รมว.ทส. สั่งการกรมป่าไม้เร่งประสานตำรวจ ตามล่าไอ้โม่งปล้นไม้พะยูง-ปืนที่สกลนคร พร้อมกำชับทั่วประเทศ เก็บไม้ของกลางมีค่าไว้ในที่มิดชิด เฝ้า 24 ชม. หากหายผู้เฝ้าเวรยามต้องรับผิดชอบด้วย
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มี 5 คนร้ายกระทำการอุกอาจบุกเข้าไปในหน่วยป้องกันรักษาป่าที่สน 2 (วาริช-พรรณนา) ต.กุดตะกาบ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา โดยได้พกอาวุธปืนและมีดเข้าทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย มัดมือและเท้าเจ้าหน้าที่ 3 คน ยึดโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง รวมถึงขโมยปืนลูกซองของทางราชการ จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และขโมยไม้พะยูงของกลางในคดี ขนขึ้นรถกระบะไปจำนวนหนึ่ง (ประมาณไม่ต่ำกว่า 20 ท่อน) ปริมาตรประมาณ 1.5 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าความเสียหายของประมาณ 375,000 บาท และยังได้ถอดสายกล้องวงจรปิดภายในหน่วยทั้งหมดไปนั้น
ทั้งนี้ ภายหลัง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทราบสถานการณ์ ได้สั่งการให้ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เร่งดำเนินการ พร้อมประสานกับตำรวจในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยด่วน
นายเฉลิมชัย ระบุว่า ตนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก หากไม่มีความคืบหน้าหรือการติดตามมีความล่าช้า ก็จะลงพื้นที่ติดตามด้วยตัวเองต่อไป พร้อมกับกำชับว่าต่อไปนี้การเก็บไม้ของกลาง โดยเฉพาะไม้มีค่า ต้องเก็บไว้ในอาคารอย่างมิดชิด ถึงแม้ภายในสำนักงานของกรมป่าไม้ทั่วประเทศจะมีที่เก็บไม้อยู่แล้ว แต่ต้องทำเป็นห้องเพื่อปิดล็อกให้มิดชิด จัดเวรยามเฝ้า 24 ชั่วโมง และมีกล้องวงจรปิด หากเกิดกรณีไม้หายผู้รับผิดชอบเฝ้าเวรยามต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
ทางด้าน อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวเสริมว่า พื้นที่นี้ถูกขโมยไม้พะยูงมาแล้ว ครั้งนี้เป็นรอบที่ 2 มีการเอาปืนไปด้วย 2 กระบอก และทำร้ายเจ้าหน้าที่ให้ได้รับบาดเจ็บ โดยไม้ที่ถูกปล้นไปนั้นหากขายในตลาดมืดจะได้ราคาเกือบล้านบาท ตนจึงได้มอบหมายให้นายนิกร ศิรโรจนานนท์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ ติดตามความคืบหน้า และเกาะติดประเด็นเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับอย่าทิ้งประเด็นคนใน รวมไปถึงประเด็นอื่นๆ ที่ชวนให้สงสัยเรื่องไม้หายด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ก็น่าจะมีข้อมูลอยู่แล้ว.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ