นครพนม พ่อมือปืนอาก้า ที่ถูกวิสามัญ ทำใจได้ยอมรับการตัดสินใจตำรวจ รอรับศพบำเพ็ญกุศลตามประเพณี หากเมตตาช่วยค่าทำศพยิ่งดี ด้าน ประธานสภา อบต.คนเจ็บ อาการดีขึ้น ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ผู้ใหญ่บ้านยอมรับ ยังตกใจไม่เคยรู้มาก่อน “ไอ้ยุทธ” มีปืนอาก้า เผยเป็นพื้นที่สีแดง มีปัญหาผู้ป่วยติดยาเสพติดเยอะ มานานหลายปี ประสานตำรวจ ฝ่ายปกครองวางมาตรการดูแล ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพักของผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจวิสามัญ ณ บ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ได้มี นายท่อน หมอกต้ายซ้าย อายุ 85 ปี พร้อมภรรยา คือ นางแจ่ม อายุ 79 ปี พ่อแม่ นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้ายิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่ง ประธานสภา อบต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าชายโครงขวา จำนวน 1 นัด กระสุนทะลุ ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพนม ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

โดยเมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจพื้นที่ สภ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ได้ปิดล้อมจับกุม ไอ้ยุทธ หลังหลบหนีไปจากพื้นที่ จ.นครพนม และถูกวิสามัญเสียชีวิต เนื่องจากขัดขืนพยายามต่อสู้ตำรวจระหว่างการจับกุม ทั้งนี้ยังรอขั้นตอนการชันสูตรศพ และเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดีก่อนส่งศพให้ญาตินำมาบำเพ็ญกุศล ส่วนครอบครัวและญาติพี่น้องต่างมารวมตัวกันเพื่อเตรียมหาอาหารข้าวปลากินกันตามประสาชาวบ้าน เป็นกำลังใจที่ดีต่อกัน เตรียมจัดงานศพตามประเพณี และมีญาติ รวมถึงลูกสาวคนตาย เดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น เชื่อว่าจะเดินทางกลับมาถึงในวันพรุ่งนี้ พร้อมประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณี โดยทุกคนยอมรับในการตัดสินใจของตำรวจ

สอบถาม นายท่อน หมอกต้ายซ้าย อายุ 85 ปี พ่อผู้ต้องหาที่ถูกวิสามัญ เปิดเผยว่า ไม่ได้ติดใจยอมรับในการตัดสินใจ เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่เคยคาดคิดว่าลูกชายจะมีอาวุธปืนสงคราม และไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะก่อเหตุลักษณะนี้ เนื่องจากคนถูกยิง คือ ประธานวินัย มีความผูกพันรักใคร่กับครอบครัว เหมือนญาติพี่น้องบ้านใกล้กัน และลูกชายที่ตาย ยังรู้จักมักคุ้นสนิทสนมกับคนเจ็บ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน เชื่อว่าสาเหตุสำคัญ คือเสพยาบ้าจนหลอน เพราะรู้มาตลอดว่าลูกชายเสพยาบ้า พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด เคยมีครอบครัวฝั่งไทย มีลูกสาว 1 คน อายุ 20 ปี มีครอบครัวแล้ว หลังหย่าร้างไปมีภรรยาชาวลาว และมีลูกสาวอีก 1 คน ประมาณ 3 – 4 ขวบ แต่ไม่เคยพามาหาพ่อกับแม่ รู้ว่าลูกชายมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องยาเสพติด แต่ที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายใคร ยังสงสัยว่าทำไมต้องก่อเหตุ สาเหตุอื่นไม่มีเลย นอกจากเสพยาบ้าหลอนเท่านั้น ทำใจใครก่อกรรมอะไรไว้ต้องรับเอา หากเจ้าหน้าที่เมตตาไม่เรียกร้องอะไร นอกจากช่วยค่าทำศพ

ด้าน นางดา ปูนจังตัง อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยว่า ในส่วนของชาวบ้านยอมรับในการตัดสินใจของตำรวจ เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับคนอื่น ยังตกใจเมื่อรู้ว่าลูกบ้านมีปืนอาก้าใช้ก่อเหตุ ยอมรับรู้ว่าไอ้ยุทธ มีพฤติกรรมพัวพันยาเสพติด แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด สำหรับพื้นที่ บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ ยอมรับมีปัญหายาเสพติดระบาด มีกลุ่มเสี่ยงหลายรายที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากพื้นที่เชื่อมกับชายแดน ทำให้มีการแพร่ระบาด โดยจะได้ช่วยกันสอดส่องดูแล ประสานฝ่ายปกครอง ตำรวจเข้มงวดดูแลปราบปรามป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในส่วนอาการของคนเจ็บ คือ นายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ประธานสภา อบต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม สอบถาม นางใส มณีรัตน์ อายุ 60 ปี ภรรยา ระบุว่า อาการของประธานวินัย ดีขึ้นตามลำดับ แต่วันนี้แพทย์ส่งเข้าผ่าตัดทำการรักษาอีกรอบ เชื่อว่าปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ใกล้ชิด ห่วงปัญหาแผลติดเชื้อจากถูกกระสุนยิงทะลุชายโครงขวา โดยขออโหสิกรรมให้กับคนก่อเหตุที่เสียชีวิต เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่สูญเสีย และไม่ได้เรียกร้องอะไร เพราะเป็นเสมือนญาติพี่น้องกันดูแลกันมาตลอด เชื่อว่าทุกคนยอมรับในการตัดสินใจของตำรวจ