“รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ” ออกแถลงการณ์ เผยอาการบาดเจ็บของเด็กนักเรียนที่ส่งตัวมารักษาต่อ จำนวน 2 ราย หลังประสบอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ตุลาคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล ชั้น 7 อาคารกิตติวัฒนา โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ พร้อมทีมคณะแพทย์ได้มีการแถลงอาการบาดเจ็บของเด็กนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ กรณีส่งตัวมารักษาต่อ จำนวน 2 ราย

โดย รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า จากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 12.30 น. ตามที่เป็นข่าวนั้น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้รับการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแพทย์รังสิต จ.ปทุมธานี จำนวน 2 ราย โดยรายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี และ รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี ทั้งนี้ทีมแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย ศัลยแพทย์ จักษุแพทย์ กุมารแพทย์ ได้ประเมินอาการและให้การรักษาดังนี้

รายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่าสัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า มือ และแขนทั้งสองข้าง ทั้งหมดประมาณ 20% จากการส่องกล้องทางเดินหายใจ พบว่า ทางเดินหายใจบวมแดง มีเสมหะปนเขม่า เบื้องต้นได้รับยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด และเกลือแร่ทดแทน เนื่องจาก Magnesium ในเลือดต่ำ ผู้ป่วยรายนี้มีเปลือกตา ผิวเยื่อตาและกระจกตาขุ่นถลอกทั้งหมด แผนการรักษาในขณะนี้ประกอบด้วยการล้างตาปริมาณมาก ทำหัตถการวางเยื่อหุ้มรก เพื่อครอบคลุมผิวเยื่อตาทั้งหมด

นอกจากนี้ยังได้ใช้ยาน้ำตาเกล็ดเลือด ซึ่งได้จากการเจาะเลือดของผู้ป่วยเองนำมาผ่านกระบวนการ และใช้หยอดตาทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ในการช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและใส่ Eye Corneal Shield เพื่อครอบและปกป้องผิวเยื่อตา ช่วยป้องกันไม่ให้เยื่อบุตาติดกับกระจกตา และคงความชุ่มชื้น และให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และลดการอักเสบ

ส่วนรายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่าสัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า แขน ในระดับความรุนแรงที่ 2 และ 3 ทั้งหมดประมาณ 30% เบื้องต้นได้รับยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดและเกลือแร่ทดแทน เนื่องจาก Magnesium ในเลือดต่ำ ผู้ป่วยรายนี้มีเปลือกตา ผิวเยื่อตา และกระจกตาขุ่นถลอกทั้งหมด แผนการรักษาผู้ป่วยในขณะนี้ประกอบด้วยการทำหัตถการวางเยื่อหุ้มรก เพื่อครอบคลุมผิวเยื่อตาทั้งหมด ช่วยปกป้องและฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวเยื่อตา กระจกตาที่เสียหาย 

นอกจากนี้ยังได้ใช้ยาน้ำตาเกล็ดเลือด ซึ่งได้จากการเจาะเลือดของผู้ป่วยเอง นำมาผ่านกระบวนการ และใช้หยอดตาทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ในการช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และให้ความชุ่มชื้นกับกระจกตา โดยทีมแพทย์ได้ใส่ Eye Corneal Shield เพื่อครอบและปกป้องผิวเยื่อตา ช่วยป้องกันไม่ให้เยื่อบุตาติดกับกระจกตาและคงความชุ่มชื้น นอกจากนี้ผู้ป่วยยังได้รับยาหยอดตาลดการอักเสบ และยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการอักเสบ ทีมแพทย์จะเฝ้าระวังและดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด

ผู้บริหาร แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก.