“ดวงเมือง” ปี 2568 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ทั้งในแง่ของการเมืองเศรษฐกิจ และสังคม ขณะที่ดวงชะตาของคนไทยโดยรวมสะท้อนถึงความหวังใหม่และการเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ต้องอาศัยความร่วมมือและความเชื่อมั่นในอนาคต
โหรคนดังวิเคราะห์ดวงคนและดวงเมืองปี 2568 ฟันธง…ด้านเศรษฐกิจ “ดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวแห่งปัญญาและความเจริญรุ่งเรือง โคจรเข้าสู่ราศีที่ส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากผ่านวิกฤติหลายปี แต่ยังมีแรงกระแทกจากดาวเสาร์ที่สถิตอยู่ในมุมที่ท้าทาย อาจทำให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างช้าๆ
และ…ต้องอาศัยการวางแผนระยะยาว เมื่อเหลียวมามองภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การเกษตรที่เชื่อมโยงกับนวัตกรรมจะกลายเป็นจุดเด่นในการพัฒนา แต่จะเผชิญความผันผวนจากตลาดโลก
ถัดมา…ด้านการเมือง “ดาวมฤตยู ซึ่งสถิตในราศีที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูป ยังคงมีอิทธิพล ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการเมืองไทย ทั้งในเชิงโครงสร้างและความเป็นผู้นำ มีโอกาสสูงที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หรือการปฏิรูปกฎหมายสำคัญที่กระทบต่อชีวิตประชาชน…”
แม้ว่าดาวอังคารซึ่งเป็นดาวแห่งความขัดแย้งจะลดความรุนแรงลง แต่ยังคงมีแรงกดดันจากประชาชนที่เรียกร้องความโปร่งใสและความเป็นธรรม
สาม…ด้านสังคม “การเปลี่ยนผ่านของดาวศุกร์ ส่งผลให้คนไทยเริ่มหันกลับมาสนใจวิถีชีวิตแบบพอเพียง ความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนมีความสำคัญมากขึ้น ทว่า…ปัญหา “ความเหลื่อมล้ำ” ยังคงเป็นจุดท้าทายใหญ่ โดยเฉพาะในภาคการศึกษาและสาธารณสุข”
ขีดวงแคบลงมาที่ “ดวงคน” ด้านอาชีพและการงาน ว่ากันว่า…ปีหน้านี้จะเป็นปีที่หลายคนมีโอกาสเปลี่ยนสายงานหรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ดาวพฤหัสบดีช่วยส่งเสริมความสำเร็จในงานที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร การศึกษา และการสร้างสรรค์
แต่ผู้ที่อยู่ในสายงานที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมหนักและการผลิต อาจต้องเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากนโยบายภาครัฐและความผันผวนในตลาด
สำหรับดวงความรักและครอบครัว…ดาวศุกร์ ส่งพลังบวกให้กับเรื่องความรัก คนโสดมีเกณฑ์พบคู่ครองที่จริงใจ ขณะที่คนมีคู่จะมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ปัญหาครอบครัวที่มีมาก่อนหน้านี้จะคลี่คลายลงได้ แต่ต้องอาศัยความอดทนและการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา
“ในเรื่องสุขภาพและชีวิตส่วนตัว ดาวเสาร์ยังคงส่งผลต่อสุขภาพของผู้ที่ละเลยการดูแลตัวเอง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อาจเป็นปัญหาหลัก การปฏิบัติธรรมและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เช่น โยคะและสมาธิ จะช่วยปรับสมดุลให้ชีวิต”
คราวนี้มาถึงคำแนะนำในภาพใหญ่…การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีสติและการร่วมมือในระดับชาติจะช่วยให้ประเทศไทยก้าวข้ามอุปสรรคสำคัญ “ภาคประชาชน” และ “ภาคธุรกิจ” ควรเตรียมตัวรับมือกับนโยบายใหม่ และหันมาให้ความสำคัญกับ “เศรษฐกิจสีเขียว” มากขึ้น
ในภาพย่อยระดับบุคคล ย้ำว่า… “อย่าลังเลที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ แต่ควรมีการวางแผนล่วงหน้าใช้ปีนี้ (2568) ในการสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง ทั้งในแง่การงาน การเงิน และสุขภาพ”
“ปี 2568” จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็เป็นปีแห่งโอกาสสำหรับการฟื้นตัวและการพัฒนาทั้งดวงเมือง…ดวงคน การมีสติ การปรับตัว…การทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ คือ “กุญแจ” สำคัญที่จะนำพา “ประเทศไทย” และ “คนไทย” ทุกคนก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคต
เทศกาลวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ รัฐบาลเพิ่มวันเฝ้าระวัง “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” จาก 7 เป็น 10 วันอันตราย ด้วยว่า…ที่ผ่านมาในปี 2567 มีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด มีอุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,307 คน และเสียชีวิต 284 คน รัฐบาลจึงตั้งใจให้สถิติในช่วงปีใหม่ 2568 ลดลง
ตอกย้ำปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เริ่มจาก…พฤติกรรมการขับขี่ที่เสี่ยง การเมาแล้วขับเป็นปัญหาหลักในช่วงเทศกาล ผู้ขับขี่ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์มีความสามารถในการตัดสินใจลดลง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง…การขับรถเร็วเกินกำหนดและการเร่งแซงในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย
ถัดมา…ปริมาณการจราจรที่หนาแน่น การเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาว ส่งผลให้ถนนสายหลักมีความหนาแน่นสูง การจราจรติดขัด และเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุ
“การไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร…ผู้ขับขี่บางส่วนไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย หรือขับขี่ในสภาพที่เหนื่อยล้า ผู้ใช้จักรยานยนต์จำนวนมากยังละเลยการป้องกันตัวเองด้วยอุปกรณ์นิรภัย รวมถึงสภาพถนนและยานพาหนะที่ไม่ได้มาตรฐาน ถนนบางสายมีการชำรุด ไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอ ฯลฯ”
แน่นอนว่า…แนวทางแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุก็ต้องลดปัจจัยที่ทำให้เกิด นั่นก็คือการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพิ่มจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์และความเร็วในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ลงโทษผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรอย่างจริงจังเพื่อสร้างความยับยั้งชั่งใจ และการรณรงค์สร้างจิตสำนึก สร้างความตระหนักรู้
“ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ซ่อมแซมถนนที่ชำรุด เพิ่มไฟส่องสว่าง และติดตั้งป้ายเตือนในจุดเสี่ยง จัดเตรียมอุปกรณ์…ทีมกู้ภัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และที่สำคัญ…ก่อนเดินทางต้องตรวจสอบยานพาหนะ ส่งเสริมการตรวจสอบและบำรุงรักษายานพาหนะก่อนการเดินทาง เพิ่มบริการตรวจเช็กฟรีในช่วงก่อนเทศกาล”
ช่วงเทศกาลปีใหม่ “10 วันอันตราย” เป็นช่วงเวลาที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ การลดอุบัติเหตุในช่วงวันหยุดยาวเช่นนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยบนท้องถนน ลดตัวเลขการ “เสียชีวิต” และ “บาดเจ็บ” ให้น้อยลงๆในทุกๆปี.
คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ