น้ำท่วมใต้ดับ 29 ศพ เทงบ 5,000 ล้านช่วยเหลือ

ปภ.สรุปน้ำท่วมภาคใต้ 10 จังหวัด สังเวย 29 ศพ สถานการณ์คลี่คลาย เหลือ 5 จังหวัดระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ นราธิวาสฝนเทรอบใหม่ หลังทิ้งช่วงมา 3 วัน แต่ไม่หนักมาก ชาวบ้านยังผวาไม่ขนของลงจากที่สูง เชื่อยังมีน้ำท่วมใหญ่ระลอกสอง ปัตตานียังสาหัส 500 หลัง ถูกตัดขาดไม่มีทั้งน้ำทั้งไฟ ต้องส่งแผงโซลาร์เซลล์ไปช่วย เบตงถนนทรุดขยายวงกว้างยังซ่อมไม่ได้ ย้ายสถานีขนส่งไปอยู่เทศบาล เมืองคอนสลดคืนเดียวพบ 2 ศพ เหยื่อน้ำท่วม “อนุทิน” ยันนายกฯ เห็นความสำคัญชาวใต้ อนุมัติงบ 5,000 ล้าน เร่งเยียวยา ผู้ประสบภัย

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างมีแนวโน้มคลี่คลาย ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกลงมาอีกระลอกแต่ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. จ.นราธิวาส ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกลงมาในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ หลังจากฝนทิ้งช่วงหยุดตกไป 3 วัน แต่ไม่หนักมากและไม่มีผลกระทบต่อสภาวะน้ำท่วมในภาพรวมที่กำลังคลี่คลายและลดลงอย่างต่อเนื่อง น้ำในแม่น้ำโก-ลกที่ไหลผ่าน อ.สุไหงโก-ลก เข้าท่วมพื้นที่ 7 ชุมชน 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน ลดลงอยู่ระดับเดียวกับตลิ่งแล้ว เหลือเพียงบ้านเรือนในที่ลุ่มต่ำบางจุดเท่านั้น ส่วนที่ อ.ตากใบ ยังท่วมหนักใน 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่สุดท้ายก่อนที่มวลน้ำจะไหลลงสู่ทะเล ยังคงมีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยประมาณ 1 เมตร

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของปี โดยในทุกๆปีจะมีสถานการณ์น้ำท่วมขังประมาณ 3 ครั้งหรือ 3 ระลอก ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะบ้านเรือนในพื้นที่ลุ่มต่ำส่วนใหญ่ยังไม่ไว้วางใจ แม้ระดับน้ำจะลดลงจนเกือบคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ก็ไม่ได้เคลื่อนย้ายสิ่งของสัมภาระรวมทั้งทรัพย์สินมีค่าต่างๆลงจากที่สูง เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

จ.ปัตตานี น้ำในแม่น้ำปัตตานียังเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ริมน้ำ แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงบ้างแล้วแต่ชาวบ้านยังเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ พื้นที่ที่ยังท่วมหนักสุดคือ อ.เมืองปัตตานี โดยเฉพาะที่หมู่ 2 บ้านจางา บ้านยือโม๊ะ ต.ปะกาฮะรัง มีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 500 ครัวเรือน ระดับน้ำในหมู่บ้านสูง 1-2 เมตร ต้องใช้เรือเดินทางเข้าออก ชาวบ้านเดือดร้อนแสนสาหัสถูกตัดน้ำตัดไฟมานานกว่า 5 วันแล้ว กลายเป็นหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ส่งเครื่องชาร์จไฟโซลาร์เซลล์มาติดตั้งภายในหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนได้ชาร์จแบตมือถือในการติดต่อคนภายนอก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จำนวน 1,999 ชุด และสิ่งของพระราชทานสำหรับเด็ก 100 ชุด และที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จ.ยะลา จำนวน 2,998 ชุด และสิ่งของพระราชทานสำหรับเด็ก 150 ชุด พร้อมกันนี้ พล.อ.เฉลิมชัยอัญเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี ที่ทรงห่วงใยราษฎรผู้ประสบภัย จากนั้นองคมนตรีพร้อมคณะยังลงพื้นที่ไปมอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางในหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมด้วย

จ.ยะลา จากเหตุการณ์ถนนมหามงคล หรือถนนเลี่ยงเมืองฝั่งมุ่งหน้าด่านพรมแดนเบตง ตรงข้ามทางเข้าสถานีขนส่งอำเภอเบตง จ.ยะลา ถูกน้ำกัดเซาะจนแตกทรุดถล่มพังเสียหายเป็นทางยาวกว่า 200 เมตร ลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนทั้ง 2 ฝั่งไม่ให้รถทุกชนิดผ่านเพื่อความปลอดภัย รวมทั้งย้ายคิวรถโดยสารในสถานีขนส่งทั้งหมดไปให้บริการที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ศาลาประชาคม) เทศบาลเมืองเบตง เป็นการชั่วคราว นายอดุลย์ หะยีสะ ขนส่งจังหวัดยะลา นำเจ้าหน้าที่ไปสำรวจพื้นที่ใช้เป็นอาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารชั่วคราว จุดจำหน่ายตั๋วโดยสาร เก็บขยะรอบอาคาร ก่อนจะเดินทางไปดูความเสียหายที่จุดเกิดเหตุ พบว่าถนนยังมีรอยแตกร้าวขยายวงกว้างและทรุดพังเพิ่มขึ้นอีก เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทยังไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้าไปเริ่มซ่อมแซมได้

จ.นครศรีธรรมราช เกิดเหตุสลดใจมีคนจมน้ำเสียชีวิตสังเวยน้ำท่วม 2 ศพที่ อ.ปากพนัง เป็นพื้นที่สุดท้ายที่รองรับมวลน้ำมาจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช และ อ.พระพรหม ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย ทำให้ยังมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ผู้เสียชีวิตศพแรกชื่อนายวิเชียร มุสิแดง อายุ 69 ปี หายตัวออกจากบ้านเมื่อคืนวันที่ 2 ธ.ค. ทีมกู้ภัยและชาวบ้านระดมออกค้นหาจนพบศพจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำด้านหลังสำนักงานชลประทานที่ 15 หมู่ 1 ต.หูล่อง ส่วนศพที่สองชื่อนายเมธี เพ็งคาม อายุ 57 ปี มีอาการป่วยจิตเวช จมน้ำเสียชีวิตในคูน้ำริมถนนทางเข้าวัดปากแพรก ต.ปากแพรก พบทั้ง 2 ศพ ในคืนเดียวกัน ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต รับศพไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป

จ.พัทลุง มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ แต่พื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัดทั้ง 6 อำเภอยังไม่มีน้ำป่าไหลหลาก ส่วนริมทะเลสาบสงขลาใน อ.ควนขนุน อ.เมืองพัทลุง อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว และ อ.ปากพะยูน ยังมีน้ำท่วมขัง เส้นทางในหมู่บ้านถูกตัดขาด โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมซ้ำซาก ส่วนถนนสายทะเลน้อย อ.ควนขนุน-อ.ระโนด จ.สงขลา ที่ผ่านสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ สะพานข้ามน้ำยาวที่สุดในประเทศไทย รถเล็กยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะที่เกษตรกรผู้เลี้ยงควายน้ำในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย พื้นที่ทุ่งหญ้าคลองนางเรียม ใกล้สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ ต้องอพยพควายขึ้นมาไว้ที่ปลอดภัยริมถนนที่น้ำยังท่วมไม่ถึง

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. ถึง 4 ธ.ค. เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 87 อำเภอ 538 ตำบล 3,729 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 664,173 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 29 ราย

ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ชะอวด อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.พระพรหม อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.ปากพนัง อ.หัวไทร และ อ.เชียรใหญ่ รวม 68 ตำบล 535 หมู่บ้าน ปัจจุบันคลองท่าดีมีระดับน้ำลดลง จ.พัทลุง 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองพัทลุง อ.ควนขนุน อ.ปากพะยูน อ.บางแก้ว และ อ.เขาชัยสน รวม 18 ตำบล 71 หมู่บ้าน ปัจจุบันลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาระดับน้ำลดลง จ.สงขลา 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ระโนด อ.สิงหนคร อ.กระแสสินธุ์ และ อ.สทิงพระ รวม 36 ตำบล 221 หมู่บ้าน จ.ปัตตานี 7 อำเภอ ได้แก่ อ.มายอ อ.ทุ่งยางแดง อ.หนองจิก อ.ยะรัง อ.เมืองปัตตานี อ.สายบุรี และ อ.กะพ้อ รวม 41 ตำบล 216 หมู่บ้าน ปัจจุบันแม่น้ำปัตตานีระดับน้ำลดลง และ จ.นราธิวาส 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนราธิวาส อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ รวม 16 ตำบล 64 หมู่บ้าน ปัจจุบันแม่น้ำสายบุรีมีระดับน้ำลดลง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงงบประมาณเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้ว่า ตามมติ ครม.อนุมัติวงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนครัวเรือนละ 9,000 บาท เพิ่มอีก 16 จังหวัด พร้อมขยายกรอบงบภัยพิบัติจาก 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท นายกฯสั่งให้ตนลงพื้นที่ภาคใต้ทันทีเพราะสถานการณ์หนักมาก หลังกลับจากพื้นที่ภาคใต้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมข้อมูล เร่งสำรวจความเสียหาย และเสนอต่อที่ประชุม ครม.จนเป็นมติ ครม.ออกมา หลังน้ำลดจะเยียวยาด้านสุขภาพ จิตใจ ความเสียหายต่างๆ อย่างเร่งด่วนต่อไป