กลุ่มผู้เสียหาย พร้อมทนายความ หอบหลักฐานแจ้งความเอาผิด “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ฐานฉ้อโกงประชาชน กรณีขายทองออนไลน์ ยืนยันไม่ยอมความ
จากกรณีผู้เสียหายออกมาแฉซื้อทองทางออนไลน์ จาก น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือแม่ตั๊ก อายุ 36 ปี เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมและห้างเพชรทองเคทูเอ็น ถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. เมื่อนำดอกไม้ทองคำของแถมไปขายให้ร้านทองอื่น ปรากฏว่าไม่รับซื้อ อ้างไม่มีเปอร์เซ็นต์ทองและไม่มียี่ห้อ ทำให้ลูกค้าหลายคนเริ่มสงสัยว่า ทองที่ซื้อไปมีเปอร์เซ็นต์ทองสูงตามมาตรฐานหรือไม่ เบื้องต้น น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เข้ามาตรวจสอบคุณภาพทอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ เคนโด้ พาตัวแทนผู้เสียหายเกือบ 20 คน จาก 155 คน ที่ซื้อทองคำออนไลน์จาก แม่ตั๊ก พร้อมทนายความ รวมมูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท หอบหลักฐานพร้อมของแถมบางส่วน เข้าแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ แม่ตั๊ก และ นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง เพราะผู้เสียหายได้รับสินค้าแต่ไม่ตรวจสอบน้ำหนักทองก่อนรับสินค้า
ผู้เสียหายอีกคน เปิดเผยว่า ตัวเองได้เก็บเรื่องนี้มานานเกือบสองปีไม่กล้าออกมาให้ข้อมูลเพราะกลัวถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาท กระทั่งสังคมเริ่มให้ความสนใจ และมีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับตัวเองเริ่มมีความรู้ทางด้านกฎหมาย ออกมาเปิดหน้าสู้ชน และต้องการให้แม่ตั๊กได้รับโทษตามกฎหมาย
นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายในกลุ่ม 155 คน รวมมูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท แต่ปัญหาที่เจอตอนนี้ผู้เสียหายส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ ทำให้การรวมตัวผู้เสียหายเข้าแจ้งความเป็นไปได้ยาก ส่วนหลักฐานที่นำมาเข้าแจ้งความในวันนี้ เป็นหลักฐานการซื้อขาย ของแถม ที่แม่ตั๊กมอบให้ และคลิปไลฟ์สดขายทองทางออนไลน์ ส่วนข้อหาที่จะแจ้งความในวันนี้ คือ ความผิดฐานฉ้อโกงและข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน
ส่วนที่ผู้เสียหายบางคนที่มีการเซ็นยินยอมไม่ดำเนินคดี เพื่อแลกกับการได้เงินคืนนั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลของผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายกลุ่มนี้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และไม่มีการยอมความแต่อย่างใด
ด้าน ทนายพัฒน์ ซึ่งเข้ามาดูแลคดีนี้ให้กับ สตางค์ คนต้นเรื่องที่โพสต์คลิป กระทั่งมีคนรวมตัวกันออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “วันนี้ผมมาดูแลผู้เสียหายบางกลุ่มนะครับ ซึ่งทราบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก ผมได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วนะครับว่า คนที่ไม่สะดวกมาแจ้งความที่กองปราบจะทำอย่างไร? เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะให้แจ้งความออนไลน์ ซึ่งวิธีการจะแจ้งให้ทราบอีกที และทุกคดีที่แจ้งความออนไลน์ และสถานีตำรวจทุกที่จะมารวมกันที่กองปราบทั้งหมดครับ กรณีของผู้เสียหายที่อยู่ต่างประเทศ อาจจะต้องมีการมอบอำนาจให้กับตัวแทนแจ้งความ”
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ