ขบวนรถไฟด่วนพิเศษ (สปรินเตอร์) ขบวนที่ 44 สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพอภิวัฒน์ ชนกับรถเก๋งบริเวณจุดตัดทางรถไฟ บ้านบางแหลม อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ดับ 2 ศพ สาหัส 2 ราย ที่เกิดเหตุเป็นเนินจุดตัดทางรถไฟ ไม่มีเครื่องกั้น มีเพียงแค่สัญญาณไฟ
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 29 กันยายน 2567 ร.ต.อ.ธรรมประสิทธิ์ ยงยศยิ่ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าฉาง รับแจ้งเกิดเหตุรถไฟชนกับรถเก๋งมีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ที่บริเวณจุดตัดทางรถไฟ บ้านบางแหลม หมู่ที่ 1 ต.ท่าฉาง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้รับทราบ พร้อมกับประสานกู้ภัยอำเภอท่าฉางและกู้ภัยอำเภอไชยา รุดตรวจสอบช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุเป็นจุดตัดทางรถไฟ บางแหลมทางเข้าบางปอ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าฉาง อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน กร 2517 สุราษฎร์ธานี สภาพพังยับเยิน พบผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมา น.ส.สุชาวดี วิเศษแก้ว อายุ 34 ปี และผู้ชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายวิทยา ปะนะสี อายุ 34 ปี ที่ติดภายในรถ อาการสาหัส จึงรีบเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลท่าฉาง ห่างไปประมาณ 1 เมตร พบผู้เสียชีวิต 2 รายเป็นผู้หญิง ทราบชื่อ น.ส.อรัญญา พาหะมาก อายุ 52 ปี และใกล้กัน ทราบชื่อ ด.ญ.สุภัทธิดา ปะนะสี อายุ 9 ปี ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 6 ต.เขาถ่าน อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี
เบื้องต้นเป็นขบวนรถไฟด่วนพิเศษ (สปรินเตอร์) ขบวนที่ 44 จากสุราษฎร์ธานี ปลายทาง กรุงเทพอภิวัฒน์ (สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพอภิวัฒน์) ซึ่งรถไฟสามารถเดินขบวนต่อได้
จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจากบ้านแม่ ซึ่งคาดว่านายวิทยาเป็นคนขับ นางสาวสุชาวดีนั่งเบาะข้าง เป็นสามีภรรยากัน ส่วนเบาะด้านหลังมี น.ส.อรัญญา ซึ่งเป็นแม่ของนางสาวสุชาวดี และมี ด.ญ.สุภัทธิดา เป็นลูกสาวของนางสาวสุชาวดี เพื่อที่จะกลับบ้านพักที่บ้านไสใหญ่ (เป็นชื่อหมู่บ้าน) พอมาถึงจุดทางตัดรถไฟที่เกิดเหตุ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฝนตกหนัก อาจจะมองไม่เห็นตอนที่รถไฟขบวนดังกล่าวมา จึงเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น
จากการตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุเป็นทางเนินจุดตัดข้ามรางรถไฟ ไม่มีเครื่องกั้น มีเพียงแค่สัญญาณไฟกะพริบ
พี่นุช ซึ่งบ้านอยู่ตรงข้ามคนละฝั่งถนนที่เกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดมีฝนตกหนัก และได้ยินเสียงดังเหมือนฟ้าผ่า ซึ่งดังมาก และเห็นรถไฟชนกับรถ แต่ไม่รู้ว่าเป็นรถอะไรและเป็นใคร จึงได้ให้ลูกชายเข้าไปดู พบว่าเป็นคนรู้จักจึงตกใจ พร้อมกับบอกลูกชายให้เข้าไปช่วยเหลือ ตอนนั้นผู้บาดเจ็บยังรู้สึกตัว แต่เลือดออกเต็มตัว ส่วนตนเองได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่
พี่นุชยังบอกอีกว่า ผู้บาดเจ็บเป็นสามีภรรยากัน ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นแม่และลูกสาว เบื้องต้นอาการของผู้บาดเจ็บสาหัสต้องส่งต่อโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยอำเภอท่าฉางนำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลท่าฉาง และได้มอบให้ญาติไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ