ในตอนท้ายหมายเหตุเฟซบุ๊ก กุสุมา 80 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ กุสุมา รักษมณี เขียนไว้เมื่อ 15 เมษายน 2558 ดูตามวันเวลาที่เขียน อาจารย์ตั้งใจจะเขียนถึงใคร สักคน…ตอนนั้น
แต่คงไม่ใช่ใคร สักคนคนนี้
ที่หน้าบ้านมีมะละกอต้นหนึ่ง ขึ้นแทรกอยู่ในหมู่ไม้หอม อย่างชมนาด แก้ว พุด แรกๆก็รู้สึกว่ามันขึ้นผิดที่ ไม่ไปอยู่กับหมู่มะละกอหลังบ้านที่เราปลูกเอาไว้กินผล เกือบจะถอนทิ้งหรือย้ายที่เสียตั้งแต่ยังเป็นต้นอ่อนแล้ว
แต่นึกอีกที อยากเปลี่ยนที่ของมะละกอมาอยู่หน้าบ้านบ้าง ก็เอาเถิด ที่สำคัญมะละกอเป็นต้นไม้มีประโยชน์
ผลดิบใช้ทำส้มตำ ผลสุกเป็นผลไม้บำรุงสุขภาพ ใบก็สวยดี เลยปล่อยให้ขึ้นแข่งกับชมนาดหน้าบ้าน
และจะเรียกว่า มะละกอฉือไหล
ประโยคท้าย มะละกอฉือไหล…รู้กันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา ด้านวรรณกรรม ฉุดให้ผู้ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอย่างผม…ต้องย้อนไปอ่านตอนต้นของบันทึกเรื่องชื่อ
ในตะกร้าแดงมีน้ำเต้าอยู่ลูกหนึ่ง
ในวรรณกรรมจีนเรื่อง หมู่บ้านเล็กตระกูลเป้า ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระราชนิพนธ์แปล กล่าวถึงหนุ่มพเนจรชื่อ ฉือไหล เรื่องเริ่มต้นว่า หนุ่มฉือไหลเข้าไปเป็นเขยอยู่ในหมู่บ้าน เขารู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย
ภูมิหลังเขาไม่ชัดเจน ผู้คนในหมู่บ้านรับไม่ได้
สถานการณ์ของฉือไหล สำนวนชาวจีนเปรียบเปรยว่า “เหมือนกับในตะกร้าแดง มีน้ำเต้าอยู่ลูกหนึ่ง”
แล้วจะไม่ให้คนในหมู่บ้าน ขัดหูขัดตาได้อย่างไร
แต่เพราะความเป็นคนดีของ “ฉือไหล” หนักเอาเบาสู้ เอื้ออารี มีน้ำใจกับทุกคน ขยันหมั่นเพียร (ฯลฯ)
ทั้งยังได้ฝ่าอันตรายไปช่วยชีวิตคนเมื่อคราวน้ำท่วม เป็นวีรกรรมที่เป็นหน้าเป็นตาของหมู่บ้าน
จนเป็นที่เลื่องลือในหมู่สาธารณชน
ในที่สุด “น้ำเต้า” ลูกนี้ในตะกร้าก็เป็นที่ยอมรับ ชื่อของ “ฉือไหล” จึงถูกคนอ่านที่ซาบซึ้งวรรณกรรมเรื่องนี้ อย่างอาจารย์กุสุมา เอามาเรียกชื่อมะละกอหน้าบ้าน
ข้อคิดที่ได้จากพระราชนิพนธ์แปล เรื่อง หมู่บ้านเล็กในตระกูลเป้า…งดงามลึกซึ้ง แยบคาย ชวนให้ผู้คนที่เคยคิดเคยทำอะไรตามๆกัน ได้สะดุดหยุดคิดทบทวน
คนอย่างอาจารย์กุสุมา ก็เคยคิดตามๆคนโบราณ ต้นไม้หอม อย่างชมนาด แก้ว พุด ต้องปลูกไว้หน้าบ้าน ต้นมะละกอ ให้ผลกินได้ ต้องปลูกไว้หลังบ้าน
แต่เมื่อมีเหตุ ให้ต้นอ่อนมะละกอกำลังเติบโตหน้าบ้าน การฉุดทึ้งถอนทิ้ง เป็นเรื่องง่าย…แต่การหยุดคิดอย่างมีเหตุผล มะละกอ ก็เป็นต้นไม้กินได้ทั้งดิบทั้งสุก เป็นต้นไม้ให้คุณ
เหตุผลที่จะถอนต้นอ่อนมะละกอก็เปลี่ยนไป
อ่านเรื่องมะละกอฉือไหลแล้ว ผมคิดถึงใครอีกคน
ใครคนนี้ กำลังเริ่มทำงานใหญ่ ท่ามกลางข้อกังขาสารพัน ทั้งวัย ทั้งวุฒิ ความสามารถ วันเวลาผ่านมาแล้วราวหกเดือนก็ยังไม่ชี้ว่า ตอนดิบทำส้มตำอร่อย ตอนสุกก็ให้รสหวาน หรือ ปลูกไว้ดูเล่นหน้าบ้านก็ยังสวย
แต่ไม่ว่า เราจะดูต้นมะละกอ ใช้แบบไหน…ก็ต้องไม่ลืม…นี่่เป็นต้นมะละกอบ้านเรา
ไม่ว่าเราจะเอามาทำส้มตำ หรือเอามากินหลังมื้อข้าว หรือปล่อยไว้ดูเล่น…หามุมงามๆมองก้านมะละกอ ไหวตามแรงลม ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็ต้องอยู่กับมะละกอต่อไปอีกหลายปี
โดยมีความหวังว่า มะละกอต้นนี้ก็จะเป็นเช่นน้ำเต้าในตระกร้าแดง.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ