“ปวีณา” เปิดใจผู้เสียหายถูกหลอกกู้ซื้อคอนโดฯ 1.4 พันล้าน

ตัวแทนผู้เสียหายนับร้อยรายร้อง “ปวีณา” ถูกกลโกงบริษัทช่วยปิดหนี้ หลอกทำสัญญากู้ซื้อคอนโดฯเป็นหนี้หัวโตรวม 1,470 ล้านบาท แฉโทร.ให้คำแนะนำ บอกยินดีปิดหนี้สินทั้งหมดให้ ก่อนชวนร่วมลงทุนห้องชุด เซ็นเอกสารยื่นกู้ผ่านฉลุยง่ายดายรายละ 3-5 ห้อง ผ่อนจริงห้องเดียว ที่เหลือบริษัทรับผิดชอบเอง สิ้นสัญญาจะซื้อคืน สุดท้ายโดนต้มต้องแบกหนี้หนักกว่าเดิม ถึงรายละกว่า 10 ล้าน เจอแบงก์ยื่นฟ้องบังคับคดี บางรายเครียดถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย เชื่อทำเป็นขบวนการ เตรียมพาแจ้งกองปราบฯ-ดีเอสไอสอบเอาผิด

กลุ่มผู้เสียหายร้องมูลนิธิปวีณาฯ ถูกบริษัทหลอกช่วยปิดหนี้ ก่อนนำเอกสารไปยื่นกู้ซื้อคอนโดฯเป็นหนี้หัวโตหนักกว่าเก่า เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายนับร้อยรายจากทั่วประเทศเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีที่ จ.ปทุมธานี ระบุว่าถูกบริษัทหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ติดต่อยื่นข้อเสนอช่วยปิดหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล บ้านและรถยนต์ ก่อนนำเอกสารไปยื่นกู้ซื้อคอนโดมิเนียมรายละ 3-5 ห้อง สุดท้ายกลับเป็นหนี้ธนาคารหลายล้านบาท ขณะที่บริษัทปิดตัวหนีติดต่อไม่ได้ หลายคนเครียดจัดคิดฆ่าตัวตาย เพราะถูกทวงหนี้ฟ้องยึดทรัพย์บังคับคดี

น.ส.โอ๋ (นามสมมติ) อายุ 31 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ทำงานบริษัทมีเงินเดือนกว่า 4 หมื่นบาท มีหนี้สินบัตรเครดิต สินเชื่อผ่อนบ้าน ผ่อนรถประมาณ 900,000 บาท ช่วงปี 66 มีโทรศัพท์จากบริษัทหนึ่งโทรศัพท์มาสอบถามให้คำปรึกษาเรื่องหนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ตนไม่ทราบว่าบริษัทรู้ข้อมูลส่วนตัวจากไหน บริษัทแนะนำให้รวมหนี้ทั้งหมดและจะปิดหนี้ให้ ให้มาผ่อนกับบริษัทเป็นรายเดือนที่เดียวเพื่อจะได้ผ่อนสบายๆ ด้วยภาระหนี้เกินตัว ทำให้สนใจเดินทางไปที่บริษัทย่านคูคต จ.ปทุมธานี ลักษณะเป็นตึกแถว 2 คูหา พนักงานแนะนำข้อมูลต่างๆ บอกว่าจะปิดหนี้ให้ทั้งหมดและชักชวนให้เป็นผู้ร่วมลงทุนซื้อขายคอนโด มิเนียมในระยะเวลา 2-5 ปีจนเสร็จสิ้นโครงการ

น.ส.โอ๋กล่าวอีกว่า หลังตกลงให้บริษัทปิดหนี้ให้ พนักงานพาไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานที่ สภ.คูคต ระบุว่าบริษัทมอบเงินให้ไปปิดหนี้ทั้งหมดและสัญญาจะร่วมกับบริษัทจนเสร็จสิ้นโครงการ จากนั้นบริษัทปิดหนี้รวม 900,000 บาทให้จริง ทำสัญญาผ่อนจ่ายรายเดือนและห้ามให้ไปกู้เงินอะไรอีกเพราะต้องการให้เครดิตบูโรไม่มีหนี้สิน หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือนเมื่อเครดิตดีบริษัทให้เซ็นเอกสารกู้ซื้อคอนโดฯ ต้องเซ็นหลายชุดอ้างว่าจะยื่นกู้ซื้อคอนโด 5-7 ธนาคาร ตอนแรกเข้าใจว่าซื้อห้องเดียว มารู้ทีหลังว่ากู้ซื้อผ่านถึง 5 ห้องตกราคาห้องละ 2-5 ล้านบาท รวมทั้งหมด 16 ล้านบาท บริษัทบังคับให้ทำประกันชีวิตเพื่อค้ำประกันยอดหนี้กับธนาคารด้วย

“บริษัททำสัญญาว่าให้ผ่อนคอนโดฯ 1 ห้อง ส่วนอีก 4 ห้องบริษัทจะเป็นคนผ่อนกับธนาคาร เมื่อครบสัญญา 5 ปี บริษัทจะซื้อคืน ส่วนเงินที่ผ่อนคอนโดฯจะไปหักกับยอดหนี้ทางบริษัท กระทั่งวันที่ 25 พ.ย.67 จู่ๆธนาคารโทร.มาทวงถามค่างวด เพราะบริษัทไม่จ่าย ถึงรู้ว่าถูกหลอก กลายเป็นว่าต้องแบกหนี้ทั้ง 16 ล้าน ไม่รู้จะทำอย่างไร เครียดจัดกินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องไปพบจิตแพทย์ ถึงขั้นคิดจะผูกคอตายหนีปัญหา” น.ส.โอ๋กล่าวอย่างสิ้นหวัง

ด้าน น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนเจอแบบเดียวกันกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ครั้งแรกที่เดินทางไปบริษัทหลังได้รับการติดต่อ พนักงานบริษัทพูดถึงโครงการทุกอย่างดูน่าเชื่อถือ และเดินเรื่องยื่นกู้แบงก์อย่างง่ายดาย ตนค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตพบว่าบริษัทมีกรรมการ 2 คน ทุนจดทะเบียน 55 ล้านบาท เปิดตั้งแต่ปี 55 ทำให้หลงเชื่อเพราะอยากปิดหนี้ แต่กลับต้องเป็นหนี้จากการซื้อคอนโดฯถึง 15 ล้านบาท หลังรู้ว่าถูกหลอกได้เข้าร่วมกลุ่มไลน์ผู้เสียหายที่มีกว่า 200 คน มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท ก่อนรวมตัวมาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

ขณะที่ น.ส.นันท์วาภัทร นพชัยกิตติยุต ทนายความที่เข้ามาช่วยเหลือผู้เสียหาย กล่าวว่า บริษัททำในรูปแบบวันสต๊อปเซอร์วิส ทำเรื่องให้เบ็ดเสร็จทุกอย่าง บริษัทยื่นกู้ 1 ห้องต่อ 1 ธนาคาร และได้ส่วนต่างจากกู้โอเวอร์ แบงก์จะโอนเงินให้ผู้เสียหาย บริษัทก็ติดตามให้ผู้เสียหายโอนให้กับบริษัท ผู้เสียหายเป็นหนี้ธนาคารคนละ 14 ล้านบาทจากที่เป็นหนี้แค่หลักแสน ตอนนี้มีผลกระทบผู้เสียหาย 2 ลักษณะ อย่างแรกเมื่อครบสัญญาแต่ไม่มีการซื้อคืนตามสัญญาที่ตกลง ตั้งแต่ปี 61-64 มีผู้เสียหาย 39 ราย คอนโดฯ 154 ห้อง มูลค่าความเสียหาย 539 ล้านบาท อย่างที่สองยังไม่ครบสัญญาแล้วบอกเลิกก่อนโดยไม่แจ้งล่วงหน้าตั้งแต่ปี 63-ปัจจุบัน ผู้เสียหาย 64 ราย คอนโดฯ 260 ห้อง มูลค่าความเสียหาย 931 ล้านบาท รวม 103 รายกู้ซื้อคอนโดฯ 414 ห้อง กู้ซื้อกับ 8 ธนาคาร ปัจจุบันบริษัทไม่จ่ายเงินค่าผ่อนซื้อ และติดต่อไม่ได้ ผู้เสียหายทั้งหมดจึงเป็นหนี้ 1,470 ล้านบาท

ภายหลังรับเรื่อง นางปวีณาเปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เห็นใจผู้เสียหายทุกคนที่ถูกหลอกจนเป็นหนี้มหาศาล ตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำแบบนี้ต้องทำเป็นขบวนการ บริษัทนายหน้าที่ชักชวนปิดหนี้ให้และโครงการคอนโดฯที่กู้ซื้อ เพราะทุกอย่างมีการวางระบบยื่นกู้ง่าย ธนาคารปล่อยสินเชื่อกู้ซื้อคอนโดฯง่าย คอนโดฯบางแห่งกู้ได้มากกว่าราคาประเมิน อยากฝากถึงผู้บริหารธนาคารต่างๆช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ และขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อง่ายๆ เพราะอาจตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว อยู่ดีๆมีหนี้นับสิบล้าน ถูกฟ้องร้องบังคับคดี ยึดทรัพย์ ทุกข์หนักกว่าเดิม จากนี้จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองปราบปราม หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อสอบสวนเอาผิดบริษัทและผู้เกี่ยวข้องต่อไป