
สมุทรปราการ เกิดเหตุไฟไหม้ชุมชนแออัด ลักษณะเป็นบ้านไม้ปลูกติดกันหลายหลัง สลด 2 ชีวิต ยายหลานวัย 11 ปี ดับทุรนคากองเพลิง ในสภาพนอนกอดกันอยู่ใต้ซากของบ้าน ขณะที่ สส.พรรคประชาชน ลงพื้นที่กลางดึก เตรียมนำปัญหาถกผู้ว่าฯ หลังดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า มาทำการตัดกระแสไฟ
เมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2567 พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยบางโปรง 4 ต.บางโปรง อ.เมืองสมุทรปราการ จึงประสานขอรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายหน่วยงานเข้าสนับสนุน

ที่เกิดเหตุ เป็นชุมชนแออัด ลักษณะเป็นบ้านไม้ปลูกติดกันหลายหลัง พบแสงเพลิงโหมลุกไหม้ตัวบ้าน 192 ก่อนที่จะลามไปบ้านข้างเคียงและขยายวงกว้างจนแสงเพลิงและกลุ่มควันเริ่มหนาแน่น ขณะเดียวกันพบว่ากระแสไฟยังทำงานอยู่ และมีเสียงระเบิดดังเป็นระยะ เพื่อความปลอดภัยจึงได้รีบประสานเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้านครหลวง มาทำการตัดกระแสไฟ ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเข้าระดมฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้

ต่อมามีผู้เสียหายซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง มาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ยังมีคนติดอยู่ในบ้าน ไม่สามารถหนีออกมาได้ 2 คน เป็นเด็กและคนชรา ขณะนี้ยังไม่พบตัว จนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชม.เจ้าหน้าที่คุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด หลังเพลิงสงบเข้าไประดมกำลังเข้ารื้อใต้ซากเถ้าถ่าน จนไปพบร่างทั้ง 2 คน สภาพศพถูกเพลิงไหม้จนดำเป็นตอตะโก นอนกอดกันอยู่ใต้ซากของบ้าน รายแรก ชื่อนางบัวทอง สติปัญญา อายุ 67 ปี และรายที่สอง ชื่อ ด.ญ.ฟ้าใส กาญจนกูล อายุ 11 ปี ทั้งสองคนเป็นยายหลานกัน
นางชมนาด กาญจนกูล อายุ 43 ปี เจ้าของบ้านกล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุนั้น ตนเองนอนอยู่ชั้นล่าง ส่วน ด.ญ.ฟ้าใส ลูกสาว และนางบัวทอง แม่ของตน นอนอยู่บนชั้น 2 แต่ระหว่างที่กำลังหลับลึกอยู่นั้น จู่ๆ น้องสาวซึ่งอยู่บ้านติดกันได้ตะโกนบอกว่าไฟไหม้ จนตนสะดุ้งตื่นขึ้นมา จึงรีบชะโงกออกไปดูทางหน้าต่าง จนพบว่าแสงเพลิงมาจากชั้นสองของบ้าน ตนเองจึงรีบกระโดดหนีตายออกมาจากทางหน้าต่างโดยไม่สามารถช่วยเหลือใครออกมาได้ ไม่นานเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

ส่วนทางด้านนายนราวิช กาญจนกูล อายุ 16 ปี ลูกชายของนางชมนาด กล่าวว่า ช่วงประมาณเที่ยงคืน ก่อนที่ตนเองจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาทานข้าว เหตุการณ์ก็ยังปกติดี แต่ตนออกไปประมาณ 1 ชม. ขี่รถกลับมา ก็พบว่าเพลิงไหม้บ้านไป 3 หลังแล้ว แต่ขณะนั้นตนเองเห็นแค่แม่ยืนอยู่ แต่กลับไม่พบตัวน้องฟ้าใสและนางบัวทองแต่อย่างใด แต่คิดว่าน้องและยายน่าจะหนีออกมาได้ ตนจึงพยายามเดินตามหาแต่ก็ไม่พบ กระทั่งมาทราบว่า น้องและยายเสียชีวิตอยู่ในกองเพลิง
ส่วนทางด้าน พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า จากการตรวจและสอบถามพยานแวดล้อมพบว่า ต้นเพลิงนั้นมาจากบ้านของผู้เสียชีวิต ส่วนความเสียหายนั้น พบว่ามีบ้าน 4 หลังที่ถูกเพลิงไหม้ไปหมดทั้งหลัง และถูกเพลิงไหม้บางส่วนอีก 3 หลัง รวมทั้งหมด 7 หลัง ส่วนสาเหตุนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ ซึ่งจะต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ต่อมานางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.พรรคประชาชน เขต 1 เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ โดยนางสาวพนิดา กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองมาถึงพบและได้รับฟังปัญหาจากชาวบ้านนั้น พบว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึง แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้ เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า มาทำการตัดกระแสไฟ กว่าจะเดินทางมาถึงและตัดกระแสไฟได้ก็ประมาณเกือบจะตีสองครึ่ง ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน ความเสียหายอาจถูกจำกัดได้ตั้งแต่แรกหากมาตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ตนจะได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อหาทางปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการเผชิญเหตุในจังหวัดต่อไป
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ