ตำรวจชลบุรีฉาว สาว 17 ร้องสายไหมต้องรอดถูก “รอง สวป.สภ.บ้านบึง” ตีสนิท เพราะอยู่บ้านคนเดียว ลวงข่มขืนคาป้อมตำรวจหนองแก หลังจากนั้นข่มขู่ห้ามปูดให้ใครรู้ ไม่งั้นจะฆ่าให้ตายจนเหยื่อปิดปากเงียบ ย่ามใจมารับพาไปเชือดที่ป้อมตำรวจต่อเนื่องจนทนไม่ไหว เพราะตัวเองชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบผู้ชาย “เอกภพ เหลืองประเสริฐ” ยันช่วยเหลือด้านคดี เริ่มดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พาไปตรวจร่างกายก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดี ชี้ผิดแน่นอนเพราะชำเราเด็กอายุแค่ 17 ปี

สาว 17 ร้องตำรวจลวงไปข่มขืนคาป้อมตำรวจรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ต.ค. นายคม (นามสมมติ) อายุ 73 ปี พา น.ส.พลอย (นามสมมติ) ลูกสาววัย 17 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เข้าขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกสาวถูกตำรวจระดับรองสารวัตรฝ่ายปราบปราม สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตีสนิท สุดท้ายออกลายขับรถสายตรวจมารับพาไปข่มขืนกระทำชำเราคาป้อมตำรวจ

น.ส.พลอย เหยื่อวัย 17 ปีกล่าวว่า ช่วงเดือน ก.พ. ญาติพาพ่อที่ป่วยติดเตียงกลับบ้านที่ภาคใต้ ทำให้ตนต้องอยู่ลำพัง เคยไปแจ้งความที่ สภ.บ้านบึง เนื่องจากมีคนแปลกหน้าขับรถมาวนเวียนแถวบ้าน จากนั้นตำรวจให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ตนโทร.หาให้มาดูแลบริเวณบ้าน นายตำรวจที่มาดูแลขอไลน์เพื่อติดต่อหากมีอะไรผิดปกติ เลยติดต่อกันมาตลอด นายตำรวจคนนั้นแวะเวียนมาดูแล อ้างว่าเพราะเห็นตนอยู่คนเดียว ตนให้ความเคารพเหมือนผู้ใหญ่ใจดีที่ดูแลความปลอดภัยให้ พาไปกินข้าวบ้าง พาไปเที่ยวบ้าง

“ต่อมาช่วงเดือน เม.ย. เวลาประมาณเที่ยงคืน นายตำรวจคนดังกล่าวชวนออกไปกินข้าวตามปกติ พอกินเสร็จบอกว่า ขอแวะทำธุระที่ป้อมตำรวจหนองแก ก่อน เห็นว่าเป็นที่ทำงาน คงไม่เป็นอะไร ตอนนั้นในป้อมไม่มีใครอยู่ เข้ามาลวนลาม หนูพยายามห้ามบอกว่านับถือเป็นลุง ที่สำคัญหนูไม่ได้ชอบผู้ชาย ชอบผู้หญิง แต่เขาไม่ฟังเข้ามาบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แล้วมาขอร้องไม่ให้เอาเรื่อง ขู่ด้วยว่าถ้าเอาเรื่องจะฆ่าให้ตาย อ้างว่าในอดีตเคยเผานั่งยางผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาแล้ว ถึงไปแจ้งความก็ไม่มีใครทำอะไรได้ ด้วยความกลัวเลยยอมไม่แจ้งความ ไม่กล้าบอกใคร” เหยื่อสาววัย 17 ปีกล่าว

น.ส.พลอย กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นเขาทำตัวปกติ แวะมาตรวจแถวบ้านตลอด รับไปกินข้าว และพยายามเลี้ยงดูโดยการช่วยจ่ายค่าห้องเดือนละ 2-3 พันบาท และเชื่อว่าต้องส่งคนมาเฝ้าเพราะรู้ความเคลื่อนไหวของตนตลอด ต่อมานายตำรวจคนนี้ย้ายไปประจำที่ป้อมหนองไผ่แก้ว แต่จะโทร.มาทุกครั้งที่เข้าเวรดึก ก่อนมารับพาไปที่ป้อมตำรวจที่เดิม ตนรู้ว่าไปแล้วจะโดนอะไร แต่ไม่กล้าขัดเพราะกลัว ทุกครั้งจะก่อเหตุเฉพาะช่วงเข้าเวรดึก เข้าไปในป้อมตั้งแต่เที่ยงคืนกลับออกมาอีกทีตอนตี 4 เชื่อว่าเพราะกลัวคนเห็น ที่ผ่านมาเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันมีคนถามว่า ตนเป็นใคร เขาจะบอกว่าเป็นหลาน

“หนูทนพฤติกรรมแบบนี้ไม่ไหว จึงแอบไปรับพ่อกลับมาอยู่ด้วย เขายังกล้ามาพูดกับพ่อว่า จะรับดูแล แต่พ่อปฏิเสธ หนูไม่อยากให้มาดูแล หนูไม่ได้ชอบผู้ชาย จากนั้นเขาเริ่มห่างไป ต่อมาไม่นานลูกชายเขาพยายามทักมาขู่ให้เลิกยุ่งกับพ่อ หนูก็ไม่อยากยุ่งอยู่แล้ว ที่ออกมาวันนี้เพราะทนไม่ไหว ไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้ หากไปแจ้งความกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเขาเป็นตำรวจ ลูกชายเขาก็มีพรรคพวกเยอะ” น.ส.พลอยกล่าว

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ให้ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความรวมถึงตรวจหาหลักฐานทั้งหมด เชื่อว่าสิ่งที่น้องพูดทั้งหมดน่าจะเป็นความจริงเพราะมีไทม์ไลน์ชัดเจน รวมถึงพาน้องไปตรวจร่างกายตามกระบวนการ เรื่องนี้หากผิดก็ว่าไปตามผิด เพราะน้องอายุเพียง 17 ปี ใช้รถตำรวจมารับพาไปละเมิดในป้อมตำรวจ ฝากท่านผู้การ ผู้กำกับ ลงมาตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องที่บอกว่าเคยก่อเหตุพาผู้ต้องหาคดียาเสพติดไปเผานั่งยาง เรื่องนี้ก็ต้องสอบสวนย้อนหลังด้วย หากเป็นจริงต้องดำเนินการในเรื่องนี้เช่นกัน