ชุมพร สาวคนขับบีเอ็มเสยท้าย จยย.แม่ลูกดับ 3 ศพ อ้างป่วยไม่มาไกล่เกลี่ยตามนัดหมาย ผู้เป็นพ่อยืนยันเรียกเงินค่าเยียวยา 25 ล้าน ไม่เผาศพจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จและได้รับความเป็นธรรม

จากกรณี นางสาวจิรันธนิน แตงขาว อายุ 30 ปี ขับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW ป้ายประมูล หมายเลขทะเบียน กจ 44 นครศรีธรรมราช ด้วยความเร็ว 207 กม./ชม. พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ รุ่นเวฟ 110 ไอ หมายเลขทะเบียน 1 กณ 9257 ชุมพร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ เป็นแม่และลูก เหตุเกิดเชิงสะพานถนนสาย จ. หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อค่ำวันที่ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 8 ธันวาคม 2567 นายประกฤษณ์ สามีและพ่อของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ พร้อมด้วยญาติ มี นายสุวิทย์ เพชรทองไทย พี่เขย และ นางนันทพร รัตนภา เดินทางมา สภ.เมืองชุมพร เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยเงินประกันและเงินเยียวยากับบริษัทประกันภัย และคู่กรณี ตามนัดหมาย โดยฝ่ายผู้เสียหาย มีคณะของทนายความของทนายแก้ว เข้าร่วมเจรจาที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) สภ.เมืองชุมพร โดยไม่มี นางสาวจิรันธนิน แตงขาว คนขับเก๋ง BMW คู่กรณี และญาติมาร่วมด้วยตามนัดหมายแต่อย่างใด

นายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. กล่าวว่าทางบริษัทได้เร่งรัดจ่ายเงินให้เต็มจำนวน จากกรณีนี้ได้มีการร่วมมือจากเจ้าหน้าที่และพี่สื่อมวลชนเข้ามาประสานงานทางบริษัท โดยทางฝ่ายผู้เสียหายจะได้รับเงินจากประกันภัยภาคบังคับ และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถรายละ 500,000 บาท ภาคสมัครใจ รายละ 1,000,000 บาท เต็มกรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 4,500,000 บาท สินไหมทดแทนทรัพย์สินเสีย คือรถจักรยานยนต์และโทรศัพท์ไอแพด เป็นเงิน 95,000 บาท

ด้านนายอำนาจ มาตรง ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายและกำกับดูแลองค์กรฟอลคอนประกันภัย กล่าวว่า หลังจากบริษัทประกันภัยทราบข่าวจากสื่อมวลชนและจากหน่วยงานเกี่ยวข้องในกรณีที่เกิดขึ้นในวันแรกๆ ทางบริษัทกลางก็ขอให้ทางเราดำเนินการจ่ายเงินสินไหมไปก่อน 1 ล้านบาท จนมาวันนี้ทางเราได้มาชำระจนครบตามจำนวน 4,500,000 บาท โดยตามกฎหมายเงินประกันในส่วนนี้จะแบ่งเป็นของสามีผู้เสียชีวิตในฐานะทายาทจะได้ 75 เปอร์เซ็นต์ และคุณยาย หรือมารดาของผู้เสียชีวิตในฐานะทายาทก็จะได้ 25 เปอร์เซ็นต์

พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่าทางด้านผู้ต้องหาที่เป็นคู่กรณีได้มาแจ้งลงบันทึกว่า มีอาการป่วยจึงไม่สามารถเข้ามาประชุมในวันนี้ได้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย และขอขอบคุณพี่น้องสื่อที่ให้การสนใจและดูแลข่าวนี้เป็นอย่างดี กรณีคดีอาญาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำสำนวนส่งอัยการเพื่อทำการสั่งฟ้องต่อไปแล้ว

ขณะที่ นายประกฤษณ์ สามีผู้ตาย กล่าวว่า ตนเพิ่งจะมารู้ว่าคู่กรณีคนขับเก๋งบีเอ็มไม่ได้มาตามนัดหมายตอนที่มา สภ.เมืองชุมพร จริงๆ แล้วตนเองก็คิดไว้แล้วว่าไม่น่าจะมาสู้หน้าตน ซึ่งตนเองก็มีความรู้สึกทวีคูณมากขึ้นกับความจริงใจของฝ่ายคู่กรณี

นายประกฤษณ์ กล่าวอีกว่า ทาง ผกก.สภ.เมืองชุมพร ได้นัดหมายใหม่อีกครั้ง โดยนัดหมายกับคู่กรณีให้ไปเจรจากันที่สำนักงานอัยการจังหวัด และตนก็ยังยืนยันค่าชดเชยเยียวยาที่ 25 ล้าน และเป็นคนละส่วนกับเงินประกันภัย

นายประกฤษณ์ กล่าวยืนยันว่า ตนจะยังเก็บศพลูกเมียไว้ที่มูลนิธิชุมพร จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมและคดีจะแล้วเสร็จ และตอนนี้ก็ได้ไปจุดธูปเทียนบอกกล่าวกับลูกเมียไว้แล้วว่า อย่าไปกวนเจ้าหน้าที่กู้ภัยในมูลนิธิอีก ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ไม่พบเห็นเกี่ยวกับโลงสั่น หรือเสียงเรียกออกมาจากโลงศพอีกเลย.