ยะลาอ่วม “น้ำท่วมหนัก” กระทบย่านเศรษฐกิจการค้า ชาวบ้านหวั่นซ้ำรอยปี 2531 ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนประชาชนยกของขึ้นที่สูง

จากกรณีฝนตกลงต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วง วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ในพื้นที่จังหวัดยะลา ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ในเขตตัวเมืองยะลา โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจ หน้าสถานีรถไฟยะลา โรงแรมยะลารามา น้ำได้เข้าท่วมอย่างร็วดเร็ว ระดับน้ำสูงประมาณ 60-80 เซนติเมตร ชาวบ้านและร้านค้า ต้องเร่งอพยพสิ่งของ เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน ขณะที่บนถนน พบรถยนต์ จอดติดน้ำท่วมสูง 3-4 คัน 

เจ้าของร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (ร้านนพดลโทรทัศน์) เปิดเผยว่า ที่นี่น้ำเคยท่วมหนักเมื่อปี 2531 ระดับน้ำสูงถึงระดับคอ ท่วมเป็นวงกว้างของย่านเศรษฐกิจการค้า ได้รับผลกระทบทั้งหมด แต่ปีนี้น้ำมาเร็วมาก ตั้งแต่ 05.00 – 06.00 น. ระดับน้ำถึงหน้าร้านแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมอพยพสิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่อยู่ในร้านขึ้นที่สูง คาดว่าแนวโน้มดูจากสภาพอากาศ ท้องฟ้า น้ำน่าจะท่วมสูงกว่านี้

ขณะที่นายวิรุฬ วัชรวิภากร อายุ 62 ปี เจ้าของร้านถ่ายรูป เปิดเผยว่า ปีนี้น้ำมาเร็วมากตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตั้งใจมาขนเครื่องใช้ต่างๆ ภายในร้านขึ้นสู่ที่สูง แต่ไม่ทัน ดูจากสภาพอากาศยังกลัวๆ เกรงว่าจะซ้ำรอยเหมือนปี 2531 น้ำท่วมสูง ซึ่งในปีนั้นมีปัญหาคันดินของแม่น้ำปัตตานีเกิดพังทลาย ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ย่านเศรษฐกิจทั้งหมด

ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดยะลา ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดยะลา วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ตามที่ได้มีฝนตกหนักถึงหนักมากอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2567 ปริมาณฝนสะสม ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่จังหวัดยะลา ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองยะลา จำนวน 10 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,501 ครัวเรือน 66,004 คน อ.ยะหา จำนวน 6 ตำบล 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 72 ครัวเรือน 360 คน และ อ.บันนังสตา จำนวน 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16 ครัวเรือน 80 คน ส่วนพื้นที่อื่น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหาย

ทั้งนี้ แนวโน้มยังมีฝนตกต่อเนื่อง จังหวัดยะลาได้แจ้งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และได้มีการประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทาง แจ้งเตือนระดับน้ำที่จะล้นตลิ่งทั้งแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานีให้ประชาชนทราบ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ ขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยงไปยังที่ปลอดภัยแล้ว

ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลาได้มอบหมายเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง.