พศ จ.ขอนแก่น ยันพระสงฆ์ตามภาพ ในสื่อโซเชียลเป็น ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและบุคลากรวิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น รับกิจนิมนต์แสดงธรรมเทศนาไม่เกี่ยวแชร์ลูกโซ่ “บ้านแครอท” เหยื่อ แฉถูก “ดร.ภ.” หลอกร่วมเทรดหุ้นขายฝัน ลงทุนก๊อบปี้เทรดได้รับผลตอบแทนร้อยละ 10-30 ต่อเดือน ครบ 5 ปี ได้ผลตอบแทนถึง 100 ล้านบาท แจ้ง “ดีเอสไอ” พบข้อมูลมีผู้เสียหายในระบบ 2 พันราย มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท “บิ๊กทิน” ครวญตกเป็นเหยื่อเช่นกัน หลังถูกนำรูปคู่ไปแอบอ้างรู้จักสนิทสนม

กลายเป็นข่าวเขย่าแวดวงดงขมิ้น สั่นสะเทือนศรัทธาผ้าเหลือง กรณีเพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” โพสต์ภาพพระสงฆ์อ้างว่าถูกหลอกลงทุนเทรด เงินตราต่างประเทศ (Forex) พร้อมข้อความระบุว่า “บ้านแชร์น้องแครอท ล้มแล้ว แชร์ลูกโซ่ของสงฆ์อีสาน ผู้เสียหายส่วนใหญ่คือพระสงฆ์เกือบทั้งหมด หลังหลอกพระสงฆ์ที่อยู่ในภาคอีสานเข้าร่วมลงทุนเทรดกับบริษัทขายฝัน อ้างไม่เกิน 5 ปี ได้บ้านได้รถ ตอนนี้มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 1,000 ล้านบาท” ในภาพยังมีป้ายระบุสถานที่จัดโครงการปฏิบัติธรรม ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อมูลเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีพระเข้าร่วมวงแชร์แครอท เป็นผู้เสียหายจำนวนมาก ว่า พศ.ได้ส่งเรื่องไปยัง พศจ.ตรวจสอบแล้ว พระเข้าไปเล่นแชร์แบบนี้จะผิดพระวินัยหรือไม่ เป็นหน้าที่คณะสงฆ์ แต่ถ้าดูโดยใช้วิจารณญาณของคนทั่วไปพอจะวินิจฉัยได้ รอรายงานมาก่อนว่ามีที่ไหนบ้างอย่างไร เรื่องนี้สื่อและประชาชนให้ความสนใจ ต้องตรวจสอบเร่งด่วน

ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น (พศจ.) นางณัฏฐนันท์ เลี้ยวสกุลนำชัย รรท.ผอ.พศจ.ขอนแก่น ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์กรณีพระสงฆ์ใน จ.ขอนแก่น ถูกโยงว่าเกี่ยวข้องกับการเล่นแชร์บ้านน้องแครอท เนื่องจากทำเรื่องรายงานส่งไปถึง ผวจ.ขอนแก่น และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรียบร้อยแล้ว

รายงานส่วนหนึ่งระบุว่า พศจ.ขอนแก่น ประสาน คณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่น ตรวจสอบภาพพระ 3 รูป ตามป้ายโครงการปฏิบัติธรรม “เสริมบุญเพิ่มทุนชีวิต” วันที่ 4-6 ก.พ.65 ณ บ้านสวนชมดาวรีสอร์ต พบเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตขอนแก่น ภาพที่ 2 พระที่ยืนตรงกลาง คือพระมหาพิสิฐ วิสิฏฐปญโญ ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธาตุฯ จ.ขอนแก่น และภาพที่ 3 พระที่ยืนด้านขวา คือพระใบฎีกาธนกิจ นริสสโร บุคลากรวิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น พระทั้ง 3 รูป รับกิจนิมนต์ไปแสดงธรรมเทศนาในงานดังกล่าว ส่วนภาพอื่นที่ปรากฏในโซเชียลเป็นกิจกรรมในห้องเรียนของ นศ.มจร.วิทยาเขตขอนแก่น ไม่เกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่

นายศักธินันท์ ศรีหาบงค์ ผอ.สำนักงาน มจร. วิทยาเขตขอนแก่น กล่าวว่า กรณีระบุว่ามี ดร.ภ. เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการสอน การอบรมพระสงฆ์ของ มจร.ยืนยันไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก ดร.ภ. มาก่อน ส่วนจะสอดแทรกการอบรมในระหว่างที่พระสงฆ์เข้าร่วมโครงการต่างๆที่จัดขึ้น ตรงนี้ไม่อาจทราบได้ กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่การที่พระสงฆ์รับเงินจากประชาชนที่นำมาทำบุญแล้วไปเล่นแชร์ไปลงทุน ถ้าเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

นายสุพจน์ ดำรงเลิศตระกูล ตัวแทนผู้เสียหายจากแชร์แครอท เปิดเผยว่า ผู้เสียหายได้ส่งข้อมูลหลักฐานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตั้งแต่ปี 2565 เริ่มจากข้อมูลโครงสร้างบริษัท Worldclass Financial Intelligence (WCF) ที่เป็นโบรกเกอร์ลงทุนเทรด Forex มีชายอ้างเป็น ดร. อักษรย่อ ภ. เป็นประธานบริษัท มีสำนักงานหลายแห่งในภาคอีสาน ชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมฟังบรรยายการลงทุนเทรด Forex เช่น โครงการเกษียณทั้งทีต้องมีร้อยล้าน และโครงการดรุณเศรษฐี ดร.ภ.จะชักชวนให้ลงทุนแบบระดมเงินตั้งกองทุน Forex ทำสัญญากับบริษัท WCF เป็นสัญญาแบบรายเดือน รายปี และราย

5 ปี ได้รับผลตอบแทนร้อยละ 6 ต่อเดือน เช่น ลงทุน 500,000 บาท รับผลตอบแทนเดือนละ 30,000 บาท หากลงทุนครบ 1 ปีแล้วถอนเงินต้นคืน ได้รับเงินต้นพร้อมผลตอบแทน 860,000 บาท แต่หากไม่ถอนเงินออกจากระบบจนครบ 5 ปี จะได้รับเงินต้นพร้อมผลตอบแทนรวม 16 ล้านบาท

นายสุพจน์ให้ข้อมูลอีกว่า ปลายปี 2564 ดร.ภ. แนะนำให้ลงทุนแบบก๊อบปี้เทรด ลงทุน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราว 320,000 บาท จะได้รับผลตอบแทนร้อยละ 10-30 ต่อเดือน หากไม่ถอนเงินออกจากระบบครบ 5 ปี จะได้รับผลตอบแทน 100 ล้านบาท และหากผู้ลงทุนชักชวนบุคคลอื่นมาลงทุนได้ จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีผู้ร่วมลงทุนแบบก๊อบปี้เทรด ประมาณ 2,000 ราย การโฆษณาชักชวนให้ลงทุนกับ WCF ถือเป็นการประกอบกิจการในรูปแบบการระดมเงิน หรือการกู้ยืมเงินจากประชาชน มีวิธีสร้างความน่าเชื่อถือในรูปแบบต่างๆ เช่น อ้างเป็นโบรกเกอร์จดทะเบียนถูกต้องอยู่ประเทศอังกฤษ เปิดคอร์สสอนเทรดใช้โปรแกรม AI Dashboard และกลยุทธ์ต่างๆ ชักชวนให้ลงทุนก๊อบปี้เทรดออเดอร์ หรือคำสั่งซื้อคำสั่งขายพอร์ตมาสเตอร์

“ดร.ภ. ยังอ้างว่าตัวเองเป็นผู้ค้นพบวิชา BFI และ AI Dashboard สามารถเทรดได้เงินเป็นจำนวนมาก และใช้เงินที่ได้จากการเทรด ซื้อกิจการต่างๆ เช่น โรงแรมบ้านสวนชมดาวรีสอร์ต จ.ขอนแก่น ร้านพฤกษาตะวันแดง อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี ร้านอาหาร จ.สุรินทร์ และ จ.มหาสารคาม รวมทั้งอีกหลายแห่งในภาคอีสาน และยังอ้างได้ก่อตั้งกองทุนรักษาพอร์ต เพื่อเติมเงินให้ผู้ลงทุนทุกคนในช่วงเกิดวิกฤติ เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการล้างพอร์ต เนื่องจากความผันผวนของตลาด จากข้อมูลการตรวจสอบเครือข่ายก๊อบปี้เทรด WCF พบบริษัทในเครือของ ดร.ภ. มีอยู่ 19 บริษัททั่วประเทศ รวมทุนจดทะเบียน 161 ล้านบาท มีชื่อของเครือข่ายและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 50 ราย คาดมีเงินหมุนเวียนกว่า 10,000 ล้านบาท มีการแอบอ้างคนใหญ่คนโต ผู้มีชื่อเสียง นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้เหยื่อหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนจำนวนมาก คาดวงเงินความเสียหายมีไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท” นายสุพจน์กล่าว

นางแป้น (นามสมมติ) อายุ 70 ปี ชาว จ.หนองคาย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อปี 2565 มีคน รู้จักชวนไปลงทุน ได้ค่าตอบแทนร้อยละ 10 เป็นแชร์ที่จะนำเงินไปเทรดหุ้น มีคนเทรดให้ไม่ต้องทำอะไร ทำสัญญาทุก 6 เดือน จะได้ค่าตอบแทนคืน ตนนำเงิน 4 แสนบาทโอนไปร่วมลงทุน เป็นเงินที่ได้จากประกัน ชีวิตของสามี หลังโอนไปครบ 6 เดือน ไม่ได้ค่าตอบแทน สอบถามคนที่ชักชวนที่เป็นต้นสายอ้างว่ากำลังบริหารจัดการ ยังไม่ลงตัว ให้รอก่อน ทุกครั้งจะได้รับคำตอบแบบนี้จนมั่นใจว่าถูกหลอก แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองหนองคาย เมื่อปี 2566 จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า

นายประยุทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เผยว่า ได้ลงทุนกับบริษัทของ ดร.ภ. เพราะโปรไฟล์เป็นคนที่ดูน่าเชื่อถือ พูดจาดี ใจเย็น ลงทุนเปิดไป 3 พอร์ต จำนวนเงิน 9 แสนบาท และถอนออกมารวม 18 ครั้ง ยอดเงินรวม 5 แสนบาท ยังคงค้างอยู่ในพอร์ตอีกราว 4 แสนบาท พยายามสอบถามแต่ตัวแทนอ้างว่าระบบขัดข้อง อยากฝากถึง ดร.ภ.ให้ออกมารับผิดชอบ เนื่องจากเป็นเงินที่ตนเก็บไว้กินไว้ใช้ในยามเกษียณ ตอนนี้เครียดมาก ล่าสุดมีคนพบ ดร.ภ. แถว จ.หนองคาย กำลังอบรมชักชวนหาผู้มาร่วมลงทุนอีกหลายราย และรู้ว่าข้ามไปชวนคนฝั่งลาวด้วย

นายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม และ สส.เพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีภาพคู่กับ ดร.ภ. เจ้าของแชร์บ้านแครอท เผยแพร่ในสื่อโซเชียลว่า เรื่องนี้ตนตกเป็นเหยื่อผู้เสียหายที่ถูกหลอกเช่นกัน ชายที่อ้างเป็น ดร.ภ.ได้ติดต่อมายังคนสนิทเข้ามาตีสนิทนัดกินข้าว แล้วแนะนำตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเทรดหุ้น ชักชวนให้ร่วมลงทุน แต่ตนไม่เชื่อเลยไม่ได้ร่วมลงทุนด้วย ส่วนภาพที่นำไปเผยแพร่ เป็นภาพเก่าเมื่อปี 62 เป็นงานกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาทางการเมือง ด็อกเตอร์คนนี้มาร่วมงานด้วย ตอนนั้นตนนั่งกินข้าว ด็อกเตอร์คนนี้มาขอถ่ายรูป และเอาภาพคู่ไปแอบอ้างว่ารู้จักสนิทสนมกับตน มีคนโทร.มาสอบถามเป็นระยะ ว่าสนิทกับนายคนนี้จริงหรือไม่ ตนได้ปฏิเสธไปว่าไม่รู้จัก เท่าที่ทราบมี ส.ส. 1-2 คน หลงเชื่อร่วมลงทุนกับด็อกเตอร์คนนี้ด้วย แต่ไม่รู้มีใครบ้างและเป็นจำนวนเงินเท่าใด พอเป็นข่าวรู้สึกโกรธ ยังย้อนคิดว่าไม่น่าไปรู้จักกับมันเลย เท่าที่ทราบด็อกเตอร์คนนี้หลบหนีคดีออกนอกประเทศไปแล้ว