ปัตตานีวิกฤติหนักน้ำท่วมเต็มจังหวัด 12 อำเภอต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ อ.ยะรัง ขณะนี้ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำปัตตานีได้ล้นตลิ่งประกอบกับน้ำฝนจำนวนมากที่ตกตลอดเวลา ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมสูง ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ถูกกระแสน้ำพัดร่าง…

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยังคงหนัก เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องหลายวัน ส่งผลให้ในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม บ้านเรือนราษฎร ถนน สถานที่ราชการหลายแห่งจมอยู่ใต้น้ำ ล่าสุดจังหวัดปัตตานีได้ประกาศให้ทั้ง 12 อำเภอเป็นพื้นที่เกิดภัยพิบัติแล้ว

โดยมี 6 อำเภอที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ประกอบด้วย อ.แม่ลาน อ.ทุ่งยางแดง อ.หนองจิก อ.มายอ อ.ไม้แก่น และ อ.โคกโพธิ์ รวม 39 ตำบล 194 หมู่บ้าน 8,452 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 28,969 คน และล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ในพื้นที่ อ.ยะรัง

โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.อ.อุเทน จีนทองหลาง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 ได้รับการประสานจากอำเภอยะรังว่า มีประชาชนถูกน้ำพัดหายไปในแม่น้ำ บริเวณทุ่งรับน้ำ ม.5 บ้านเกาะบาตอ ต.เมาะมาวี หลังได้รับแจ้งจึงนำกำลังพร้อมเรือยางเข้าไปทำการค้นหา แต่ปรากฏว่าการค้นหาเป็นไปอย่างค่อนข้างลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวแรง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องแบ่งพื้นที่การค้นหา จนกระทั่งผ่านไปร่วม 3 ชั่วโมง จึงพบร่างผู้เสียชีวิตลอยไปติดกิ่งไม้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร

จากนั้นจึงนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปชันสูตรพลิกศพที่ รพ.ยะรัง ทราบชื่อ น.ส.รอฮานี วิชา อายุ 42 ปี

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายพิการทางสมอง ก่อนเกิดเหตุได้เดินเล่นน้ำอยู่ริมถนน ขณะที่กำลังเดินปรากฏว่าถูกกระแสน้ำแรงพัดเอาร่างตกลงไปในคลองต่อหน้าประชาชน ผู้ตายพยายามว่ายน้ำ แต่ด้วยกระแสน้ำเชี่ยวจึงพัดพาร่างจมหายไปในน้ำ ซึ่งขณะนี้ญาติได้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ยะรัง ขณะนี้ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำปัตตานีได้ล้นตลิ่งประกอบกับน้ำฝนจำนวนมากที่ตกตลอดเวลา ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะ ม.1 ม.2 ต.เขาตูม พันเอกอุเทน จีนทองหลาง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 นำกำลังพล พร้อมรถบรรทุกหกล้อ เรือยาง และเครื่องยุทโธปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูง และบางพื้นที่ถนนถูกตัดขาดทำให้ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายออกจากบ้านที่น้ำท่วม บางรายต้องใช้เรือเข้าไปช่วยเหลือ ขณะที่พื้นที่อันตรายและน้ำกำลังท่วมสูงเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการขนย้ายสิ่งของขึ้นอยู่บนที่สูง

ด้าน พันเอกปรเมธ ศานุพงศ์ ผบ.ทพ.43 ได้นำกำลังเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้าน พื้นที่ ม.7 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังจากน้ำได้ท่วมสูงขึ้นเกือบ 2 เมตร โดยกำลังพลได้อพยพผู้สูงอายุให้นั่งเรือ ส่วนเด็กๆ ให้ขี่คอเดินลุยน้ำออกมาอย่างปลอดภัย

ขณะที่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี บ้านเรือนอาศัยติดกับริมแม่น้ำปัตตานี ได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม โดยเฉพาะ ต.จะบังติกอ มีน้ำท่วมสูง 50-70 ซม. เข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้า ถนนจมอยู่ใต้น้ำ เจ้าหน้าที่ต้องนำแผงกั้นมาปิดเส้นทางชั่วคราว เช่นเดียวกับถนนจะบังติกอ ถนนกะลาพอ เส้นไปยังตลาดเปิดท้าย มีน้ำท่วมสูง 40 ซม. ขณะที่ถนนสะบารัง ซึ่งติดแม่น้ำปัตตานีได้เอ่อล้นเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนมีน้ำท่วมสูง 30-50 ซม. อีกทั้งยังมีเครื่องจักรของหน่วยงานที่ทำการก่อสร้างก่อนหน้านี้ ได้จอดขวางอยู่กลางถนน ทำให้ชาวบ้านที่สัญจรไปมาต้องระมัดระวังมากขึ้น รถ จยย.หลายคันเครื่องดับ

นอกจากนี้ ถนนพิพิธภัณฑ์ ต.อาเนาะรู ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจเกิดน้ำท่วมเช่นเดียวกัน โดยมีระดับน้ำสูง 20 – 30 ซม. ร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ทั้งสองฝั่งถนนได้นำกระสอบทรายมากั้นน้ำบริเวณหน้าร้าน เนื่องจากหลายร้านมีความกังวลระดับจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ประกอบกับป้องกันไม่ให้รถที่ผ่านพัดน้ำเข้ามาในร้าน โดยในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ขณะนี้มีร้านค้าต่างๆ ได้รับผลกระทบแล้ว 100 กว่าร้าน และภายในเขตเทศบาลถนนเกือบทุกสายน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้น้ำระบายไม่ทัน

ล่าสุด นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นายวันสุกรี แวมามะ นายอำเภอเมืองปัตตานี เดินทางลงพื้นที่ ม.1 และ ม.2 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวแม่น้ำปัตตานีได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 500 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยผู้ว่าได้ลงเรือนำยาสามัญประจำบ้านรักษาโรค มอบแก่ประชาชน ผู้ป่วยติดเตียง คนชรา ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ รวมถึงพูดคุยกับผู้ประสบภัยเพื่อให้ขวัญและกำลังใจอีกด้วย

ซึ่งพบว่ามีบางหลังที่ถูกน้ำท่วมหนักได้มีการย้ายผู้ป่วยติดเตียงออกแล้ว ยังคงมีบางหลังที่ยังไม่ได้ย้าย เนื่องจากน้ำเข้าท่วมไม่มาก แต่ผู้ว่าสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านดูแลอย่างใกล้ชิด หากน้ำสูงถึงขั้นวิกฤต ให้ย้ายผู้ป่วยทันที

นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ทั้ง 12 อำเภอของจังหวัดปัตตานี มีฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเกณฑ์สีม่วง โดยฝนที่ตกลงมาเฉลี่ยแต่ละอำเภออยู่ที่ 200 มิลลิเมตร และอำเภอที่มีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาหนักที่สุดคือ อ.ยะรัง อยู่ที่ 519 มิลลิเมตร ซึ่งเราได้ออกประกาศเป็นพื้นที่วิกฤต พร้อมประกาศพื้นที่ศูนย์อพยพของประชาชน เนื่องจากว่าปีนี้มีปริมาณน้ำฝนมาก อีกทั้งมีสถานการณ์น้ำจากจังหวัดยะลา และนราธิวาสที่ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานีทั้งหมด