พ่อชายดับคา รพ. จุดธูปบอกลูก ใกล้ได้รับความเป็นธรรมแล้ว หลังเห็นคลิปจากวงจรปิดถูกเจ้าหน้าที่รุมทำร้าย ด้าน ตร. เร่งเรียกสอบผู้เกี่ยวข้อง หาคนผิดมาดำเนินคดี

จากกรณีที่ ครอบครัวเกิดความเคลือบแคลงใจ ปมการเสียชีวิตของ นายสะอาด บุญลา อายุ 31 ปี หลังส่งไปรักษาอาการช็อกที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จึงส่งร่างตรวจชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยผลชันสูตรสาเหตุของการตาย สันนิษฐานว่า สมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกของแข็ง ทำให้ทางครอบครัวมั่นใจว่า ผู้ตายถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (พ่อคาใจ ลูกชายวัย 31 ปี ดับปริศนา หลังถูกส่งรักษาอาการช็อกขาดเหล้า)

ต่อมา เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับนางสาวนาตยา บุญลา อายุ 23 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายสะอาดผู้เสียชีวิต เล่าว่าสาเหตุที่พี่ชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะมีอาการแฮงค์เหล้าช็อกชักเกร็งตัวสั่น ในวันที่ 4 เวลา 22.00 น. พ่อก็ได้พาไปโรงพยาบาลกันทรลักษ์ ตอนที่ขึ้นรถไป นายสะอาดก็เดินขึ้นรถเองได้ปกติ หมอได้ตรวจเอกซเรย์เจาะเลือด ทุกอย่างปกติ หมอให้นอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ

หลังจากนั้นวันที่ 7 ธ.ค. เวลา 3:00 น. หมอให้ย้ายตึกมาที่ตึกสงฆ์ อ้างว่านายสะอาดไม่นอนและเล่นโทรศัพท์ทั้งคืน พอมาถึงตึกสงฆ์เจ้าหน้าที่ให้พ่อออกจากห้อง เจ้าหน้าที่ล็อกห้องไว้ หลังจากนั้นพ่อได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ทุบตีลูก พ่อจึงกลับไปดูลูกอีกที และถามเจ้าหน้าที่ว่าทำแรงไปไหม เจ้าหน้าที่จึงบอกกับพ่อว่าจะให้รักษาไหม จากนั้นพ่อก็ออกมารอนอกห้อง พอเวลา 06.00 น. พ่อจึงได้เข้าไปดูและป้อนน้ำกับนมนายสะอาด พ่อถึงเห็นว่าลูกถูกมัดแขนขา ตามตัวนายสะอาดผู้ตายมีรอยบาดแผลฟกช้ำ มีเลือดออกเต็มตัว แต่พ่อก็ไม่กล้าถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก ตนได้เข้าไปเยี่ยมพี่ชายเมื่อช่วง 18:00 น. ตอนนั้นนายสะอาดถูกมัดมือมัดขาไว้กับเตียง มีรอยบาดแผลที่ตาและแขน ตามตัวมีรอยเขียวช้ำ แต่ยังสามารถที่จะพูดคุยได้รู้เรื่อง

นายสะอาดได้บอกกับตนว่าอยากกลับบ้าน อยู่ที่โรงพยาบาลยังไงก็ตาย เพราะเอามาทุบตีเอามาฆ่าให้ตาย หลังจากนั้นพยาบาลก็ให้ตนออกจากห้องเพราะหมดเวลาเยี่ยมแล้ว ตนกลับมาบ้าน และไม่มีใครเฝ้านายสะอาด เพราะทางโรงพยาบาลไม่ให้ญาติเฝ้าไข้ พอมาถึงบ้าน เวลา 2 ทุ่มกว่า เจ้าหน้าที่ได้โทรกลับมาแจ้งญาติว่านายสะอาดได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้เดินทางไปดูศพ

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 ธ.ค. 67 นายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่บ้านของผู้ตาย ติดตามสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งทางแม่และญาติถึงกับเข่าอ่อนหลังเห็นภาพวงจรปิดที่ออกมาทางสื่อ รับไม่ได้กับการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่กระทำกับผู้ตาย โดยระหว่างพูดคุยกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ แม่และญาติแต่ร่ำไห้สงสารผู้ตายที่ถูกกระทำแบบนี้

นายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ  เปิดเผยว่า อันดับแรกตนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากคลิปเหตุการณ์ที่สื่อมีการนำเสนอนั้น ก็ต้องมองว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งจริงๆแล้ว การกระทำในเรื่องนี้ บางครั้งก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่หน่วยงานเองก็ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ และอาจจะเป็นเรื่องของการขาดทักษะของเจ้าหน้าที่ในการดูแลพยาบาลผู้ป่วย ซึ่งตอนนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน ที่ปรากฏในสื่อแล้ว และจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ต่อไป

โรงพยาบาลกันทรลักษ์ตอนนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ซึ่งยังไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ และในส่วนของการชี้แจงนั้น ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันทรลักษ์ จะได้ทำการชี้แจงในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตนได้บอกกับทางญาติว่าในเรื่องนี้จะให้ความเป็นธรรม เราไม่ได้เข้าข้างใคร ผิดก็ต้องว่าไปตามผิดในเรื่องนี้ อีกทั้งเรื่องของการเยียวยาตามมาตรา 41 ของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่มีอยู่ตามสิทธิ ก็จะดำเนินการให้ และส่วนที่เหลือก็จะพูดคุยกับญาติของนายสะอาด ว่าจะให้ดำเนินการต่อไปอย่างไรบ้างในเรื่องนี้

ขณะที่ นายมีผล บุญลา อายุ 70 ปี ชาวบ้านที่ได้ดูเห็นคลิปการกระทำของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ เปิดเผยว่า สิ่งที่เห็นตนถึงกับรับไม่ได้ เพราะตามที่เห็นคือหลานของตนไม่ได้ต่อสู้ หรือโวยวายอะไรเลย ทำแบบนี้ได้อย่างไรกับพี่น้องของตนได้อย่างไร และตนไม่ให้อภัยกับสิ่งที่กระทำอย่างแน่นอน ถ้ากระทำผิดจริง ทำไมไม่มายอมรับแต่แรก ถ้ายอมรับแต่แรกยังพออภัยได้ และทำไมหน่วยงานต้องปกปิดข้อเท็จจริงที่มันเกิดขึ้น หรือแม้กระทั่งการไปแจ้งความก็ยังไม่สามารถทำได้ ซึ่งถ้าเป็นญาติพวกท่าน บุตรของพวกท่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกทำร้ายขนาดนี้ จะทำอย่างไร

ต่อมา พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ลงที่เยี่ยมและทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิต และเปิดเผยว่า เบื้องต้นทางผู้บังคับบัญชาทุกระดับได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้จึงสั่งการให้รองผู้บังคับการ ผู้กำกับสอบสวน ผู้กำกับสืบสวนภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับผู้กำกับอำเภอกันทรลักษ์ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานในพื้นที่ ดำเนินการนำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ และสอบปากคำไปแล้ว 5-6 ปาก พยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปของคดี

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อจะมาให้กำลังใจทางญาติผู้เสียชีวิต และมาสร้างความเชื่อมั่นว่าทางตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ว่าทางตำรวจมาสร้างความเชื่อมั่นมาให้ความเป็นธรรม และหาความจริงให้กับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต และจะนำตัวผู้ที่กระทำความผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

ล่าสุด นายทองสุข แก้วรักษา พ่อของผู้ตาย หลังจากที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ได้ลงจากรถยนต์และมุ่งตรงมาหน้าโลงศพเพื่อจุดธูปบอกกล่าวให้ลูกชายได้รับรู้ โดยมีใจความว่า พ่อกำลังหาความยุติธรรมให้ลูกได้รับความยุติธรรม พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้เห็นคลิป ตนเชื่อว่าอีกไม่นานความเป็นธรรมจะเกิดขึ้นกับลูกชายของตน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีหลายคนไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ตนบอกว่า ลูกชายของตนถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งพอมีคลิปจากกล้องวงจรปิด ก็ทำให้ความจริงมันเริ่มเด่นชัด

หากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นผู้กระทำกับลูกชายตน จะมาขอขมา ตนนั้นคงไม่สามารถให้อภัยกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่กระทำไปได้ และอย่ามาให้เห็นจะดีกว่า เพราะอาจทำให้ตนอดใจไม่ไหว แต่อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้เด็ดขาดกับผู้กระทำผิด ส่วนในเรื่องของการเผาศพนั้น ตนตั้งใจว่า จะเผางานฌาปนกิจศพ ในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ หลายคืนที่ผ่านมาตนนอนไม่หลับมาตลอด หลังจากคืนนี้ไปตนจะเริ่มนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ หลังจากที่อดนอนมาหลายคืน.