“อ.สมบูรณ์” มองการเมืองกับการพัฒนา “สุราไทย” แนะแก้กฎหมาย ปลดล็อกสุราเสรี เพื่อผลักดันสู่ซอฟต์พาวเวอร์

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ที่ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ “ไทยรัฐ” ผนึกกำลังกับพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน จัดงาน “เมรัยไทยแลนด์” มหกรรมสุราชุมชนและคราฟต์เบียร์ระดับประเทศครั้งแรก เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและกระจายรายได้สู่คนตัวเล็ก เพื่อยกระดับความคราฟต์ของชุมชน ระหว่างวันที่ 27 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2567

ซึ่งในวงเสวนา “เศรษฐกิจสุราและการเมือง” มีการพูดคุยกับอาจารย์สมบูรณ์ แก้วเกรียงไกร นายกสมาคมสุราท้องถิ่นไทย เกี่ยวกับประเด็นมุมมองของสุราในมิติทางการเมืองและเศรษฐกิจ และโอกาสในการต่อยอดสุราในฐานะผลิตภัณฑ์ soft power ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

โดยอาจารย์สมบูรณ์ เชื่อว่า สุราชุมชนไทย เกี่ยวพันกับการเมือง เพราะในรัฐบาลก่อนหน้า มีการจับมือกับผู้ประกอบการในการพัฒนาสุราชุมชน แต่เมื่อเป็นยุคของรัฐบาลทหาร ต้องยอมรับว่า ไม่ได้มีการพัฒนาในเรื่องนี้อีกเลย 

ขณะที่มูลค่าการตลาดของสุราในประเทศเรา มีมูลค่าประมาณแสนล้าน แต่สุราชุมชน มีมูลค่าการตลาดไม่ถึง 5% เมื่อถามถึงข้าวไทย เมื่อนำมาแปรรูป ใส่บรรจุภัณฑ์ ทำให้เพิ่มมูลค่าได้มหาศาล ถ้ารัฐบาลปรับจุดให้ดี ประชาชนรากหญ้า จะมีรายได้มากเลยทีเดียว กรณีของเหล้าข้าว ถ้าเราทำดีๆ อย่าง “จิน” ต่างประเทศอาจจะใช้ข้าว แต่ของไทย บางผู้ผลิตมีการใช้ “มะแคว่น” ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะตัว แล้วถ้าภาครัฐให้การสนับสนุน เชื่อว่าจะสามารถเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ส่งออกไปต่างประเทศได้เลย 

เมื่อถามถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสุราชุมชนของไทย อาจารย์สมบูรณ์ มองว่า นอกจากข้าวแล้ว ประเทศไทยยังมีผลไม้ประจำถิ่น เป็นร้อยเป็นพันชนิด ตั้งแต่ภาคเหนือยันภาคใต้ ซึ่งสุราชุมชนนอกจากจะทำจากข้าวได้แล้ว ก็ทำจากผลไม้ โดยการใช้เทคโนโลยีในการดึงกลิ่นขึ้นมาให้ชัด ทำให้สุราชุมชนของไทยโดดเด่น 

นอกจากนี้ อาจารย์สมบูรณ์ ระบุว่า หากเราจะสามารถสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ “สุราชุมชน” เพื่อผลักดันให้ไปเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ต้องไปแก้มาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่าด้วยการโฆษณา แสดงสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายก่อน ไม่อย่างนั้นจะใครจะรู้ว่าจังหวัดนี้มีสุราชุมชนอะไรที่โดดเด่น เพราะการสร้างการรับรู้ ก็คือการโฆษณา

เมื่อถามว่า อะไรที่จะสามารถจะผลักดันชุมชนให้ไปไกลได้มากกว่านี้ และอยากให้รัฐปลดล็อกอะไรมากที่สุด อาจารย์สมบูรณ์ มองว่า นอกจากแก้มาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ยังมีเรื่องของกฎหมายสรรพสามิตหลายตัวที่อยากให้แก้ เพื่อให้สุราชุมชนได้ผลิตกันอย่างเสรี ปลดล็อกสุราเสรีให้ได้จริงๆ ไม่มีกฎเกณฑ์ว่าต้องผลิตขั้นต่ำเท่าไร เพราะผลิตมาแล้ว โฆษณาไม่ได้ ขายไม่ได้ ก็วนกลับมาที่จุดเริ่มต้นเหมือนเดิม