บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ไม่ตื่นเต้น ได้เป็นแคนดิเดตอันดับ 1 เชื่อทุกคนมีคุณสมบัติพร้อมเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ยัน ณ เวลานี้ไม่ได้คิดอะไรเลย ขอทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด อยากเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธากลับมา

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ว่า ขณะนี้ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ยังไม่ได้มีการแจ้งกำหนดการประชุม และยังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรเลย ตนไม่ทราบจริง ๆ ว่าจะมีการประชุมเมื่อไหร่ หรือมีกำหนดการคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร. เมื่อไหร่นั้น ยังไม่ทราบ ก็อย่างที่เห็นว่าก้มหน้าก้มตาทำงานเรื่องออนไลน์บ้าง ยาเสพติดบ้าง

ถามว่า ประชาชนติดตามว่าหน่วยงานอื่นได้ผู้นำเหล่าทัพกันหมดแล้ว แต่ของตำรวจล่าช้าด้วยเรื่องของกฎหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เหล่าทัพไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนและวิธีการ แต่ตำรวจเราเปลี่ยนแปลงกฎหมายเมื่อปี 2565 แล้วปรากฏว่าการใช้กฎ ก.ตร. ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ต.ค. นี้ จึงทำให้การแต่งตั้งของตำรวจต้องขยับไปทุกระดับชั้น คงเป็นไปตามกฎหมาย อาจจะต้องล่าช้าไปบ้าง เป็นเรื่องของกฎก.ตร.

ถามว่ารู้สึกตื่นเต้นหรือไม่ที่ได้เป็นแคนดิเดตอันดับที่หนึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ถ้าถามมา เอา ณ เวลานี้ไม่ได้คิดอะไรเลย เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นตน พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง หรือ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ถ้าเราได้รับมอบหมายหน้าที่ที่ต้องเกิดขึ้น หมายถึงหน้าที่และความรับผิดชอบที่สูงและใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นใครก็มีความพร้อมที่จะต้องรับบทบาทหน้าที่นี้ ต้องทำเพื่อนำองค์กรไปให้ประชาชนได้เห็นว่าตำรวจเราเป็นที่พึ่งได้

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า แม้กระทั่งตัวผมเอง เราอยากจะเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธากลับมา โดยที่ไม่ได้คิดถึงตำแหน่งหน้าที่นี้เลย ณ เวลานี้ถามว่าตื่นเต้นไหม ไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ ได้แต่คิดว่าเรามีหน้าที่ที่เราต้องทำ ผมรับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม เราก็ดูว่าเนื้องานป้องกันปราบปราม ต้องเดินหน้ายังไงภายใต้นโยบายของนายกรัฐมนตรีด้วย และสิ่งที่เราควรจะทำในหน้าที่ของตำรวจมากกว่าการจะไปคิดถึงว่าเราจะได้ตำแหน่งอะไรมากกว่า

ถามมีความพร้อมที่จะเป็น ผบ.ตร. หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ถ้าตนพูดว่าพร้อม เดี๋ยวก็คิดว่าผมจะเป็น เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะเป็นผม หรือ พล.ต.อ.ไกรบุญ หรือ พล.ต.อ.ธนา หากได้รับการพิจารณา ผมว่าทุกท่านก็พร้อมที่จะทำหน้าที่นี้เพื่อองค์กรกับพี่น้องประชาชน ประเทศชาติ และก็จะต้องปกป้องพิทักษ์ราชบัลลังก์ สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูงสุด