“รองโฆษกกรมราชทัณฑ์” โต้ข่าวลือ “บอสกันต์” อาการน่าเป็นห่วง ยืนยันไม่เป็นความจริง แต่อยู่ระหว่างปรับตัว ขณะที่ญาติบอส “ดิไอคอนกรุ๊ป” 3 ราย ติดต่อเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง

เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 22 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ทัณฑสถานหญิงกลาง มีการเปิดให้ญาติสามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาหญิง ซึ่งรวมถึงผู้ต้องหาในคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่ได้เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมได้เป็นวันแรก หลังจากกักตัวโควิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รรท.ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า หลังจากที่บรรดากลุ่มบอสหญิง มีการกักโรคโควิด-19 ครบ 5 วัน จากนั้นจะย้ายทั้งหมดไปที่แดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี เพราะยังเป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณา ส่วนเรื่องสุขภาพจิตใจยังไม่มีสิ่งใดต้องเฝ้าระวัง แต่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักระยะ

ในส่วนของ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ บอสมิน นักแสดงสาวยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องความเครียดค่อนข้างปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงขนาดปกติมากนักเพราะการเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็ต้องปรับตัวพอสมควร ทางทัณฑสถานหญิงกลาง มีการให้เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในเรือนจำ และแนะนำการปรับตัวการใช้ชีวิต ซึ่งเราจะมีพี่เลี้ยงที่เป็นผู้ต้องขังเช่นเดียวกันในการประกบดูแลผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีเมื่ออยู่ในแดน และเรายังมีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ คอยดูแลเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะประจำอยู่แต่ละเรือนนอน เพื่อที่จะดูแลทั้งสุขภาพกายสุขภาพใจ เมื่อบรรดาบอสหญิงถูกย้ายเข้าแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี

อีกทั้งก่อนจะจำแนกแยกแดน จะต้องดูลักษณะของผู้ต้องขังด้วย ต้องดูทั้งความปลอดภัยและมาตรการการดูแล เช่น หากเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ก็จะให้อยู่ชั้นล่าง แต่ถ้าเป็นผู้ต้องขังตั้งครรภ์ก็จะให้อยู่ในส่วนที่เหมาะสมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ คงไม่ได้ให้กลุ่มบอสหญิงได้อยู่รวมกันทั้งหมด คงต้องแยกบ้าง และการเข้าร่วมกิจกรรมกองงานของเรือนจำฯ จะยังไม่ให้ทำมาก เพราะทุกคนต้องใช้เวลาในการสู้คดี แต่ถ้าประสงค์จะเข้ากองงานก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ ยืนยันว่าเราเฝ้าระวังการเขม่นกันภายในเรือนนอน

นางกนกวรรณ กล่าวว่า สำหรับการเข้าเยี่ยมของทนายความสามารถดำเนินการได้ทุกวัน ไม่จำกัดเวลาในการพูดคุย ส่วนการเยี่ยมญาติของบรรดาบอสหญิงสามารถเข้าเยี่ยมได้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที หรือจองเยี่ยมญาติออนไลน์ผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้เดือนละ 1 ครั้ง ตนได้รับรายงานว่าวันนี้มีญาติทั้งหมด 3 ราย ติดต่อเข้ามาเยี่ยมผู้ต้องขัง แต่ตนขออนุญาตไม่แจ้งรายละเอียดส่วนบุคคล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิด

ส่วนเรื่องการดูแลผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีและผู้ต้องขังเด็ดขาดมีความแตกต่างกันแน่นอน เพราะถือเป็นนโยบายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ได้ให้ดำเนินการในทุกเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง ตั้งแต่เรื่องกายภาพ จะต้องแยกผู้ต้องขังระหว่างออกจากผู้ต้องขังเด็ดขาด และทรงผม ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีไว้ผมยาวได้แต่ต้องรวบให้เรียบร้อย แต่ถ้าร้อนก็ขอตัดความยาวออกได้

สำหรับการแต่งกายของผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี เมื่อออกไปศาล ปกติจะต้องแต่งกายชุดสีลูกวัว แต่ที่นี่เราไม่ได้ใช้แล้ว โดยจะเป็นชุดสีเหลืองอ่อนแทนเมื่อต้องขึ้นศาล ส่วนชุดนอนจะเป็นสีหลากสี สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางใบสั่งรายการของเรือนจำ ในตอนนี้ยังไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ สคบ. หรือตำรวจ บก.ปคบ. ประสานที่จะเข้ามาในเรือนจำฯ เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหาแต่อย่างใด

ส่วนสุขภาพร่างกายก็มีบอสชายบางรายที่ป่วยด้วยโรคประจำตัว (บอสวิน นายธวินทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว) ก็ได้รับการรักษาตามกระบวนการของแพทย์และรักษาต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะต้องย้ายไปรักษาที่ รพ. ภายนอกเรือนจำหรือไม่ เพราะต้องใช้ความเห็นของแพทย์ ทั้งนี้ มีกรณีของนายกันต์ กันตถาวร ที่ได้ขอน้ำตาเทียมเพราะมีอาการตาแห้ง และมีบางรายที่ป่วยไข้เล็กน้อย

ทั้งนี้ ตนได้ประสานพูดคุยกับนายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รรท.ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่าหากบรรดาบอสชายครบกักโรคโควิด-19 แล้วนั้นจะให้อยู่ในแดนใด ทราบว่าอาจเป็นแดน 2 แดน 4 หรือแดน 8 เพราะเป็นแดนสำหรับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ส่วนจะเป็นแดนใดนั้น เป็นการพิจารณาของ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนใหญ่กรมราชทัณฑ์จะไม่ให้ผู้ต้องขังอยู่รวมกัน นอกจากว่าการอยู่รวมกันจะเกิดประโยชน์ เช่น การซัพพอร์ตจิตใจซึ่งกันและกันของผู้เป็นพ่อและลูก ทั้งนี้ ข้อกังวลเรื่องคู่กรณีหรือผู้เสียประโยชน์ในแดนจะส่งผลต่อความปลอดภัยของบรรดาบอสชายและบอสหญิงนั้น เป็นเรื่องปกติที่เราต้องเฝ้าระวังกับผู้ต้องขังทุกคน

นอกจากนี้ บรรดาบอสชายทางญาติจะเข้าเยี่ยมได้ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. เป็นต้นไป เวลาในการเยี่ยมรายละ 15-20 นาที หรือ 1 ครั้งต่อวัน และยังมีการเยี่ยมญาติทางแอปพลิเคชันไลน์โดยการวิดีโอคอลซึ่งจะต้องมีการลงทะเบียนก่อน แต่อาจใช้เวลาในการพูดคุยน้อยกว่า ส่วนเรื่องข้อกังวลความแออัดบนเรือนนอน ยอมรับว่ามีความกังวลบ้าง แต่ทางกรมราชทัณฑ์จะพยายามบริหารเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งเป้าหมายของกรมราชทัณฑ์ตั้งใจว่าการนอนของผู้ต้องขังหนึ่งรายจะใช้พื้นที่ 1.6 ตารางเมตร ส่วนเรื่องการเปิดบัญชีฝากออมทรัพย์ของผู้ต้องขังระหว่างพิจารณา ส่วนใหญ่บรรดาบอสชายและบอสหญิงมีการเปิดแล้ว ซึ่งจำนวนเงินที่ฝากเข้าภายในบัญชีต้องไม่เกิน 15,000 บาท

สำหรับกรณีของ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก ว่าปัจจุบันอยู่ในแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าบรรดาบอสหญิงจะได้เจอกับแม่ตั๊ก และยืนยันว่าเธอไม่ได้ป่วยหนักตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานเพิ่มเติมจากนายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รรท.ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า สำหรับกระแสข่าวที่ว่านายกันต์ กันตถาวร หรือ “บอสกันต์” มีอาการน่าเป็นห่วงจนต้องขอพบแพทย์กลางดึก ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยนายกันต์สุขภาพร่างกายไม่น่าเป็นห่วง อยู่ในระหว่างการปรับตัว และไม่มีการพบแพทย์กลางดึกอย่างที่เป็นกระแสข่าว ส่วนกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่า นายกันต์ไม่สามารถกินอาหารในเรือนจำได้ โดยกินไข่พะโล้ได้เพียงคำเดียวและคายออกมานั้น ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ญาติที่เข้าเยี่ยม น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ มิน นั้น ทราบเบื้องต้นว่าเป็นในส่วนของนายเคลวิน ตีรวัฒนานนท์ หรือ เค แฟนหนุ่มของมิน โดยมีรายงานแจ้งว่าแฟนหนุ่มได้มีการนำยารักษาโรคเข้ามาให้แก่ดาราสาวในช่วงเช้า ก่อนขับรถยนต์ส่วนบุคคลออกไปจากทัณฑสถานหญิงกลาง ในเวลา 11.26 น. โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน.