นนทบุรี-พระพยอมพร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย แถลงปลดล็อกปิดตำนานอนุสาวรีย์โฉนดถุงกล้วยแขกวัดสวนแก้ว เตรียมรื้อถอนทุบทิ้ง ตั้งกองผ้าป่าใช้หนี้ให้วัด จำนวน 1.9 ล้านบาท เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมบริจาคได้

จากกรณีคดีโฉนดถุงกล้วยแขก แม้ในส่วนของคดีความจบลงไปนานแล้ว โดยมูลนิธิวัดสวนแก้วเป็นฝ่ายแพ้คดี หมดกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย วัดสวนแก้วต้องแพ้คดีให้กับทายาทเจ้าของที่ดิน และต้องชดใช้เงินค่าเสียหายจำนวน 1.9 ล้านบาท

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 13 พ.ย. 67 ที่ลานอนุสาวรีย์ถุงกล้วยแขก วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พระราชธรรมนิเทศ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว พร้อมด้วย ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ทนายดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ซึ่งพระพยอม ได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปขอความช่วยเหลือเรื่องที่ดินแปลงดังกล่าว จนสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกับทายาทเจ้าของที่ดินสำเร็จ จึงได้ร่วมกันแถลงข่าวเรื่องการทุบอนุสาวรีย์ถุงกล้วยแขก ปิดตำนานโฉนดถุงกล้วยแขก

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า วันนี้ทีมทนายได้รับเรื่องร้องเรียนจากหลวงพ่อพระพยอมเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 67 โดยทางวัดต้องการให้แก้ไขปัญหาเรื่องโฉนดถุงกล้วยแขกที่มีข้อพิพาทมาเกือบ 20 ปี ตนคิดว่าใช้พระเดชไม่ได้ต้องใช้พระคุณ เพื่อแก้ปัญหาจึงได้ตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมด จนวันที่ 19 ต.ค. 67 ได้เข้ามาพูดคุยกับหลวงพ่อเพื่อสืบหาเรื่องราวทั้งหมด หลวงพ่อเก็บเงินซื้อที่ดินได้ 300 กว่าไร่ เพื่อทำสวนพฤกษศาสตร์ ตนรู้สึกว่าวัดทำเรื่องดี ไม่มีที่ไหนทำมาก่อน แต่ตนก็แปลกใจที่หลวงพ่อปกป้องโฉนดที่ดินเลขที่ 55600 เนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา จนทราบว่าเงินจำนวน 10 ล้านที่ซื้อ เป็นเงินจากพระเกจิจากทั่วประเทศ และประชาชนที่บริจาคมาให้เพื่อซื้อที่ดิน โดยหลวงพ่อปกป้องเงินของครูบาอาจารย์ ซึ่งที่ดินแปลงนี้หลวงพ่อได้สอบถามทุกหน่วยงานเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะซื้อ แต่นางวันทนา สุขสำเริง ได้ยื่นฟ้องร้องปรปักษ์มาและได้มาขายให้กับทางวัดเมื่อปี 2547 ต่อมาทายาทที่ดินร่วมกันได้ร้องขอเพิกถอนเพราะเป็นที่ดินมรดกจนชนะคดีในที่สุด

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า หลวงพ่อและเจ้าของที่ดินสุจริตทั้งคู่ ต่อมาศาลพิพากษาให้ทางวัดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดและย้ายออกจากที่ดิน เมื่อปี 2565 ที่ดินนี้ต่อสู้กันมายาวนาน 18 ปี เมื่อตนลงมาตรวจสอบแล้วได้เสนอให้เจรจาไกล่เกลี่ย โดยตนเป็นตัวแทนเจรจา และได้ไปคุยกับเจ้าของที่ดิน ตระกูลหิรัญประดิษฐ์ ทุกอย่างจบกันด้วยดี และเสนอให้ปิดตำนานอนุสาวรีย์กล้วยแขก เตรียมรื้อออกทั้งหมด ปัจจุบันทางวัดต้องผ่อนชำระเพื่อชดใช้ให้กับเจ้าของที่เป็นเงิน 1.9 ล้านบาท ตนได้เสนอให้ทางวัดตั้งกองผ้าป่าปลดล็อกที่ดินวัดสวนแก้ว เพื่อเปิดรับบริจาคให้กับทางวัดชำระค่าเสียหายให้กับเจ้าของที่ดิน ตนหวังว่าการปิดตำนานจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย และทางวัดต้องการซื้อที่ดินแปลงนี้เพราะเงินของวัดได้ใช้ซื้อที่ดินไปหมดแล้ว

พระราชธรรมนิเทศ กล่าวว่า คดีโฉนดถุงกล้วยแขกยาวนานมาถึงเกือบ 20 ปี วันนี้เป็นวันปิดตำนานโฉนดถุงกล้วยแขกวัดสวนแก้ว โดยมีทนายอนันต์ชัย เข้ามาช่วยจนเรื่องจบสิ้น ทางวัดจะได้แกะโซ่ที่ล่ามที่ดินแปลงนี้ วันนี้เป็นข่าวที่เป็นมงคลปลื้มใจ ทางกรมที่ดินก็คงจะปลื้มใจ ปลดล็อกเรื่องที่ดิน ทางทายาทตระกูลหิรัญประดิษฐ์ ก็จะได้หมดเรื่องที่แคลงใจแล้วสบายใจขึ้น ทางวัดอาจจะมีกระเช้าไปให้ทางทายาทที่ยอมผ่อนปรนเรื่องนี้ให้จบลงด้วยดี สุดท้ายนี้ทางวัดได้มีทนายมาเป็นที่พึ่งให้กับวัดและศาสนา เรื่องนี้จบลงด้วยดีไม่มีคำว่าเจ็บใจอีกต่อไป

ทั้งนี้ทางวัดสวนแก้ว ไม่มีเงินเพื่อจะชำระหนี้ดังกล่าว จึงได้ตั้งกองผ้าป่าปลดล็อกที่ดิน วัดสวนแก้ว เปิดบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาบางบัวทอง เลขที่ 121-1-18038-7 พุทธศาสนิกชนที่ต้องการบริจาคเพื่อช่วยเหลือวัดสวนแก้ว สามารถร่วมบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ให้กับเจ้าของที่ดิน