“ทนายสายหยุด” เผย “ทนายตั้ม” ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ใส่สูทรอให้จับกุมหลายวัน พร้อมไม่เครียดถูกดำเนินคดี เตรียมพยานหลักฐานไว้อย่างละเอียดแล้ว
เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 8 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หลังสอบปากคำกว่า 11 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พร้อมนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด สองสามีภรรยา ลงจากห้องสอบสวน เพื่อนำตัวเข้าห้องขังที่บริเวณชั้น 1 ภายในตัวอาคารกองบังคับการปราบปราม
ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ทนายตั้มจะลงมาห้องขัง ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่า “ยังมีนักข่าวเฝ้าอยู่หรือไม่” เนื่องจากไม่อยากเจอ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจึงขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนให้ออกมาเฝ้าสังเกตการณ์ด้านนอกอาคารแทน กระทั่งผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทนายตั้มเดินลงจากห้องสอบสวน โดยทนายตั้มมีสีหน้าอิดโรย ระหว่างเดินไปห้องควบคุมพยายามเหลือบมองสื่อมวลชนอยู่ตลอดเวลา รวมถึงนางปทิตตา ก็ได้เดินก้มหน้า ก่อนทั้งสองจะถูกนำตัวเข้าห้องขังไปทันที
ทางด้าน นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม เผยว่า ทนายตั้มไม่เครียดกับการถูกดำเนินคดี พร้อมทั้งยังเตรียมตัวถูกจับกุมจากตำรวจมาเป็นเวลานานถึง 5 วัน โดยใส่สูทแต่งตัวรอให้ถูกจับกุมอยู่ที่บ้านตลอดเวลา กระทั่งวันนี้เห็นว่ายังไม่มีการออกหมายจับจึงเดินทางไปทำบุญที่วัดในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี
ทั้งนี้ มีความบริสุทธิ์ใจสังเกตได้จากการแต่งตัวและเสื้อผ้า ที่ทั้งสองคนวางแผนว่าจะไปนอนทำวัตรเย็นที่วัดและเดินทางกลับบ้าน ไม่ได้จะเดินทางหนีออกไปยังชายแดนอย่างที่ทุกคนตั้งข้อสังเกต แต่ยอมรับว่าภรรยาของทนายตั้มมีอาการเครียด เนื่องจากเป็นผู้หญิงและไม่คิดว่าจะต้องถูกดำเนินคดีเข้าเรือนจำ
ส่วนแนวทางการต่อสู้คดี ยืนยันว่าตนและทนายตั้มได้เตรียมพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารหลักฐานสัญญาไว้อย่างละเอียดแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถนำไปต่อสู้คดีในชั้นศาลได้ แต่ทั้งนี้ล้วนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและการตีความกฎหมาย นอกจากนี้ จะหารือกับญาติของลูกความทั้งสองคนว่าจะเตรียมหลักทรัพย์ในการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้อย่างไร.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ