เป็นที่น่าสังเกตว่า ธุรกิจขายตรง ธุรกิจออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ธุรกิจสีเทาๆ พนันออนไลน์ ทั้งหลาย มักจะเจริญ เติบโตในประเทศที่ด้อยพัฒนา โดยเฉพาะบ้านเรา ธุรกิจเหล่านี้จะเฟื่องฟูมาก มีนายทุนสีเทา เข้ามาลงทุนจนร่ำรวย ในขณะที่ กฎหมายเอื้อมมือเข้าไปไม่ถึง แทรกซึมเข้าไปในทุกวงการ เป็นเครือข่ายใต้ดินที่มีโครงข่ายขนาดใหญ่ และ มีความซับซ้อนของโครงสร้าง ในการหลีกเลี่ยงการกระทำความผิดตามกฎหมายและไม่สามารถที่จะคุ้มครองผู้เสียหายได้ทั่วถึง

เพราะในประเทศที่ด้อยพัฒนา (การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม การเมือง) สามารถที่จะใช้เงินซื้อได้ทุกอย่าง แม้กระทั่ง อำนาจในการบริหารประเทศและตำแหน่งทางการเมือง เป็นกรณีศึกษา ในการที่จะเอาธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน ที่อันตรายกว่า คือการ เอาธุรกิจที่อยู่บนดิน ไปแสวงหาผลประโยชน์ ใต้ดิน อย่างถูกกฎหมาย

ประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศเดียวที่ มีการใช้เครือข่ายออนไลน์ได้อย่างอิสระเสรี โดยเจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรที่เกี่ยวข้อง เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เอาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง การเปิดเสรีเทคโนโลยี เอไอ โดยไม่มีการควบคุม และบทลงโทษ แม้แต่เด็กทารกก็สามารถที่จะใช้มือถือได้อย่างเสรี จะนำไปสู่เมืองนรก

ดังนั้น โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือบ่อนพนันถูกกฎหมาย เกิดขึ้นในประเทศไทยวันไหน ก็ต้องทำใจไว้เลย เอาเฉพาะที่เป็นข่าวฉาวอยู่ในขณะนี้ คดีดิ ไอคอน ยิ่งขุดก็ยิ่งเจอ เครือข่ายและความสัมพันธ์ของธุรกิจสีเทา เท่าที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบทรัพย์สินต้องสงสัย (หลังจากที่คาดว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเทล่วงหน้า เนื่องจากมีการประกาศล่วงหน้าว่าจะดำเนินคดีกับดิ ไอคอน กรุ๊ป ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ) สำนักงาน ปปง.หน่วยงาน เดียว ดำเนินการยึดทรัพย์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ประเภทหุ้นในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ หน่วยลงทุน และสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 26 รายการ และเป็นทรัพย์สินประเภทเงินในบัญชีซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 63 รายการ มีการยึดและอายัดทรัพย์สิน 89 รายการ มูลค่า ประมาณ 144,275,765 บาท พร้อมดอกผลไว้ชั่วคราวมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน มูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้เป็นเงินประมาณ 320,320,308 บาท (ก.ล.ต. งานต้องเข้าด้วย)

ซึ่ง ปปง. มีการตรวจสอบที่ไปที่มาของทรัพย์สินอาจเข้าข่ายลักษณะ การฟอกเงิน ด้วย (มีโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท) เป็นตัวอย่างของความไม่สมดุล ทางกฎหมาย มูลค่าความเสียหายมหาศาลขนาดนี้ ถ้ากฎหมายลงโทษขนาดนี้ คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ไม่ต้องเปลืองแรงมากมาย แค่พูดๆๆๆ แล้วก็ได้ส่วนแบ่งนับ 70-80 ล้าน

วันก่อนเห็น รมว.พาณิชย์ พิชัย นริพทะพันธุ์ แถลงว่านายกฯ แพทองธาร ชินวัตร สั่งตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาสินค้านำเข้าไม่มีคุณภาพและธุรกิจต่างประเทศที่ผิดกฎหมายเพื่อลดผลกระทบผู้บริโภค ก็ยังเกาไม่เคยถูกที่คันอยู่ดี.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม