“พระลิน สุจิตโต” ชี้แจงดราม่าสั่งทุบ “ถ้ำน้ำตกพญานาค” ยืนยันไม่ใช่คอนเทนต์ เป็นเรื่องจริงทั้งหมด พร้อมเผยคงไม่มีใครจะมากราบไหว้ของต่ำ-ของไม่เป็นมงคล
จากกรณีแฟนเพจ พระลิน สุจิตโต โพสต์คลิปวิดีโอระบุข้อความว่า “สร้างมาแทบตายสุดท้ายได้ทุบทิ้ง ขอแก้ไขไม่ขอแก้ตัว” พร้อมกับแสดงความเห็นว่า คนที่ทำแบบนี้เขาไม่มีความรู้เรื่องช่างเลย มีการเอาผ้าเก่า เช่น ผ้าโรงพยาบาล กางเกงชั้นใน ผ้าถุง ผ้าอนามัยเปื้อนเลือด มาหล่อขึ้นแบบสร้างถ้ำน้ำตกพญานาค ทางวัดจึงทุบทิ้งเพื่อให้ช่างรับเหมาคนใหม่สร้างขึ้นใหม่ หลังทางวัดหมดเงินก่อสร้างไปเกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งภายหลังจากเป็นข่าวออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก (พระสั่งทุบ “ถ้ำน้ำตกพญานาค” งบเกือบ 2 ล้าน อึ้งเจอชุดชั้นใน ผ้าเปื้อนเลือด)
ต่อมา เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2567 พระอาจารย์ลิน สุจิตโต ได้เดินทางกลับมาถึงวัดป่าดอนบ้านเทือน ม.9 บ.กลางใหญ่ ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี หลังจากเดินไปรับกิจนิมนต์ที่ กทม. และไปดูการก่อสร้างองค์พญานาคที่ จ.อยุธยา โดยมีญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธา ทั้งชาวไทยและชาว สปป.ลาว เดินทางมารอทำบุญและแก้บน บริเวณลานปฏิบัติธรรมหน้าองค์พญานาค ก่อนที่พระอาจารย์ลิน ให้ช่างใช้ค้อนทุบผนังถ้ำที่ข้างในมีสิ่งอัปมงคลอยู่แทบทุกจุด และยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ทางวัดไม่มีการทำขึ้นมา หรือสร้างคอนเทนต์แต่อย่างใด และขอจบประเด็นดราม่าที่ถูกกล่าวหาในโลกโซเชียลนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทางด้าน พระอาจารย์ลิน เผยว่า ในวันนี้จะมาชี้แจงประเด็นในข่าวในโซเชียล หลังมีคนบอกว่าพระอาจารย์สร้างคอนเทนต์ ขอยืนยันว่าไม่มีมันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด พระอาจารย์ไม่รู้ว่าที่นายช่างเขาทำแบบนั้น เขาทำไปเพื่ออะไร มีจุดประสงค์อะไร ที่ไปทุบแบบนั้น เพราะเราเป็นคนสร้าง และสร้างด้วยแรงศรัทธาของลูกศิษย์ญาติโยมทุกคน สร้างไว้เพื่อให้ทุกคนได้สวดมนต์และปฏิบัติธรรม มาเจอแบบนี้เราก็รับไม่ได้ คงไม่มีใครจะมากราบไหว้ของต่ำ ของไม่เป็นมงคลตามที่เห็นไปแล้วนั้น
ก่อนที่จะให้ทุบ พระอาจารย์มีอาการไม่สบายตัว มีอาการอาเจียน ไปหาหมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร พระอาจารย์เลยมานั่งใช้สมาธิภาวนา เลยมีนิมิตในความฝันว่าที่นี่ให้ทุกข์ เราไม่เชื่อสิ่งอื่น เราเชื่อในพระพุทธเจ้า ไม่มีอะไรทำหรอก ผลสุดท้ายพระอาจารย์ก็มีความเอะใจ เลยลองเชื่อเจ้าที่เจ้าทางที่มาเข้าฝัน และลองเชื่อความฝันดูบ้าง พอไปทุบก็เจอเศษผ้าถุง เจอกางเกง เจอทุกอย่างที่เป็นสิ่งอัปมงคล บางคนที่บอกว่าเป็นของที่เอามาใส่ใหม่ บางอย่างก็โดนปูน หรือไม่โดนปูน คาดว่าช่างเขาคงเอามาอุดรูตรงปูนเพื่อลดต้นทุนในการก่อสร้าง
ส่วนที่มีคนบอกว่าพระอาจารย์อวดอุตริ พระอาจารย์ขอชี้แจงว่า เราฝัน คนเรานอนแล้วต้องฝันใช่มั้ย ทุกคนนอนก็ฝัน พระอาจารย์ก็ฝัน ไม่ได้อวดอุตริ ถ้าใครจะรู้ให้เป็นปัจจัตตัง ก็ให้หัดนั่งสมาธิสวดมนต์เจริญภาวนา ไม่ใช่กินแต่เหล้าเมาแต่สุรา ผิดศีลผิดธรรมมันไม่ดี ลองทำดู จิตใจจะได้สงบ จะได้หมดหนี้หมดสิน ที่เขาบอกว่าสร้างจะเสร็จแล้วแต่ทุบเพื่อหาเงินบริจาคเพิ่ม เรื่องเงินมีหลายคนมาบริจาค แต่พระอาจารย์จะไม่รับ
อย่างที่เห็นในโซเชียล คนจนคนยากไร้ พระอาจารย์ไม่รับปัจจัย แล้วถามต่อว่าจะรับแต่เงินบริจาคคนรวยหรือ บางทีพระอาจารย์ก็ไม่รับ พระอาจารย์บอกลูกศิษย์ว่า ต้องตรวจสอบการเงินการงานเขามายังไง บางทีรับมาแล้วก็คืนกลับไปครึ่งหนึ่ง พระอาจารย์ก็มองว่าจะไปช่วยเหลือสังคมทำไม ถ้าคิดว่าพระอาจารย์อยากจะได้เงิน ที่ผ่านมาก็ไปช่วยเหลือมาแล้วหลายที่หลายแห่ง บางคนตั้งคำถามว่ามีคนทำคุณไสย เรื่องนี้จะใส่อะไรก็แล้วแต่ พระอาจารย์ไม่เคยกลัว เราเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้า เชื่อในความดีถึงจะมีจริง แต่เราก็ไม่กลัว มันเป็นเดรัจฉานวิชา มันไม่มีอะไรทำอะไรเราได้ ให้เชื่อมั่นในคำสอนพระพุทธเจ้า ถ้าเราเชื่อมั่นไม่มีใครทำอะไรเราได้
สำหรับเรื่องนายช่างที่ทำเรื่องนี้ ถ้าพระอาจารย์เอาเรื่องก็คงไม่ปล่อยให้มานานถึงขนาดนี้ ถ้าจะเอาเรื่องจะเอาตั้งแต่ทุบถ้ำเจอสิ่งไม่ดีแล้ว เชื่อว่านายช่างเขาคงไม่กล้ามาขอขมา เรื่องมันจบแล้วก็ขอให้มันจบไป พระอาจารย์ปล่อยวางและไม่ถือสา ตามที่เคยสั่งสอนลูกศิษย์เอาไว้ เรื่องแบบนี้ถ้าปล่อยวางไม่ได้จะไปสอนใครได้อย่างไร ลูกศิษย์หลายคนบอกให้ฟ้องร้องให้ติดคุกไปเลย พระอาจารย์ก็บอกไปว่า แค่นี้เขาก็ลำบากแล้ว เศรษฐกิจแย่อยู่แล้ว จะไปซ้ำเติมกันทำไม ปล่อยวางไปเถอะ มันไม่ดี เรื่องนี้ขอให้จบลงเพียงเท่านี้
ฝากถึงคนที่บอกว่าพระสร้างคอนเทนต์ ลูกศิษย์บอกว่าให้ไปอ่านดู แล้วจะให้ไปจัดการตามกระบวนการกฎหมายหรือไม่ พระอาจารย์ก็บอกให้ปล่อยวาง ไม่มีใครที่ไม่ถูกนินทา ดีก็ถูกนินทา ไม่ดีเขาก็นินทา ถามว่าจะสร้างอะไรเพิ่มหรือไม่ ตั้งใจว่าจะสร้างเป็นศูนย์นั่งสมาธิ จะหาคนที่มีประสบการณ์มีทีมงาน ให้ทางเทศบาลมาตรวจมาดูความเรียบร้อย เพราะที่ผ่านมาพระอาจารย์ไปเดินธุดงค์ ถ้ำน้ำตกก็ต้องทำต่อไป ทำให้ที่นี่นั่งสมาธิได้ ทำให้ได้มาตรฐาน ทำให้ทนทานแข็งแรงกว่าเดิม งบประมาณคร่าวๆ ประมาณ 3 ล้านบาท เป็นเงินจากสายบุญ เพราะพระอาจารย์จัดงานกฐินวันที่ 27 ต.ค.นี้
ส่วนที่หลายคนบอกว่า ทำไมไม่เอาเงินไปสร้างโรงพยาบาลหรือโรงเรียน พระอาจารย์มองว่าคนที่คิดแบบนั้นก็คิดได้แค่นั้น สมมุติว่าเขาเอาเงินมาให้หนึ่งแสน เอามาให้สร้างโรงพยาบาล มันจบมั้ย มันก็ได้แค่นั้น ได้แค่โรงพยาบาลแห่งเดียว ถ้าเราเอามาสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมให้มันเจริญรุ่งเรือง ให้มีคนมานั่งปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิสวดมนต์เจริญภาวนา ให้มาร่วมบุญร่วมกุศลแล้วเอาเงินนั้นไปทำต่อ มันก็จะได้หลายโรงพยาบาล หลายโรงเรียน ได้หลายจุดหลายแห่งทั่วถึงกัน
ขณะที่ น.ส.ปุญชรัสมิ์ แก้วมุลตรี อายุ 53 ปี ชาว จ.มหาสารคาม เผยว่า เมื่อรู้ข่าวก็รีบมาที่นี่ เพื่อมาให้กำลังใจพระอาจารย์ ตั้งใจมาทำบุญด้วย เพราะมาที่นี่ครั้งที่ 2 แล้ว สิ่งที่เห็นคิดว่ามันไม่ดี ความเชื่อทางพุทธศาสนาคิดว่าเป็นของต่ำ ไม่ควรเอามาไว้รวมกับของสูง รวมทั้งที่นี่เกิดจากแรงศรัทธาของพี่น้อง กว่าจะได้มาแต่ละจุดแต่ละองค์ ที่นี่เกิดจากแรงศรัทธาทั่วทุกมุมโลก ไม่ใช่แค่ที่อุดรธานีเท่านั้น ถ้าเขามาทำแบบนี้มันดูไม่ดี เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ ไม่รู้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ ที่แน่ๆ ต้องเป็นเจตนาที่ไม่ดีแน่นอน.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ