ตำรวจอัปเดตยอดผู้เสียหายคดี “ดิไอคอน” พุ่งต่อเนื่อง ทั่วประเทศกว่า 9 พันราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 3 พันล้าน
วันที่ 26 ตุลาคม 2567 มีรายงานว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการคดี The Icon Group ยอดผู้เสียหายหลอกลวงลงทุนของบริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม วันที่ 25 ตุลาคม 2567 มีผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 60 ราย มูลค่าความเสียหาย 23 ล้านบาทเศษ
ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 10-26 ตุลาคม 2567 สรุปยอด ณ เวลา 15.00 น. มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 3,324 ราย มูลค่าความเสียหายเฉพาะที่สอบปากคำแล้วรวม 1,131 ล้านบาทเศษ
ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) สรุปข้อมูลการรับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิไอคอนกรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจภูธรจังหวัดและกองบังคับการตำรวจนครบาล ประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2567 รวมผู้เสียหาย 339 ราย มูลค่าความเสียหาย 92 ล้านบาทเศษ
ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 18-25 ตุลาคม 2567 มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 5,788 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,671 ล้านบาทเศษ
ปัจจุบัน ยอดรวมผู้เสียหายที่เข้าให้ปากคำกับศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิไอคอนกรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 9,212 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,839 ล้านบาทเศษ
ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ทุกกองบัญชาการเปิดศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์คดีดิไอคอนกรุ๊ป ทั่วประเทศ ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 โดยมีศูนย์รับแจ้งเหตุของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นโมเดลต้นแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้เสียหาย ลดความยุ่งยากในการแจ้งความ ทั้งยังกำชับให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบดูแลการรับแจ้งความอย่างใกล้ชิด มิให้มีการปฏิเสธการรับแจ้งความโดยเด็ดขาด
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอแจ้งเตือนว่าทรัพย์สินอื่นของผู้ต้องหา ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นั้น หากผู้ใดโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะหรือหลังกระทำความผิด มิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาแหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือมีการได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ย่อมมีความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทุกนาย อยู่ระหว่างเร่งรัดสรุปข้อมูลทั้งจากการสอบปากคำผู้เสียหาย ข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน และข้อมูลจากวัตถุพยานต่างๆ ตลอดจนรับข้อมูลการสอบปากคำผู้เสียหายจากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ทั่วประเทศ หากมีความคืบหน้าสำคัญเพิ่มเติมจะแถลงให้สื่อมวลชนทราบในครั้งต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอแจ้งประชาสัมพันธ์กรณีมีข้อสงสัย ต้องการแจ้งเบาะแส ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับกรณีหลอกลวงขายทองรูปพรรณ ของ น.ส.กรกนก-นายกานต์พล และกรณีการขายตรงของบริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” สามารถโทรสอบถามได้ที่ สายด่วน 1599.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ