ตำรวจเตรียมนำ “อดีตภรรยา-ลูกสาว” หมอบุญ พร้อมพวกฝากขังพร้อมยื่นคำร้อง คัดค้านการประกันตัว ผบก.น.1เผย 2 แม่ลูกยังให้การภาคเสธ ระบุแค่ว่าถูกปลอมลายเซ็นเท่านั้น ในส่วนนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบหากเป็นเรื่องจริงจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม นอกจากนี้ยังรอหารือผู้บังคับบัญชาจะมีแนวทางรับแจ้งความเหยื่ออย่างไรเพราะมีผู้เสียหายจากต่างจังหวัดทยอยแจ้งความต่อเนื่อง พร้อมยื่นเรื่องไปกองการต่างประเทศขอตำรวจสากลออกหมายแดงจับกุม“หมอบุญ” ที่หนีไปกบดานเมืองจีน ด้านโฆษกดีเอสไอเผยยังไม่มีการประสานเรื่องนี้เข้ามาให้รับเป็นคดีพิเศษ

กรณีศาลออกหมายจับนายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี อดีตภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี ลูกสาว พร้อมพวก รวม 9 คน ข้อหาฉ้อโกง สมคบกันฟอกเงินและ พ.ร.บ.เช็ค หลังเปิดโครงการใหญ่ล่อลวงเหยื่อกระเป๋าหนักกว่า 247 คน ลงทุน 5 โครงการ สูญเงินรวมกว่า 7.6 พันล้านบาท ชุดสืบสวนนครบาลตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน ส่วนอดีตเมียกับลูกสาวเข้ามอบตัวอ้างว่าถูกปลอมลายมือชื่อเซ็นค้ำประกันเงินกู้ ตำรวจคุมตัวสอบเครียด ส่วนหมอบุญพบบินหนีไปฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังประเทศจีน อยู่ระหว่างประสานตำรวจสากลตามล่าตัว นอกจากนี้ยังมีเหยื่ออีก 12 คน แจ้งความตำรวจ ปอศ.หลังถูกผู้ต้องหากลุ่มเดียวกันโกง รวมเป็นเงิน 1.9 พันล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งส่งสำนวนการสอบสวนให้ดีเอสไอไปแล้วหลังพบมูลความผิดเข้าข่ายคดีพิเศษ

ความคืบหน้าในคดีนี้ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 พ.ย. บรรยากาศที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.พญาไท สถานที่ควบคุมผู้ต้องหาชั่วคราว นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี อดีตภรรยา นพ.บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี ลูกสาวหมอบุญ ทั้งคู่ยังถูกคุมขังอยู่ ไม่มีเจ้าหน้าที่เบิกตัวไปสอบสวน เมื่อคืนและเช้าที่ผ่านผู้ต้องหาไม่เรียกร้องเอาอะไรเป็นพิเศษ ทั้งคู่มีความกังวลและเครียดเป็นปกติ แต่ด้วยความเป็นแม่ลูกได้อยู่ด้วยกันทำให้คลายกังวลช่วยเหลือกันได้บ้าง ส่วนเวลาเยี่ยมผู้ต้องหาช่วงเช้าเวลา 08.00-09.00 น. มีญาติเป็นหญิง 1 คน ซื้อข้าว ผลไม้ กาแฟ พร้อมข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าเข้าเยี่ยมแต่ไม่สะดวกให้ข้อมูลสื่อมวลชนและไม่สะดวกให้ถ่ายภาพ ส่วนในช่วงบ่ายมีคนขับรถนำของใช้ส่วนตัว 2 แม่ลูกมาให้ คาดว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะถูกคุมขังอยู่ที่นี่ถึงวันที่ 25 พ.ย. ก่อนนำผู้ต้องหาไปผัดฟ้องฝากขังที่ศาลอาญารัชดาต่อไป

มีรายงานระบุว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาทุกคนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้ จะนำผู้ต้องหาทุกรายส่งฝากขังที่ศาลอาญาในวันพรุ่งนี้

พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำ น.ส.นลิน ลูกสาว เสร็จแล้ว เหลือเพียงนางจารุวรรณ อดีตภรรยานพ.บุญ ที่เมื่อคืนนี้ได้ขอพักและขอทานยาโรคประจำตัวหลายครั้งจนต้องพักการสอบสวน เบื้องต้นทั้งคู่ให้การภาคเสธ ยืนยันแค่ว่าถูกปลอมแปลงลายเซ็นเท่านั้นแต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน ยืนยันแค่ว่าได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เตรียมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ

ผบก.น.1 เผยอีกว่า คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากเฉพาะในพื้นที่ บก.น.1 มีมากกว่า 247 คน ความเสียหายกว่า 7,600 ล้านบาท ยังไม่นับรวมพื้นที่อื่นๆและในต่างจังหวัด จากนี้จะประชุมหารือร่วมกับผู้บังคับบัญชาจะมีแนวทางรับแจ้งความผู้เสียหายอย่างไร เพราะมีผู้เสียหายจากต่างจังหวัดทยอยแจ้งความต่อเนื่อง ตำรวจนครบาลจะรับเรื่องไว้เบื้องต้นก่อน ส่วน นพ.บุญ ที่อดีตภรรยาและลูกให้ข้อมูลว่า อยู่ที่ ประเทศจีนนั้น พนักงานสอบสวนยื่นเรื่องไปที่กองการต่างประเทศขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดง โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ไทยและจีน มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนแต่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ส่วนคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงต้องทำหนังสือชี้แจงขอความร่วมมือ

พล.ต.ต.อัฏธพรกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ชุดทำงานอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่า มีการปลอมแปลงลายเซ็นจากคนอื่นจริงหรือไม่ หากมีการปลอมแปลงจริงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีผู้ก่อเหตุเกี่ยวข้องเพิ่ม รวมถึง ตรวจโบรกเกอร์ที่ชักชวนผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุนหรือกู้เงิน ส่วนลูกสะใภ้นายแพทย์บุญจะถูกออกหมายจับด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานแต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้ต้องหาเพิ่มเติม อีกประเด็นคณะพนักงานสอบสวนจะไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) ในวันที่ 25 พ.ย. เพื่อตรวจสอบการรับจำนำหุ้นจริงหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบการธุรกรรมทางการเงินว่า มีการปลอมแปลงลายมือผู้เสียหายหรือไม่ ฝากประชาสัมพันธ์คนที่ตกเป็นเหยื่อเช็คเด้งหรือเป็นผู้ค้ำประกัน และผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน สามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่โดยไม่ต้องกังวลว่าคดีดังกล่าวจะเป็นคดีแพ่ง เพราะจากการตรวจสอบพยานหลักฐานพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ประสงค์ต่อทรัพย์ถือว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชน เป็นคดีอาญาที่สามารถดำเนินคดีได้

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง จะฝากขังผู้ต้องหาภรรยาและลูกของหมอบุญ ในวันที่ 25 พ.ย. พร้อมมีความเห็นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากป้องกันการเข้ามายุ่งเหยิงกับพยาน หลักฐาน และมีลักษณะความผิดเข้าข่ายกระทำความผิดเป็นขบวนการ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

อีกด้านหนึ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวถึงคดี นพ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี กับพวก ในคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงชักชวนให้ลงทุน โดยจะมอบสำนวนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังมีมูลค่าทรัพย์สินความเสียหายเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ว่า ได้ตรวจสอบไปยังเลขานุการกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ได้รับรายงานว่า ยังไม่มีการประสานเรื่องดังกล่าวเข้ามา อย่างไรก็ตาม หากมีการประสานให้ดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ จะต้องดูเรื่องข้อกฎหมายประกอบ อาทิ สำนวนดังกล่าวมีข้อกล่าวหาที่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอหรือไม่ ตามพฤติการณ์แห่งคดี สำนวนคดีมีความครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอที่จะรับดำเนินการไว้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ มีรายละเอียดเป็นไปตามบัญชีแนบท้ายของประกาศ กคพ.หรือไม่ ท้ายสุดจะเป็นอำนาจของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่จะพิจารณาจากเนื้อหาข้อเท็จจริงทั้งหมด

มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หลังเกิดคดีดังกล่าว โดย ก.ล.ต.ได้ติดตามข่าวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนายแพทย์บุญเป็นอดีตประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (THG) ในเบื้องต้นจากข้อมูลที่ปรากฏตามข่าวพบว่า นายแพทย์บุญได้กระทำในนามส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับ THG อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา ยังไม่เข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ที่มุ่งเน้นการทุจริตฉ้อโกงในบริษัทที่ออกเสนอขายหลักทรัพย์กับประชาชน อย่างไรก็ตาม จะติดตามกรณีนี้อย่างต่อเนื่องหากพบการกระทำที่อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ จะเร่งดำเนินการและประสานกับพนักงานสอบสวนต่อไป

สำหรับกรณีบริษัท THG ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 20 ก.ย.67 เกี่ยวกับการตรวจพบรายการอันควรสงสัยของบริษัทย่อยของ THG ในการทำรายการให้กู้ยืมเงินให้กับบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มครอบครัววนาสิน รวมทั้งสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งในประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่ได้รับมอบสินค้าจริงนั้น ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบเกี่ยวกับการกระทำที่อาจเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ปัจจุบัน นพ.บุญไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ก.ล.ต.ได้ขอให้พนักงานอัยการฟ้องนายแพทย์บุญต่อศาลแพ่ง กรณีเผยแพร่ข้อความที่อาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและราคา THG เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง และกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร