ตำรวจวิสามัญฯผัวโหดจ่อยิงเมียดับ หลังทะเลาะตบตี ถูกผู้ตายไล่ออกจากบ้าน พยายามตามง้อไม่เป็นผล ควงปืน ย้อนมาทำร้าย ก่อนยิงหัวเป็นศพคาห้องนอน หลังก่อเหตุ เผ่นไปหลบซ่อนบ้านคนรู้จักไม่ไกลกัน ชุดสืบสวนระดมกำลังกว่า 50 นายปิดล้อม เจอปืน สวนเจ็บ 2 นาย เกิดการยิงตอบโต้โดนจับตายคาที่ สอบลูกผู้ตาย เผยผู้ก่อเหตุเป็นพ่อเลี้ยง ชอบหึงหวงแม่ ไม่เว้นแม้แต่ลูกเขย เคยอาละวาดขู่ฆ่าทิ้งยกครัวมาแล้ว

เหตุสะเทือนขวัญผัวหึงโหดยิงเมียดับคาห้องนอน ตำรวจระดมกำลังปิดล้อม เจอปืนสวนเจ็บ 2 นาย ก่อนโดนจับตายคาที่เกิดเหตุ เปิดเผยเวลา 23.30 น. วันที่ 24 ธ.ค. พ.ต.ท.ศักนรินทร์ รัตนพันธ์ สว. (สอบสวน) สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุผัวยิงเมียเสียชีวิตในบ้านเลขที่ 40/3หมู่4 ต.โคกช้าง ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สายชล สุวรรณบุตร ผกก.สภ.บางไทร และหน่วยกู้ภัยอยุธยา พบศพนางจิตรา ยินดีพจน์ อายุ 46 ปี นอนตายในห้องนอน มีแผลถูกยิงด้วยปืน 9 มม. ที่ศีรษะด้านขวา 1 นัด จมูกมีเลือดไหลออกมา ริมฝีปากมีร่องรอยฟกช้ำ มือขวากำกระดาษทิชชู บนหัวนอนพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมง

สอบสวน น.ส.นิสาชล บุษผาลา อายุ 31 ปี ลูกสาวผู้ตาย ให้การว่า ผู้ก่อเหตุชื่อนายวสันต์ ยินดีพจน์ อายุ 51 ปี สามีใหม่แม่และเป็นพ่อเลี้ยงของตน อยู่ระหว่างหลบหนี ก่อนเกิดเหตุขณะอยู่นอกบ้านช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. นายวสันต์โทรศัพท์มาว่าให้มาเก็บปลอกกระสุนปืนด้วย บอกว่ายิงแม่ตายแล้ว ตอนนั้นยังไม่เชื่อ สักพักนายวสันต์โทร.เข้ามาอีกรอบแต่ไม่ได้รับ เพราะขี้เกียจคุย กระทั่งกลับมาบ้านไม่เห็นแม่ เรียกก็ไม่มีเสียงตอบ ไปดูในห้องนอนตกใจพบศพแม่ถูกยิงเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พ่อเลี้ยงเคยขู่ไว้ว่าจะยิงทิ้งทั้งบ้าน ไม่คิดว่าจะยิงแม่จริงๆ

ลูกผู้ตายให้การอีกว่า ส่วนสาเหตุเกิดจากนายวสันต์พ่อเลี้ยงชอบหึงหวงแม่ ไม่เว้นแม้แต่คนในบ้านที่เป็นลูกเขย มักชวนหาเรื่องทะเลาะเป็นประจำ หลายครั้งที่ลงไม้ลงมือและขู่ฆ่าทิ้ง สองวันก่อนแม่กับนายวสันต์ทะเลาะถึงขั้นตบตีอย่างรุนแรง ทำให้แม่ทนไม่ไหวไล่พ่อเลี้ยงออกจากบ้านกลับไปอยู่ที่บ้านตนเองที่อยู่ไม่ไกลกัน แต่นายวสันต์ยังขี่รถ จยย.วนเวียนมาดูแม่หลายรอบเหมือนจะมาง้อขอคืนดี แต่แม่ใจแข็งไม่ยอมให้เข้าบ้าน คิดว่านายวสันต์เข้าใจว่าแม่ตัดใจเลิกจริงๆ ย้อนกลับมาทำร้ายยิงแม่ถึงห้องนอน ก่อนหลบหนียังขู่ฆ่าทิ้งทั้งครอบครัวอีกด้วย

ต่อมา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ติดตามคนร้าย หลังรับรายงานว่านายวสันต์หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านคนรู้จักในพื้นที่หมู่ 3 ต.โคกช้าง อ.บางไทร เขตติดต่อและอยู่ห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร เจ้าหน้าที่ระดมกำลังชุดสืบสวน ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และท้องที่ใกล้เคียงกว่า 50 นายเข้าปิดล้อมบ้าน พร้อมนำนางเฉลา ยินดีพจน์ อายุ 83 ปี แม่นายวสันต์มาช่วยเจรจาให้ลูกชายออกมามอบตัว แต่ไม่เป็นผลคนร้ายยังหลบซ่อนอยู่ในบ้าน ตำรวจต้องใช้ความระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน

กระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. หรือกว่า 12 ชม. หลังฆ่าภรรยา ตำรวจใช้โดรนบินเพื่อสำรวจพื้นที่ พร้อมกันประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงออกจากจุดเกิดเหตุ ก่อนกระจายกำลังโอบล้อมเข้าประชิดตัวบ้าน ปรากฏว่าคนร้ายเปิดฉากยิงสวนออกมาหลายนัด ถูกตำรวจชุดปฏิบัติการบาดเจ็บ 2 นาย เจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้เสียงปืนดังสนั่นหลายสิบนัด สิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ พบนายวสันต์ถูกวิสามัญฆาตกรรมคาบ้าน ส่วนตำรวจที่บาดเจ็บเป็นชุดปฏิบัติ

การพิเศษตำรวจภูธรภาค 1 ทราบชื่อ ด.ต.กิตติศักดิ์ สุขประเสริฐ ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 ถูกยิงขาขวา เข่าขวา และ ด.ต.วิสุทธิ์ชัย ฉวีเวช ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 ถูกยิงขาซ้าย 1 นัด และสะโพกขวา 1 นัดตัดเส้นเลือดใหญ่ขาด อาการสาหัส นำส่ง รพ.บางไทร ก่อนส่งต่อ รพ.ตำรวจ

ขณะที่ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้นเปิดเผยว่า ช่วงเช้ามืดได้รับรายงานว่าพบตัวผู้ต้องหาหนีคดียิงเมียมาหลบซ่อนตัวอยู่บ้านหลังดังกล่าว ตำรวจเข้าปิดล้อม ผู้ต้องหาใช้ปืนยิงตอบโต้กระสุนปืนลอดใต้โล่กันกระสุนออกมาถูกตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย แล้วเกิดการยิงปะทะกัน กระทั่งผู้ต้องหาถูกวิสามัญฯ เจ้าหน้าที่พยายามทำตามขั้นตอนและยุทธวิธีของตำรวจแล้ว มีการประเมินสถานการณ์แล้วจึงตัดสินใจ คนร้ายโดนยิงหน้าอก ยึดปืน 9 มม.ใช้แมกกาซีนแบบยาวบรรจุกระสุนได้ 20-30 นัด

สอบสวนเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุให้การว่า รู้จักกับนายวสันต์เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน ปกติจะแวะเวียนมาบ้าง ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณสองทุ่มนายวสันต์มาที่บ้านบอกว่าเพิ่งยิงภรรยาเสียชีวิต และขอนอนที่บ้าน ด้วยความกลัวเพราะมีอาวุธปืนจำยอมให้นอน ช่วงเช้ามืดออกไปขายของที่ตลาดและทราบข่าวจากชาวบ้าน ตัดสินใจแจ้งตำรวจไปจับกุมที่บ้านจนนำไปสู่การวิสามัญฯดังกล่าว

ที่ทำเนียบ เมื่อเวลา 14.05 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์เหตุตำรวจวิสามัญฯคนร้ายก่อเหตุยิงภรรยาเสียชีวิตที่ จ.พระนครศรีอยุธยาและตำรวจบาดเจ็บ 2 นายว่า เบื้องต้นตำรวจ 2 นายปลอดภัยแล้ว ตอนนี้ย้ายรักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจ ตอนนี้ทั้งคู่อาการปลอดภัยดี ส่วนผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญฯหลังจากพบว่าหลบซ่อนตัวภายในบ้าน เป็นพื้นที่จำกัดและยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังจากนี้ต้องไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเคยต้องโทษหรือไม่ ยืนยันตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษปฏิบัติหน้าที่ตามยุทธวิธี แต่คนร้ายเกิดยิงต่อสู้ออกมา กระสุนโดนอวัยวะที่ไม่มีเครื่องป้องกันทำให้เจ้าหน้าที่เจ็บสาหัส 2 นาย จำเป็นต้องวิสามัญฯผู้ก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ญาติผู้ก่อเหตุติดใจการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย แต่ในรายละเอียด แม้ว่าญาติจะติดใจเหตุการณ์เสียชีวิตก็ต้องดูเรื่องของการสอบสวน จากนี้ต้องตรวจพิสูจน์เรื่องวิถีกระสุนและเขม่าดินปืน รวมถึงปลอกกระสุน หากตำรวจทำไม่ถูกต้องก็ต้องพร้อมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา ทั้งนี้ จากการสอบถาม ผบช.ภ.1 มั่นใจว่าตำรวจมีความจำเป็นต้องปกป้องชีวิตตัวเองในขณะที่ผู้ก่อเหตุยิงต่อสู้ ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ก่อเหตุ พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย