สคบ. ส่งหนังสือเรียก แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ให้ข้อมูลพรุ่งนี้ ขณะที่สาวท้อง แบกของแถม-ปี่เซียะ นั่งรถทัวร์มาจากเชียงใหม่ เอาทองคืนร้าน ด้าน ผกก.สน.นิมิตรใหม่ ระบุร้านรับซื้อทองคืนจนกว่าจะหมด
ความคืบหน้ากรณีร้านทองแม่ตั๊ก เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ก.ย. ที่บริเวณหน้าร้านทอง ใกล้ซอยหทัยราษฎร์ 33 ยังมีลูกค้าจำนวนมาก หอบหิ้วทองปี่เซียะ และของแถม มาขายคืนให้กับร้านเป็นวันที่ 3 บางคนมารอตั้งแต่เช้ามืด เพื่อรอร้านเปิดในเวลา 10.00 น. เพื่อลงชื่อ และรับบัตรคิว โดยมี พ.ต.อ.ยิ่งยศ ฉลาดปรุ ผกก. สน.นิมิตรใหม่ นำกำลังมาคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
น.ส.ศิริพร ศรีสมทรง อายุ 40 ปี อุ้มท้อง 2 เดือน นั่งรถทัวร์จาก จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของเมื่อวาน และมาถึงหน้าร้านช่วงเวลา 05.30 น. โดยใช้เวลากว่า 9 ชั่วโมงครึ่ง เปิดเผยว่า ตนทักไปในเพจของแม่ตั๊ก เพื่อสอบถามถึงวิธีการคืนทองวิธีอื่น นอกจากเดินทางไปหน้าร้าน แต่ทางเพจกลับไม่มีใครตอบ เมื่อวานนี้แอดมินเพจตอบกลับมาว่า ให้เดินทางมาคืนทองได้ที่หน้าร้านเท่านั้น และต้องนำของแถมมาให้ครบทั้งหมด ตนหอบหิ้วของทั้งหมดมาในวันนี้ โดยซื้อปี่เซียะ 8 ตัว มาในราคา 31,614 บาท และไอ้ไข่ในราคา 1,700 บาท ไปเมื่อปี 65 ที่ซื้อร้านแม่ตั๊ก เพราะเชื่อมั่นและเห็นว่ามีหน้าร้าน อีกทั้งแม่ตั๊กยังแจ้งว่า ทุกสิ่งอย่างเป็นทอง 99.99% และมีการจูงใจทำให้เชื่อว่าคุ้มค่า เพราะทองก็คือทอง ซึ่งตนก็ตัดสินใจอยู่นานมาก กว่าที่จะจ่ายเงินซื้อ
น.ส.ศิริพร บอกต่อว่า ตอนได้ของมาตนรู้สึกดีใจ เพราะคิดว่าของแถมนี้สามารถนำไปให้ญาติผู้ใหญ่ สามารถเป็นหน้าเป็นตาของเราได้ และเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าทางจิตใจ แต่เมื่อเป็นกระแส และรู้ว่าเป็นกระดาษ ก็ใจเสีย และมองว่าแพ็กเกจแพงกว่าของแถมด้านในอีก แต่ที่เสียใจที่สุด คือ ทางร้านไม่มีช่องทางการคืนทองอื่น ๆ ให้กับลูกค้าที่อยู่ไกล ทั้งที่มีช่องทางให้คืนทองอื่น ๆ อีกมากมาย ตอนนี้ตนท้อง หมอก็ให้ระวัง แต่ต้องมาแบกของแถมขนาดใหญ่ไปมา ทำให้เครียดและกังวลอย่างมาก กลัวว่าลูกจะเป็นอะไร
น.ส.ศิริพร บอกด้วยว่า โชคดีที่วันนี้ได้เงินคืนเต็มจำนวน แต่ไอ้ไข่ได้รับคืนแค่ 740 บาท จึงตัดสินใจไม่ขาย และจะนำเงินที่ได้เก็บไว้ใช้ในตอนคลอดลูก และหลังจากนี้คงไม่ซื้อร้านแม่ตั๊กอีกแล้ว และความไว้ใจได้หายไปแล้ว เพราะหน้ากล้องพูดอีกอย่าง หลังกล้องพูดอีกอย่าง และมองว่าแม่ตั๊กเป็นเจ้าของร้าน ก็ควรจะมาหน้าร้าน มาแสดงความจริงใจกับลูกค้าที่เสียความรู้สึกไปแล้ว
สุดท้ายนี้อยากฝากบอกแม่ตั๊กว่า ไม่อยากให้ทำนาบนหลังคน เพราะเงินแต่ละบาทกว่าจะหามาได้ เศรษฐกิจก็แย่ ซื้อมาก็คิดว่าจะเอาไปขายได้ เพราะทุกคนเข้าใจว่า “ทอง” อยู่ที่ไหนก็คือ “ทอง”
ต่อมาเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ยิ่งยศ ฉลาดปรุ ผกก. สน.นิมิตรใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความที่ สน.นิมิตรใหม่ 2 ราย รายแรก เป็นประชาชนที่ซื้อสร้อยทองข้อมือปี่เซียะไป ราคา 38,888 บาท และก่อนหน้านี้เคยจะนำมาขายคืนร้าน แต่ร้านรับซื้อเพียง 5,000 บาท ลูกค้าจึงนำทองไปจำนำ เพราะได้เงิน 5,000 บาท เช่นกัน ก่อนที่จะมาทราบว่าร้านเปิดรับซื้อคืน ผู้เสียหายรายนี้จึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.นิมิตรใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกับทางร้านพูดคุยเจรจากัน สามารถขายทองได้เต็มจำนวนแล้ว ให้ลูกค้ารายนี้ไปไถ่ของมาขายที่ร้าน
ส่วนอีกรายเป็นลูกค้าที่มีเอกสารการซื้อขายไม่ครบ ไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อไปขอสเตทเมนต์กับธนาคารในการนำมายืนยันกับร้านทอง
ส่วนการรับซื้อขายทองคืน ทางร้านให้ข้อมูลกับตำรวจว่า จะยังคงเปิดรับซื้อคืนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีลูกค้านำทองมาคืนแล้ว และร้านจะเปิดให้คืน ตั้งแต่วันจันทร์-วันเสาร์ โดยสามารถแจกคิวได้ 300 คิวต่อวัน แต่หากมีลูกค้าจากต่างจังหวัดมาเพิ่ม หลังจากปิดรับคิวแล้ว ก็จะเพิ่มคิวให้ ส่วนที่จอดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้ผู้ที่มาร้านทอง จอดรถที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีหทัยราษฎร์ นอกจากนี้ ยังได้ให้เจ้าหน้าที่จราจร สน.นิมิตรใหม่ เพิ่มจุดจอดรถในบริเวณใกล้เคียงให้ด้วย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เดินทางมาที่ร้านทองแม่ตั๊ก พร้อมเข้าไปในร้าน ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า นำหนังสือเชิญให้กรรมการบริษัทไปพบ สคบ. ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) เวลา 09.00 น. เพื่อชี้แจงข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ถ้าไม่ไปจะส่งหนังสือเรียกครั้งที่ 2 ถ้าหากไม่มาอีก จะรวบรวมพยานหลักฐานแล้วส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี โดยคนรับหนังสือคือ ผู้จัดการร้าน และรับปากว่า จะส่งหนังสือเรียกฉบับนี้ไปให้กับแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ ซึ่งทั้งคู่ยืนยันว่าจะไปให้ข้อมูลกับทาง สคบ. แน่นอน
และในช่วง 16.00 น. วันนี้ จะมีกลุ่มผู้เสียหายไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วย
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ