รถเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ขบวนแรก เคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต เหตุบัสไฟไหม้ ถึงโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ท่ามกลางความโศกเศร้า
จากกรณี “ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน” โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีครูและนักเรียนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณเที่ยงเศษ ของวันที่ 1 ต.ค. 2567 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 2 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแพทย์นิติเวช สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้ทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ศพ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเวลา 14.38 น. รถของเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูได้ทยอยนำร่างผู้เสียชีวิตเคลื่อนออกจากสถาบันนิติเวชวิทยา โดยมีนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลตำรวจชั้นปีที่สองตั้งแถวเพื่อรอส่งน้องๆ
กระทั่งล่าสุด เวลา 16.19 น. รถของเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรอบแรก ได้เคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตพร้อมญาติๆ จำนวน 4 คัน มาทำพิธีอัญเชิญวิญญาณบริเวณจุดเกิดเหตุอนุสรณ์สถานฯ ถนนวิภาวดี โดยมีการเชิญพระภิกษุสงฆ์ จากวัดโพสพผลเจริญ จำนวน 4 รูป เพื่อมาทำพิธีเชิญวิญญาณ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อทำพิธีเชิญวิญญาณเรียบร้อยแล้ว ขบวนรถจะได้เคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตไปที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีสวดพระอภิธรรม ซึ่งทางผู้ปกครองนั้นตกลงกันว่าจะทำการสวดอภิธรรมพร้อมกันทั้ง 23 ศพ
โดยเมื่อเวลา 20.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถของมูลนิธิร่วมกตัญญูขบวนแรก ได้นำร่างผู้เสียชีวิต 4 ราย พร้อมครอบครัว เดินทางถึงโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีสวดพระอภิธรรม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระหว่างทางพบว่ามีประชาชน ชาวบ้านที่ทราบข่าว ตามเส้นทางที่ขบวนรถเคลื่อนผ่าน ต่างออกมายืนรอ เพื่อแสดงความไว้อาลัยตลอดสองข้างทาง แม้ว่าในบางช่วงจะเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก
ขณะที่มีรายงานว่า ขบวนรถกลุ่มสุดท้าย ได้นำร่างผู้เสียชีวิตออกจากโรงพยาบาลตำรวจแล้วเช่นกัน โดยจะพาครอบครัวไปทำพิธีที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเคลื่อนขบวนมายังโรงเรียนฯ ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีศพ ซึ่งคาดว่า ขบวนสุดท้ายจะมาถึงโรงเรียน ในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 3 ต.ค. 67
ทั้งนี้ ขบวนรถของเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู จะทยอยนำร่างผู้เสียชีวิต มาที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จนครบทั้ง 23 ร่าง เพื่อทำพิธีตามศาสนาต่อไป
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ