สามีสาวอุดรฯ เหยื่อ “เชจูแอร์” ไถลจนไฟลุกไหม้ ตั้งใจฌาปนกิจ ก่อนนำอัฐิกลับเมืองไทย ขณะที่ ธอส. นำโฉนดบ้านมามอบคืนให้

จากโศกนาฏกรรม เหตุการณ์สายการบิน “เชจูแอร์” เที่ยวบินที่ 7C 2216 ไถลออกนอกรันเวย์และเกิดเพลิงลุกไหม้ ที่สนามบินมูอัน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ ของเกาหลีใต้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จากข้อมูลมีผู้โดยสารจำนวน 175 คน และลูกเรือ 6 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิต มีคนไทย 2 รายที่เสียชีวิต หนึ่งในนั้นคือ น.ส.สิรีธร จะอื่อ หรือ “น้องเหมย” อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งกำลังเดินทางไปเยี่ยมคุณแม่ที่เกาหลีใต้ และ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี ชาวอุดรธานี

ความคืบหน้า วันที่ 30 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของครอบครัว น.ส.จงลักษ์ ที่บ้านหนองแสง ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้าน น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี พบนายบุญช่วย ดวงมณี อายุ 77 ปี พร้อมญาติๆ ที่รอฟังข่าวจากทางเกาหลีใต้ โดยมีเพื่อนบ้านที่มาให้กำลังใจ และมี น.ส.พรพิมล อัญชลี ปลัดอำเภอหนองวัวซอ คอยประสานงานกับหน่วยงานที่มาช่วยเหลือและให้กำลังใจครอบครัว น.ส.จงลักษ์

นายบุญช่วย เล่าว่า ครั้งแรกอยากจะได้ศพของลูกมาทำพิธีทางศาสนาที่บ้าน แต่เมื่อคืนนี้ นายโฮ แฟนชาวเกาหลีของ น.ส.จงลักษ์ ได้โทรศัพท์มาหา พร้อมกับมีล่ามแปลให้ฟังว่า น.ส.จงลักษ์ ได้จดทะเบียนสมรสกับแฟนชาวเกาหลี ก็ถือว่าเป็นชาวเกาหลีแล้ว แฟนชาวเกาหลีจะทำให้ดีที่สุด จะไปดำเนินการรับศพในวันพรุ่งนี้ และจะนำไปทำพิธีฌาปนกิจศพให้เรียบร้อย ก่อนจะนำอัฐิ น.ส.จงลักษ์ กลับมาบ้านที่เมืองไทย แต่ไม่รู้ว่าจะนำอัฐิกลับมาวันไหน ซึ่งตนได้ฟังแล้ว ได้ปรึกษาญาติพี่น้อง ต่างก็เห็นดีด้วย จึงให้แฟนชาวเกาหลีเป็นคนจัดการทุกอย่าง

“หลังจากที่รู้แน่ชัดว่าลูกเสียชีวิตแน่นอนแล้ว เช้าวันนี้ตนก็ได้ทำบุญตักบาตรให้ลูกพร้อมกับสั่งลูกหลานไปนำข้าวเปลือกไปสีเพื่อนำมาไว้ต้อนรับญาติพี่น้อง และแขก ที่มาถามไถ่ และแสดงความเสียใจ ส่วนครอบครัวของลูกที่อยู่ จ.พิจิตร แฟนชาวไทยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ได้ยกให้พวกตนเป็นคนจัดการทุกอย่าง ไม่ได้ขัดข้อง ยังไม่ได้พาลูกเดินทางมาอุดรธานี คาดว่าจะมาร่วมงานในวันที่นำอัฐิมาถึงอุดรธานี ส่วนลูกชาย 2 คน ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ตนก็ยังไม่อยากให้เดินทางกลับบ้าน เพราะตอนนี้ยังกลัวไม่หาย”

ส่วน น.ส.บุญสิตา ดวงมณี อายุ 18 ปี และแม่ ร่วมให้ข้อมูลว่าเรื่องหนี้สิน ผู้ตายได้กู้เงิน ธอส. จำนวน 5 แสนบาทมาทำบ้าน เจ้าหน้าที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้โทรประสานมาว่า บ่ายวันนี้จะนำโฉนดที่ดินมาคืน พร้อมกับสินไหมทดแทน เพราะว่า น.ส.จงลักษ์ ได้ทำประกันชีวิตไว้ เมื่อเสียชีวิตหนี้บ้านก็จะเป็นศูนย์ ไม่ต้องส่งต่ออีกแล้ว

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายวิกิจชัย แซ่เจีย ผู้จัดการ ธอส.เขตอุดรธานี นายปวริศ บุญรัตน์ ผู้จัดการ ธอส. สาขาอุดรธานี และ น.ส.สุภาพร โลมินทร์ ผู้จัดการ ธอส.สาขาเซ็นทรัล อุดรธานี ได้เดินทางมามอบโฉนดที่ดิน น.ส.จงลักษ์ และสินไหมทดแทนจำนวน 76,388.94 บาท ให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ เนื่องจาก น.ส.จงลักษ์ ได้นำโฉนดที่ดินไปกู้เงินธนาคารอาคารสงเคราะห์จำนวน 5 แสนบาท เพื่อมาสร้างบ้าน โดยสัญญาชำระ 30 ปี พร้อมกับทำประกันชีวิตเต็มวงเงิน มอบให้แม่เป็นผู้รับผลประโยชน์ น.ส.จงลักษ์ ชำระหนี้บ้านได้ 15 ปี 1 เดือน น.ส.จงลักษ์เสียชีวิต ทำให้หนี้เป็นศูนย์ และยังมีเงินสินไหมทดแทนอีกจำนวนหนึ่งมอบให้ผู้รับผลประโยชน์ แต่แม่ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีก่อน จึงนำเงินมามอบให้นายบุญช่วย ซึ่งเป็นคู่สมรสแทน