นายกฯ แพทองธาร มอบนโยบายแก้ปัญหาไฟป่า-ฝุ่น PM 2.5 ลั่นต้องจัดการให้เด็ดขาด แนะสร้างแรงจูงใจเกษตรกรแทนการเผา เพื่อนมงฟอร์ต “ทักษิณ” โผล่ให้กำลังใจ ขณะที่ “เดชอิศม์” วิดีโอคอลคุยด้วยเกาะติดน้ำท่วมหาดใหญ่ ส่วนชาวสันกำแพงต้อนรับอบอุ่น ยกให้เป็น กัปตัน Soft Power
วันที่ 29 พ.ย. 2567 เมื่อเวลา 13.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมมอบนโยบายเรื่อง แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ประจำปี 2568 ที่ห้องประชุมสโมสรยอดทัพ กองพลทหารราบที่ 7 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้นำโทรศัพท์ของตนเองที่กำลังวิดีโอคอลพูดคุยกับนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช. สาธารณสุข ยื่นให้กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายเดชอิศม์ ที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จ.เชียงใหม่ พูดคุยกับนายกฯ เนื่องจากนายเดชอิศม์ เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมเพื่อแก้ไขปัญหา ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเกิดน้ำท่วมหนักเมื่อคืนวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายกฯ ได้ฝากให้นายเดชอิศม์ ดูแลประชาชนในพื้นที่ด้วย
ต่อมาเวลา 14.32 น. นายกฯ เป็นประธานมอบนโยบายเรื่อง แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยนายกฯ กล่าวมอบนโยบายและข้อสั่งการตอนหนึ่งว่า ที่ครม.มาลงพื้นที่ที่นี่ เพราะทราบกันดีเรื่องฝุ่นควัน ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมผู้ว่าฯ เชียงใหม่ และขอบคุณเรื่องของการจัดการต่างๆ ทั้งเรื่องอุทกภัย ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อมีเรื่องของฝุ่นแบบนี้ก็น่าจะช่วยได้เร็วเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพราะความร่วมมือต้องมาจากภาคส่วนจริงๆ นอกจากนี้ต้องมองภาคเอกชนด้วยที่เราจะขอความร่วมมือในเรื่องการช่วยเหลืออุดหนุนเกษตรกร เรื่องของซังข้าวโพดนำมาแปรรูป ขณะที่ในเรื่องของงบประมาณจะไปดูในรายละเอียด เพราะสุขภาพถือเป็นสิ่งพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ ขอฝากกระทรวงมหาดไทยช่วยดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เมื่อเกษตรกรไม่เผา เพราะการเผามันง่ายและเร็วใช้งบน้อย ฉะนั้นต้องสร้างแรงจูงใจตรงนี้ จะทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อไม่เกิดการเผา ฉะนั้นขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาและขอให้กรมวิชาการเกษตรช่วยให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องของการแปรรูปหรือการทำแผนว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง รวมถึงต้องให้ความรู้กับเกษตรกรให้เข้าใจตรงกันว่าเผาแล้วปัญหาจบ แต่ถ้าไม่เผานำไปใช้อย่างอื่นเพื่อให้มีรายได้เพิ่มได้หรือไม่ เข้าใจว่าทุกที่อาจจะเปลี่ยนไม่ได้ทั้งหมด แต่อาจจะหานวัตกรรมใหม่ๆ มาให้ประชาชนใช้แปรรูปทดแทนการเผา ซึ่งเป็นปัญหาปีต่อปี จึงอยากให้แก้ปัญหาในเชิงระยะยาวด้วย
นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ขอความกรุณาให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พัฒนาลิงก์ของระบบตรวจจับฝุ่นควันและระบบแจ้งเตือนประชาชน และไม่แน่ใจว่าผู้ว่าฯ เชียงใหม่มีสายด่วนแจ้งหรือไม่ เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ติดต่อแจ้งได้อย่างรวดเร็ว เพราะเรื่องไฟไหม้รอนานไม่ได้ และหากทางจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายต้องการอุปกรณ์ดับไฟเพิ่มก็พร้อมที่จะสนับสนุน ขอให้แจ้งมา ขณะเดียวกันขอฝากดูเรื่องสุขภาพให้กระทรวงสาธารณสุขแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และประชาชนที่เข้ามาท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติก็ขอให้แจ้งให้ชัดเจน เพราะถ้าหากเขามาแล้วต้องเจอกับฝุ่นควันแบบนี้ ก็ขอให้ประสานในเรื่องนี้ด้วย
“วันนี้ที่มาตั้งใจว่าเราต้องการจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังด้วย เพราะเจ้าหน้าที่เองก็สำคัญมากๆ เข้าไปก็จะมีเรื่องอุบัติเหตุ ขอให้ดูแลเจ้าหน้าที่ตรงนี้ให้ดีและหากต้องการอะไรเพิ่มเติมจากทางส่วนกลาง ขอให้รีบแจ้งมา ฝุ่นก็ใกล้เข้ามาแล้ว แต่ยังมีเวลาให้เตรียมความพร้อมให้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปีที่แล้วเรื่องฝุ่นลด 50% เดี๋ยวรอดูกันว่าปีนี้จะลดได้อีกกี่เปอร์เซ็นต์ มั่นใจในทุกฝ่ายขอให้ร่วมมือกันแบบนี้ บูรณาการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติและประชาชนขอขอบคุณทุกฝ่ายมากๆ ในการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยและจริงจัง” นายกฯ กล่าว
จากนั้นนายกฯ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันไฟป่า ก่อนที่นายกฯ รับความเคารพจากกำลังพลปฏิญาณตน เพื่อปฏิบัติการป้องกันและควบคุมไฟป่า
ต่อมานายกฯ กล่าวมอบนโยบายและให้กำลังใจแก่กำลังพล ว่า ต้องขอขอบคุณสำหรับคำปฏิญาณได้ฟังแล้วรู้สึกว่าในฐานะของประชาชน รู้สึกสบายใจที่กองกำลังเข้มแข็งขนาดนี้ วันนี้ดิฉันขอเป็นตัวแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอบคุณทุกท่านในความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เข้าใจว่าการไปตรงนั้นมีความเสี่ยงเยอะ ก็ขอขอบคุณทุกท่านมากๆ ที่เป็นตัวแทน และมากไปกว่านั้นขอให้ทุกท่านดูแลตัวเองและปกป้องพื้นที่ป่าไม้ทุกอย่างด้วยความระมัดระวังในชีวิต เพราะชีวิตของทุกท่านก็สำคัญเป็นอย่างมาก และอีกเรื่องเวลาที่ประชาชนอยากขอความช่วยเหลือในพื้นที่ ก็ขอให้ช่วยดูแลตรงนั้นให้เขาด้วย เพราะเขาอาจจะไม่ชำนาญหรือไม่รู้วิธีแต่เราได้ถูกฝึกมา จึงขอให้ช่วยดูแลด้วย
นายกฯ กล่าวต่อว่า การที่มาดูแลตรงนี้ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญ เพราะสุขภาพของทุกท่านเป็นพื้นฐานของชีวิต การที่ท่านได้ดูแลตรงนี้ทำให้พื้นฐานของชีวิตประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น ก็ต้องขอชื่นชมและส่งกำลังใจให้ ขอให้ทุกท่านภูมิใจในตัวเองที่ได้ช่วยเหลือประชาชน และหวังว่าทุกภาคส่วนทำงานกันอย่างบูรณาการ ร่วมมือกันแก้ปัญหาควันและฝุ่น PM 2.5 ขอให้ลดลงทุกๆ ปี จากปีที่แล้วมาปีนี้ลดลงครึ่งหนึ่งแล้ว และปีนี้ต่อไปข้างหน้าขอให้ลดลงอีกได้เรื่อยๆ เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงต่อไป สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และปลอดภัยกลับบ้าน ดูแลประชาชนแบบนี้ไปนานๆ
ต่อมานายกฯ มอบถุงเสบียงยังชีพให้กับตัวแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่าจาก 5 หน่วยงาน ก่อนถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก พร้อมเดินตรวจแถวกำลังพล และทักทายเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีศิษย์เก่ามงฟอร์ต 2508 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาถือป้ายต้อนรับข้อความว่า “ขอแสดงความยินดีและต้อนรับนายกฯ อุ๊งอิ๊งด้วยความยินดียิ่ง” พร้อมระบุว่าวันนี้ให้กำลังใจนายกฯ ขณะที่นายกฯ ได้พูดคุยทักทายอย่างเป็นกันเอง
ครม. เข้มห้ามรถบรรทุกเข้าเมืองช่วงวิกฤติ PM2.5
ขณะที่ก่อนหน้านั้น ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม น.ส.แพทองธาร ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม.เห็นชอบมาตรการรับมือสถานการณ์ของไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองในปี 2568 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เพื่อควบคุมพื้นที่เผาไหม้จากการเผาข้าวโพด อ้อย และจากโรงงานอุตสาหกรรม และควบคุมการเผาในกลุ่มพืชเป้าหมาย ตลอดจนควบคุมฝุ่นละอองในเขตเมืองในช่วงที่มีวิกฤต PM2.5 ให้ประกาศห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าเขตเมือง และตรวจจับรถควันดำอย่างเข้มงวด รวมทั้งควบคุมพื้นที่ก่อสร้าง และสร้างการจัดการหมอกควันข้ามแดนโดยสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล ศูนย์แจ้งเตือน และศูนย์พัฒนาการเฝ้าระวังควบคุมระดับไฟในประเทศเพื่อนบ้าน
ชาวสันกำแพงต้อนรับอบอุ่น ยกให้เป็น กัปตัน Soft Power
ต่อมาเวลา 16.10 น. น.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่ติดตามโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และโครงการสำคัญที่กระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2568 ที่โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ ต.สันกลาง อ.สันกำแพง มีประชาชน อ.สันกำแพงรวมตัวกันให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร โดยทำป้ายรูป น.ส.แพทองธาร สวมชุดซุปเปอร์ฮีโร่หญิง พร้อมข้อความ “Soft Power อำนาจแห่งความสร้างสรรค์ เพื่อสรรค์สร้างเศรษฐกิจไทย CAPTAIN SOFT POWER ชาว อ.สันกำแพง ขอร่วมขับเคลื่อนนโยบาย soft power อย่างเต็มพลัง” ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เซ็นชื่อที่ป้ายดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ยังมอบพวงมาลัยดอกดาวเรืองคล้องคอให้นายกฯ โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณค่ะและขอให้สุขภาพแข็งแรง
บอกกาแฟไทยต่างชาติเห็นขายได้แน่นอน
จากนั้นเวลา 16.40 น. น.ส.แพทองธาร เดินทางมายังศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ OLD Chiang Mai ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อร่วมงาน Northern Coffee Gathering 2024 โดยมีสามีและลูกๆ มาร่วมกิจกรรมด้วย เมื่อมาถึงนายกฯ ได้เยี่ยมชมร้านค้าต่างๆ ภายในงาน และอุดหนุนผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดกระเป๋าผ้าฝ้าย หมวกผ้าฝ้าย และยังได้ซื้อไอศกรีมให้ลูกๆ จากนั้นนายกฯ เข้าร่วมกิจกรรมล้อมวงคุยกับนายกฯ ที่เป็นวงพูดคุยระหว่างนายกฯ กับผู้ประกอบการกาแฟ โรงแรม และการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยตัวแทนผู้ประกอบการกาแฟ ได้สะท้อนปัญหา ว่า อยากให้มีนโยบายฟื้นฟูพื้นที่ป่าเชิงดอย เพราะการทำลายป่าปลูกพืชเชิงเดี่ยวส่งผลกระทบต่อน้ำ ทำให้เกิดไฟป่า ไร่กาแฟได้รับความเสียหาย และอยากให้ปรับภาษีกาแฟให้มีตัวเลขที่เหมาะสม ให้กาแฟไทยสามารถแข่งขันกาแฟต่างชาติได้ และกาแฟถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่การผลิตในปัจจุบันลดลง แต่ความต้องการมากขึ้น จึงเป็นจังหวะที่ประเทศไทยจะประกาศว่าเราสามารถผลิตกาแฟได้มากขึ้น
โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนทำซอฟต์พาวเวอร์ได้คุยกับวงการกาแฟเยอะ คนมีความสามารถเยอะ ผลิตภัณฑ์ของเราน่าขายถ้าต่างชาติมาเห็น ขายได้แน่นอน อันนี้คิดว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์จริงๆ และเรื่องของภาษีและกฎหมายที่มีมายาวนาน 30 ปี คงต้องไปว่ากันในสภาฯ เพราะถือเป็นเรื่องที่จำเป็น
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ