูกันเต็มๆตาสำหรับปีใหม่ 2568 ที่จะมาถึงนี้.
“ซูม”
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ