ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกหมายจับ 3 ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุอุ้มเสี่ยเต็นท์รถมือสอง รีดเงินค่าไถ่ตัว 10 ล้านบาท หลังถูกกล่อมให้ปล่อยตัว ผู้เสียหายถูกซ้อมอาการปางตาย ตำรวจสืบภาค 4 ร่วมมือตำรวจสืบภูธรจังหวัดและตำรวจในพื้นที่ร่วมวางแผนรวบตัว ขณะที่อาการของผู้บาดเจ็บยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์
จากกรณี นางภิญญดา ธานี อายุ 59 ปี มารดาผู้บาดเจ็บ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สหัสขันธ์ ว่าบุตรชายคือ นายถิรวุฒิ ผารุธรรม อายุ 36 ปี หรือเก่ง เจ้าของเต็นท์รถมือสอง ในพื้นที่ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ถูก นายจ๊อด หรือนายพงษ์พิสิทธิ์ ไชยสุนทร อายุ 34 ปี และเพื่อนร่วมแก๊ง จำนวนกว่า 7-8 คน ร่วมกันใช้อาวุธปืนจี้บังคับไปรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ให้นำเงินจำนวน 10 ล้านบาท มาไถ่ตัวแลกชีวิต ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 พ.ต.อ. แมน ศิริฉาย ผกก.สภ.สหัสขันธ์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ไชยพร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ประกอบด้วย
1.นายพงษ์พิสิทธิ์ ไชยสุนทร หรือจ๊อด อายุ 34 ปี หัวหน้าแก๊ง หมายจับที่ จ.780/2567, 2.นายนฤพนธ์ อุเทศ อายุ 28 ปี (ลูกสมุน) หมายจับที่ จ.781/2567 และ 3.นายศิราวุฒิ เขจรศาสตร์ อายุ 26 ปี (ลูกสมุน) หมายจับที่ จ.782/2567
โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีความผิดฐานความผิด 1.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, 2.ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส, 3.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, 4.พาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหรือชุมชน
ซึ่งระหว่างรอหมายจับ ชุดคลี่คลายคดี ซึ่งนำทีมโดย พ.ต.อ.แมน ศิริฉาย ผกก.สภ.สหัสขันธ์ ประชุมวางแผนกับตำรวจสืบสวนภาค 4 นำทีมโดย พ.ต.ท.ไตรรัตน์ แงดสันเทียะ รอง ผกก. ปพ.ภ.4 (ปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 4) และตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นำทีมโดย พ.ต.อ.นพวิทย์ ดิษฐาธนาธรสิริ ผกก.กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบกว่า 50 นาย เพื่อลงพื้นที่กระจายกำลังออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่คาดว่าจะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวในที่พักอาศัยของผู้ต้องหา
ขณะที่ชาวบ้านในเขตพื้นที่เดียวกันหลังเกิดเหตุ ต่างพากันปิดปากเงียบ แม้กระทั่งผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้านตำบลโนนแหลมทอง ต่างพากันรูดซิปปากเงียบสนิท ไม่กล้าให้ข้อมูลถึงพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ เพื่อเกรงว่าจะได้รับความเดือดร้อน
มีเพียง ลุงเพชร (นามสมมุติ) ออกมาเล่าถึงวีรกรรมของนายจ๊อดให้ฟังว่า เป็นบุคคลอันตราย ก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนมาโดยตลอด มักจะยิงปืนข่มขู่ชาวบ้าน และยังเข้าไปเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดอีกด้วย หากตำรวจจับไปได้ ชาวบ้านก็จะอยู่อย่างเป็นสุขโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกนายจ๊อดมาทำอันตรายแต่อย่างใด
ด้าน นางรัศมี ผารุธรรม อายุ 60 ปี ป้าผู้บาดเจ็บ ออกมาบอกว่า หลังเกิดเรื่อง รุ่งเช้าของวันเกิดเหตุ ได้มีชายฉกรรจ์ จำนวน 3 ถึง 4 คน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ บุกเข้ามาในเขตบริเวณบ้าน พูดจาไม่สุภาพ และยังได้ถ่ายรูปรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ทำให้ตนตกใจกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย ทั้งที่เราเป็นผู้เสียหาย แต่มาทำกับเรายังกับว่าเราเป็นผู้ก่อเหตุเสียเอง
ส่วนอาการบาดเจ็บของ นายถิรวุฒิ ผารุธรรม หรือ “นายเก่ง” ได้รับการเปิดเผยจาก นายปียา ผารุธรรม บิดาผู้บาดเจ็บว่า ขณะนี้อาการของบุตรชายยังน่าเป็นห่วง หลังจากออกจากห้องทีซีสแกนสมองแล้ว แพทย์ให้ออกมาพักที่ห้องผู้ป่วยรวม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ