หมวดจรูญ ฟ้อง “ครูปรีชา” กับพวก 10 คน คดีหวย 30 ล้านอลเวง ล่าสุดจำเลย 3 คนได้รับการถอนฟ้อง หลังกลับลำสารภาพ ยกมือไหว้ขอขมา

วันที่ 23 กันยายน 2567 มีรายงานว่า จากกรณีคดีหวย 30 ล้านอลเวง ระหว่าง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ซึ่งคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้ต่อสู้คดีในชั้นศาลกันมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 จนถึงปัจจุบัน แต่คดีก็ยังไม่สิ้นสุดกระบวนการในชั้นศาล เนื่องจากมีการฟ้องกันไปมาร่วม 10 คดี

โดย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความส่วนตัวของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ กล่าวว่า วันนี้ (23 กันยายน 2567) เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดพร้อมสอบคำให้การ คดี อ.1558/2567 กรณีหมวดจรูญ ฟ้องครูปรีชา เจ๊บ้าบิ่น เจ๊เกียว เจ๊พัช รวมทั้งนายแผน และพยานคดีหวยอื่น รวมทั้งหมด 10 คน ข้อหาเบิกความเท็จ โดยในวันนี้ จำเลยทุกคนจะต้องมาประกันตัวที่ศาล หากจำเลยรายใดเบี้ยวนัด จะต้องถูกออกหมายจับ

ศาลจังหวัดกาญจนบุรีนัดสืบพยานโจทก์ คดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปรีชา, นางรัตนาภรณ์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา หรือ เจ๊พัช ความผิดฐานร่วมกันเบิกความเท็จต่อศาล เมื่อครั้งการไต่สวนฉุกเฉินอายัดเงินรางวัลที่ได้จากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านบาท ในบัญชีของ ร.ต.ท.จรูญ

ทนายตั้ม พร้อม ลุงจรูญ และภรรยา เดินทางมาถึงที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า พยานของ ประกอบด้วย เจ๊บ้าบิ่น เจ๊เกียว เจ๊พัช นายแผน และพวก รวม 10 คน เป็นพยานครูปรีชาเบิกความเท็จในคดีอาญา มีโทษจำคุก 7 ปี คดีที่อีกฝ่ายฟ้องมามีทั้งหมด 10 คดี แต่ฝั่ง ลุงจรูญ ชนะทุกคดี ทุกชั้นศาล และคดีที่ลุงจรูญได้ฟ้องกลับครูปรีชา ในเรื่องเบิกความเท็จ ศาลพิพากษาครูปรีชา จำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา ซึ่งตอนนี้ การเบิกความเท็จในคดีแพ่งอายัด ครูปรีชาอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์อยู่

นอกจากนี้ยังมีฟ้องคดีแพ่ง ที่อายัดบัญชีของลุงจรูญก่อนหน้านี้ คดีนี้ทั้งเจ๊เกียว เจ๊พัช และเจ๊บ้าบิ่น ได้รับสารภาพทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะต้องรอศาลพิพากษาในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ สำหรับก่อนหน้านี้ที่ครูปรีชาอ้างว่าจะชดใช้ให้กับลุงจรูญ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีการชดใช้ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งลุงจรูญเรียกไปเป็นรายคดีไป คดีละ 1 ล้านบาท รวม 3 คดี ตัดสินไปแล้ว 1 คดี

สำหรับมหากาพย์หวย 30 ล้านบาท ที่ประชาชนสงสัยว่าจะจบเมื่อใดนั้น ตนมองว่าครูปรีชา ทำกับลุงจรูญไว้เยอะ ตอนนี้ถึงคราวของลุงจรูญที่จะเอาคืนบ้างเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นจึงอยากทำให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่าง เพื่อที่บุคคลอื่นจะไม่กล้าทำอย่างครูปรีชาอีก

ลุงจรูญ เปิดใจสั้น ๆ บอกว่า วันนี้ก็อยากให้สื่อไปถามครูปรีชาว่าความจริงยังเป็นความจริงอยู่ไหม ยอมรับว่า ในการต่อสู้ตลอด 7 ปี ที่ผ่านมา ลุงรู้สึกเหนื่อย แต่ยืนยันว่าไม่ท้อ ไม่กลัว เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งครูปรีชาเองก็รู้ดี แต่ก็ยังดึงดัน จะเอาหวย 30 ล้านบาท เป็นของตนให้ได้

ขณะที่ เจ๊บ้าบิ่น เดินทางมาถึงศาลจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนเวลา และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า วันนี้ เจ๊มาทำตามหน้าที่ตามที่ศาลนัด เมื่อถามว่า วันนี้เครียด หรือกังวลหรือไม่ เจ๊บ้าบิ่น บอกว่า รู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้กังวลอะไร เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว

เจ๊เกียว บอกว่า วันนี้เดินทางมาในฐานะจำเลย โดยก่อนหน้านี้ เจ๊ได้ยื่นประกันตัวไปแล้ว จำนวน 50,000 บาท ซึ่งใน 10 คน ศาลท่านได้กรุณาลดย่อนให้ เงินประกันจึงไม่เท่ากัน โดยวันนี้เจ๊ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือเครียดอะไร เพราะเจ๊เป็นพยาน และพูดไปตามข้อเท็จจริงทั้งนั้น ส่วนคนอื่น ๆ ที่มีการรับสารภาพไปก่อนหน้านี้นั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ในส่วนของตน ยืนยันว่าจะให้ข้อมูลที่เป็นความจริง

โดยก่อนขึ้นฟังคำพิพากษา 3 ใน 10 คน ที่เป็นพยานให้ครูปรีชา ได้ขอทนายตั้ม เพื่อขอโทษลุงจรูญ พร้อมกับขอให้ถอนฟ้อง โดยคนแรก คือ นางกาญจนา เป็นแม่ค้าขายผักบุ้ง เป็นพยานพบเห็นครูปรีชาในตลาดจริง และยืนยันเป็นพยานให้ครูปรีชาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา แต่ ณ ตอนนี้รู้สึกเหนื่อย จึงอยากขอโทษลุงจรูญและจบเรื่องนี้

ขณะที่ นางวาสนา แม่ค้าขายหอมกระเทียม บอกว่า ตนยอมรับว่าไม่รู้จักทั้งครูปรีชา และลุงจรูญมาก่อน แต่ว่าเจ๊เกียวให้ตนเซ็นเอกสารฟ้องลุงจรูญขณะที่นอนอยู่ในโรงพยาบาล จนต้องมาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ วันนี้ตนอยากขอโทษลุงจรูญและขอให้ถอนฟ้องเพื่อตนจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ

คนสุดท้าย นางบุปผา แม่ค้าขายไก่ ยกมือไหว้ขอโทษลุงจรูญ พร้อมกับบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจทำให้เดือดร้อน แต่ตนได้พบกับครูปรีชาในวันนั้นจริง และได้มีการพูดคุยกันในตลาดด้วย จึงมาเป็นพยานให้ เพราะเชื่อว่าหวยเป็นของครูปรีชา จนตอนนี้ก็ยังคิดแบบนั้นอยู่ แต่เพียงตนไม่อยากมาขึ้นศาลอีกแล้ว จึงยอมขอโทษเพื่อให้ลุงจรูญถอนฟ้องให้

ทั้งนี้ ลุงจรูญ และทนายตั้ม ได้เปิดเผยว่า วันนี้มีกลุ่มพยานของครูปรีชามาขอโทษกับสิ่งที่ทำ ทางฝั่งตนก็ยินดีจะถอนฟ้องให้ เพื่อให้พวกเขากลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ไปทำมาหากินค้าขาย ไม่ต้องมาคอยขึ้นศาลต่อสู้กันเป็นมหากาพย์แบบนี้

โดยระหว่างที่ทนายตั้มและลุงจรูญให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอยู่นั้น ครูปรีชา ได้เดินทางมาถึงที่ศาลก่อนจะรีบเดินเข้าไปในศาลโดยที่ไม่ได้ทักทายผู้สื่อข่าว หรือให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด.