นายกฯ แพทองธาร รับมือวิกฤติน้ำท่วมเชียงใหม่ เร่งช่วยเต็มที่

“นายกฯ แพทองธาร” ส่งความห่วงใยน้ำท่วมเชียงใหม่ บอก ปัญหาน้ำต้องวางแผนระยะยาว ยกคุยกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย “ภูมิธรรม” ขอโทษบางส่วนได้รับการช่วยเหลือล่าช้า เร่งช่วยเต็มกำลัง วอนเข้าใจคนหน้างาน

วันที่ 7 ตุลาคม 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลายพื้นที่ยังอยู่ในวิกฤติ ว่า ขอส่งความห่วงใยไปถึงคนเชียงใหม่ เราก็มีศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ส่วนหน้า เข้าไปดูแล แต่จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ ก็ถือว่าโชคดีเพราะได้รับ SMS แจ้งเตือนก่อนล่วงหน้าหลายวัน จึงมีการเตรียมการ แต่เมื่อน้ำมาจริงๆ ก็ถือว่าหนัก ซึ่งทุกฝ่ายก็ช่วยกันเต็ม มี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ยังต้องขอบคุณและส่งกำลังใจให้อาสาสมัครที่รุมกันเข้ามาช่วยเหลือด้วย

เมื่อถามว่าสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ ถือว่าหนักกว่าหลายๆ ปี จะถือโอกาสปรับเปลี่ยนเรื่องผังเมืองให้รับกับสถานการณ์น้ำหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นภาพใหญ่ เราต้องมีแพลน A B C D ลำดับแรกคือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าว่ารับมือได้แค่ไหน การเยียวยาต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุด แต่เรื่องแผนจัดการน้ำระยะยาวต้องมาคุยกัน ส่วนตัวยอมรับว่าเห็นน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงหาเสียงอยากวางแผนระยะยาวให้จบ ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนให้ทำเรื่องนี้ต่อให้จบ ซึ่งจะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ช่วยกันคิดว่าจะวางแผนระยะยาวได้อย่างไร ถ้าจะใช้เวลาถึง 10 ปี ในการซ่อมและสร้างก็ต้องใช้ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำ หากเทียบกับงบประมาณแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็ถือว่ามากพอสมควร แต่เรื่องแผนระยะยาวต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้

ส่วนคำถามว่าในการประชุมสุดยอดอาเซียนจะมีการพูดคุยกับประเทศเมียนมา ถึงการปล่อยน้ำและการลุกล้ำพื้นที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องการพูดคุยกับเมียนมาถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ก่อนหน้านี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้พูดคุยกันรอบหนึ่งแล้ว ในเรื่องของพื้นที่ต่างๆ เรื่องการบุกรุกพื้นที่ทั้งสองฝั่ง ทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้สะดวก ได้พูดคุยไป และมีการขอความร่วมมือซึ่งกันและกัน ซึ่งการคุยกันเป็นไปในทางที่ดี โดยจะต้องคุยเรื่องนี้อย่างแน่นอน และยังมีอีกหลายๆ ประเด็นที่ต้องพูดคุย ทั้งเศรษฐกิจ การลงทุน และความสงบ

ทางด้านแผนรับมือในพื้นที่ลุ่มภาคกลางที่เริ่มได้รับผลกระทบแล้วนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้มอนิเตอร์เรื่องคันกั้นน้ำ แต่เรื่องของน้ำท่วมจากที่ได้พูดคุยกับกรมชลประทาน ในส่วนของเขื่อนเจ้าพระยา ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีกเยอะ หากมีฝนตกลงมาอาจจะมีท่วมบ้างแต่ไม่หนักเหมือนภาคเหนือ และได้ดูเรื่องพายุด้วยที่คาดการณ์ว่าจะไม่เข้ามาเยอะเหมือนปี 2554 แต่ต้องยอมรับว่าปีนี้ฝนตกหนักกว่าปกติ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือ ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงรายเริ่มคลี่คลาย โดยเจ้าหน้าที่กรมการทหารช่าง อุดแนวรั่วได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนเรื่องอาหารไม่ได้ขาดแคลน หากขาดแคลนจะดึงมาจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ในเรื่องกระแสข่าวประชาชนบางส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้กินข้าวเพราะการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐเข้าไม่ถึงนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า หากทราบแล้วจะรีบจัดการ ซึ่งการเข้าไม่ถึงมีความเป็นไปได้ เพราะน้ำมาเร็วมาก มาทุกทิศทาง แต่พยายามเต็มกำลัง ซึ่งไม่ใช่เป็นปัญหา และขอโทษที่ยังทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ จะพยายามเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ เสบียงอาหารในภาพรวมไม่มีปัญหา แต่อาจมีบางส่วนที่ยังติดขัดอยู่เพราะน้ำท่วมทั้งจังหวัดซึ่งเราดูดาวเทียม และทุกส่วนพยายามแก้ไขปัญหากันอยู่แล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามรับฟัง แก้ไขปัญหา และทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้

นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า จังหวัดเชียงราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดการปัญหาเรื่องโคลน ซึ่งหลายส่วนสามารถเคลียร์ออกมาได้แล้ว ส่วนพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่น่าเป็นห่วงเพราะฝนหยุดตกแล้ว รอแค่น้ำหลากออกไป ขณะนี้ได้มีการเพิ่มรถยกสูงขนาดใหญ่เข้าไปช่วยลำเลียงคนออกจากพื้นที่ คาดว่าใน 2 วันนี้สถานการณ์จะคลี่คลาย ส่วนการขนย้ายช้างและคนที่อยู่รอบลำน้ำปิง ได้นำออกมาหมดแล้ว

ในส่วนของพื้นที่จังหวัดนนทบุรีที่แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มเอ่อท่วมตามแนวตลิ่งเข้าบ้านเรือนประชาชนนั้นได้มีการประกาศเตือนเบื้องต้นแล้ว และมีการจัดสรรการระบายน้ำ ไม่ให้มากจนเกินไป แต่ยอมรับว่า อาจจะมีผลกระทบบ้าง ทั้งพื้นที่อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง หรือในเขตจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำด้วย เมื่อเกิดน้ำท่วมต้องมีการเยียวยาไป ขณะเดียวกันยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาไม่สามารถแก้ได้ทั้งหมด เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องแก้ทั้งระบบ ทั้งการเคลื่อนย้ายประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งงบประมาณ 1 ปีในการดูแลเรื่องน้ำท่วมเป็นแสนล้านบาท และวันที่ 8 ตุลาคมนี้ จะมีการรายงานต่อที่ประชุม ครม.

อีกทั้งในวันที่ 8 ตุลาคม ตนจะประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์อีกครั้งเพื่อเตรียมการรับมือหลังน้ำลด หลังได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สำรวจบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ส่วนเรื่องหลักเกณฑ์เยียวยาประชาชนที่จะปรับเป็น 9,000 บาททุกครัวเรือนนั้น มีปัญหาที่ยากลำบากเรื่องระเบียบไม่รวดเร็วอย่างที่ใจอยากได้ โดยจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อทำเรื่องอนุมัติย้อนหลัง เพราะมองว่าประชาชนกำลังเดือดร้อน และไม่ควรพูดเรื่องหลักเกณฑ์ 3,000 บาท 5,000 บาท 7,000 บาทแล้ว เพราะน้ำเข้าก็ท่วมทั้งบ้าน ในส่วนนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ระเบียบกฎเกณฑ์อีกหลายอย่าง เพราะปัจจุบันมีเพียงหลักเกณฑ์เก่า ซึ่งจะพยายามให้กระทรวงมหาดไทย สั่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เร่งจ่ายดูแลประชาชนไปพลางก่อน และหลังจากนี้จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป

เมื่อถามถึงเรื่องที่มีการมองว่าเงินเยียวยาไม่สมดุลกับความเสียหายนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่สมดุลอยู่แล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมาและเป็นเหตุการณ์ดินโคลน สิ่งที่วางไว้เป็นกฎเกณฑ์เก่า ต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตไว้ ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีมีการที่มีประชาชนร้องเรียนเรื่องสายด่วน 1567 ที่โทรไปขอความช่วยเหลือ แต่ได้รับการช่วยเหลือล่าช้า นายภูมิธรรม ตอบว่า เดี๋ยวจะไปแก้ไข ส่วนใหญ่เท่าที่ประสานงานเจ้าหน้าที่เกือบจะไม่ได้นอน โดยแบ่งเป็น 2 ผลัด ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้ แต่ขอให้เข้าใจและคำนึงในส่วนของหน้างานว่าพวกเขาทำงานกันหนักจริงๆ แต่ถ้าจะวิจารณ์ไปอย่างเดียว ก็ขอให้เข้าใจเห็นใจเจ้าหน้าที่ อยากขอความกรุณาให้คิดในมุมบวกบ้าง ในตอนท้ายเมื่อถามว่าจะต้องระดมเจ้าหน้าที่จากจังหวัดอื่นมาช่วยแก้ปัญหาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้อง ทุกคนปฏิบัติงานในที่ของตัวเอง ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ดูแลภาคอีสานไป หากวิ่งไปวิ่งมาเละเทะแน่นอน.