จ.เชียงราย เป็นจังหวัดที่ตั้งทางทิศเหนือสุดในแดนสยาม อยู่บริเวณรอยต่อ 3 ประเทศ คือ ประเทศไทย ประเทศพม่า และประเทศลาว หรือรู้จักกันในนามของดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ ผจญวิกฤติหนักจากน้ำท่วมที่ผ่านมา
จากสภาพฝนตกหนัก แม่น้ำสายล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก มวลน้ำจำนวนมหาศาลไหลทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน อาคาร ร้านค้า โรงเรียน วัด และสิ่งปลูกสร้าง เสียหาย 6 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 45,329 ครัวเรือน
เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย อาสาสมัคร กู้ภัย จิตอาสาจากทั่วประเทศ ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ปภ.ทุกหน่วย ได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในบ้านออกสู่ที่ปลอดภัยอย่างฉุกละหุกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
หลังน้ำลดหน่วยงานราชการและทุกฝ่ายระดมกำลังเข้าฟื้นฟูระยะแรก นำเครื่องจักรและกำลังคนจากทุกภาคส่วนช่วยขุดดินโคลนไหลมาทับถมบ้านเรือนและถนนหนทางต่างๆ ฉีดล้างทำความสะอาดพร้อมเก็บเศษซากขยะอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้เข้าสู่การฟื้นฟูระยะ 2 เป็นการซ่อมแซมอาคาร บ้านเรือน ร้านค้า โรงเรียน วัด สิ่งก่อสร้าง สาธารณูปโภคต่างๆให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วเพื่อรองรับหน้าหนาวเป็นฤดูการท่องเที่ยว จะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
โดยมีภาครัฐ เอกชน และหลายฝ่ายทยอยส่งสิ่งของต่างๆ รวมถึงวัสดุก่อสร้างมาช่วยเหลือฟื้นฟู ซ่อม สร้างอาคาร โรงเรียน บ้านเรือนประชาชน และถาวรวัตถุโบราณสถานของวัดต่างๆ
นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่รุนแรงสุดในรอบ 50 ปี น้ำท่วมสูงบางแห่งมีดินโคลนทับถมสูง 2-3 เมตร โดยเฉพาะ อ.แม่สาย เสียหายหนักกลายเป็นประวัติศาสตร์
ปัจจุบันทุกภาคส่วนเร่งฟื้นฟูรวมถึงเยียวยาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
“บางครอบครัวต้องสูญเสียและพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก บ้านเรือน ชุมชน ได้รับความเสียหายภายใต้กองโคลนมหึมา พื้นที่การเกษตรและสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน” นายประเสริฐ กล่าว
แต่ในวิกฤตการณ์อันเลวร้าย เห็นน้ำใจเพื่อนมนุษย์จากทั่วประเทศหลั่งไหลให้ความช่วยเหลือผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะ นายนภดล รมยะรูป กก.ผจก. บมจ.ปูนซีเมนต์เอเซีย เดินทางมามอบปูนตราดอกบัว 49 ตัน (1,060 ถุง) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนราษฎรและวัด 8 แห่ง
นายนภดล รมยะรูป กก.ผจก. บมจ.ปูนซีเมนต์เอเซีย กล่าวว่า บมจ.ปูนซีเมนต์เอเซีย เล็งเห็นถึงความสำคัญเหตุการณ์ดังกล่าว จัดทำโครงการ “Corporate Social Responsibility ; CSR” เป็นกิจกรรมช่วยเหลือกับสังคม
ใช้ชื่อ “ปูนแกร่ง ทำความดีด้วยใจแกร่ง” สนับสนุน ปรับปรุง และซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในภาคเหนือ มุ่งเน้นทำความดีด้วยหัวใจแกร่ง
โดยเป็นปูนซีเมนต์ลดโลกร้อน (GO GREEN ปูนคาร์บอนต่ำ) ที่มีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ในทุกกระบวนการผลิต
นอกจากนี้ ส่งมอบปูนตราดอกบัว 64 ตัน (1,360 ถุง) ให้กับผู้ประสบภัย จ.พะเยา เพื่อช่วยเหลือปรับปรุงซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนราษฎรที่ชำรุดจากอุทกภัยในครั้งนี้ด้วย
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยธรรมชาติ สิ่งที่เห็นและประทับใจคือน้ำใจของคนไทย ยื่นมือช่วยเหลือกันในยามทุกข์ยาก
จากการระดมช่วยกันดังกล่าว อีกไม่นานชาวเชียงรายจะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง.
วีระชัย ปทุมชัย รายงาน
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ