สมุทรสาคร ทนายตั้มวางแผนรีโนเวท สำนักงานทนายความเดิม ในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ให้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งกลางปีหน้านี้ 2568 เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์แก่ผู้ที่มาร้องเรียน แต่ดันมาถูกจับกุมเสียก่อน

จากกรณีตำรวจกองปราบนำกำลังจับกุม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีหลอกลวงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย. 2567 ข้อหา ฉ้อโกง, ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน รวมถึงจับกุม นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย. 2567 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน หลังพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว โดยทนายตั้มและภรรยาให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา ทั้งนี้หลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนจะไม่อนุญาตให้ประกันตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สำนักงานทนายความษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขที่ 67/4 ม.3 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น โดยที่สำนักงานไม่ได้เปิดทำการ และไม่มีป้ายชื่อสำนักงานบอก

จากการสอบถามคนงานละแวกใกล้เคียง บอกว่า ตัวทนายตั้มเขาไม่ค่อยได้มาที่นี่นานแล้ว และตนก็ทราบข่าวว่าเขาถูกจับ ก็ไม่มีอะไรที่จะพูดและก็ไม่ส่งกำลังใจไปให้

นอกจากนี้ทางด้านทนายตั้ม ได้เคยเปิดเผยกับบุคคลใกล้ชิดรายหนึ่งว่า ตนเองมีแผนที่จะปรับปรุงสำนักงานทนายความเดิม ซึ่งเคยเปิดในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ให้กลับมาเป็นสำนักงานทนายความอีกครั้งในราวๆ กลางปีหน้านี้ (2568) เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์แก่ผู้ที่มาร้องเรียน และจะคืนพื้นที่อาคารเช่าสำนักงานทนายในกรุงเทพฯ เนื่องจากตรงนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง จึงตั้งใจจะกลับมาทำออฟฟิศเดิมให้เป็นสำนักงานทนายความที่มีความพร้อม ไม่ต่างจากที่กรุงเทพฯ ส่วนหากมีการแถลงข่าว ก็มั่นใจว่าพื้นที่ตรงนี้จะสามารถรองรับพี่น้องสื่อมวลชนที่จะมาร่วมรับฟังการแถลงข่าวได้เป็นอย่างดี ขณะที่การเดินทางก็ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้เข้ามาตรวจค้นบ้านของทนายตั้ม ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งบนถนนพุทธสาคร ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร แต่ว่าได้อะไรไปนั้น ไม่ได้รับการเปิดเผยใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.กระทุ่มแบนเข้าไปไม่ทัน และหลังจากนั้นทางตำรวจได้ประสานกับทาง รปภ. ซึ่งทาง รปภ.บอกว่า เขากลับไปตั้งแต่ 15.00 น. แล้ว และก็ไม่ได้มีการอนุญาตให้หน่วยงานใดเข้าไปในพื้นที่อีกเลย.