คนร้ายยิงปะทะตำรวจ ดึงระเบิดขู่ แต่ดันสะดุดล้ม ตกใส่ตัวเองดับ ที่แท้เป็นคนไทย ขณะที่ 1 ในคนร้ายยังปากแข็ง อ้างไม่รู้จักผู้ตาย แค่ขอติดรถจะไปหางานทำ สืบสวนเบื้องลึกพัวพันแก๊งค้ายาเสพติด แจ้ง 4 ข้อหาหนัก พร้อมเตรียมฝากขังภายใน 24 ชม.

จากกรณี 2 คนร้าย หลบหนีตำรวจจากอุบัติเหตุเฉี่ยวชน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ภ.จว.หนองคาย ไล่ติดตามจับกุมจนเกิดการยิงปะทะกันที่ริมโขง วัดกุมภประดิษฐ์ หมู่ 2 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย แล้วไม่นานก็เกิดเหตุระเบิดมีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากการที่คนร้ายได้ดึงสลักระเบิดออก กะจะเขวี้ยงใส่เจ้าหน้าที่ แต่คนร้ายเกิดสะดุดล้ม แล้วคนขับสามล้อ (ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน) สะบัดหลุดวิ่งหลบหนีออกมาอย่างฉิวเฉียด ส่วนคนร้ายถูกระเบิดใส่ตัวเองจนเสียชีวิตทันที ส่วนคนร้ายอีก 1 รายถูกจับได้ขณะขึ้นเรือหลบหนี ส่วนอาวุธปืนและของกลางอื่น ๆ คนร้ายโยนทิ้งลงแม่น้ำโขง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.ก้องภพ สีหาชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ ว่า จากการตรวจสอบลายนิ้วมือและอัตลักษณ์ของทั้ง 2 คน ยืนยันว่าเป็นคนไทย ผู้ตายชื่อ นายมานพ ใจดี เป็นชาว จ.สุพรรณบุรี ส่วนอีกคนที่ถูกจับได้อ้างว่าเป็นคนลาวนั้น ชื่อ นายธนาสิทธิ์ ฤกษ์สิริกรกุล เป็นชาว จ.ลพบุรี

จากการตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะของคนร้าย พบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดและยาบ้า จำนวน 30 เม็ด ซุกซ่อนอยู่

โดยนายธนาสิทธิ์ฯ ยังให้การปฏิเสธ ไม่ยอมให้การใด ๆ ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับคดี อ้างว่าไม่รู้จักกับคนตาย เพียงแต่ขอติดรถมาจะไปทำงานที่อุดรธานี และผู้ต้องหายังยืนยันว่าตัวเองเป็นคนลาว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากการสืบสวนเบื้องลึกแล้วมีส่วนพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า 30 เม็ด), ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, ร่วมกันต่อสู้และขัดขวางเจ้าพนักงาน, มีอาวุธปืนและวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง และเตรียมส่งฝากขังภายใน 24 ชั่วโมงนี้.